Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 ตุลาคม 2559 กสทช. อนุมัติให้ดำเนินการแจกคูปองส่วนลด 690 บาท/ครัวเรือน ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอแจก 4,785,523 ครัวเรือน พร้อมย้ำให้มีการกำหนดมาตรการแลกอุปกรณ์ให้โปร่งใส คาดว่าจะเริ่มแจกได้ปลาย พ.ย.นี้ หลังเสนอที่ประชุม กสท. กำหนดวันแจก

ประเด็นหลัก



ทยอยแจกคูปองปลาย พ.ย.

ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เปิดเผยว่า คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้มีหนังสือแจ้งกลับมาที่สำนักงาน กสทช. อนุมัติให้ดำเนินการแจกคูปองส่วนลด 690 บาท/ครัวเรือน ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอแจก 4,785,523 ครัวเรือน พร้อมย้ำให้มีการกำหนดมาตรการแลกอุปกรณ์ให้โปร่งใส คาดว่าจะเริ่มแจกได้ปลาย พ.ย.นี้ หลังเสนอที่ประชุม กสท. กำหนดวันแจก และจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงระบบรับแลกคูปอง เชื่อมกับระบบฐานข้อมูลกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ภายใต้วงเงิน 10 ล้านบาท เนื่องจากคูปองรอบใหม่ เป็น e-coupon ให้ประชาชนที่ได้รับแจ้งสิทธิ์ผ่านไปรษณียบัตร นำบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดไปใช้แลกซื้ออุปกรณ์ได้ใน 6 เดือนนับแต่ได้รับแจ้งสิทธิ์ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและประหยัดงบประมาณกว่าเดิมราว 30 ล้านบาท เนื่องจากไม่ต้องจัดพิมพ์คูปองพิเศษ และจัดส่งด้วยไปรษณีย์

สำหรับประชาชนที่จะได้รับแจกรอบใหม่มี 4 กลุ่ม 1.กลุ่มที่เคยมีสิทธิ์ได้รับรอบก่อนหน้านี้ แต่นำจ่ายปลายทางไม่ได้ ไปรษณีย์ไทยตีกลับคูปองมาที่ กสทช.1,265,523 ครัวเรือน 2.กลุ่มทะเบียนบ้านใหม่ยังไม่เคยได้รับแจกมาก่อน ณ 7 เม.ย. 2559 มี 6.7 แสนครัวเรือน 3.กลุ่มครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านและผู้อยู่อาศัยแต่ไม่มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน มี 2.33 ล้านครัวเรือน 4.กลุ่มทะเบียนบ้านชั่วคราวและมีชื่อผู้เป็นเจ้าบ้านมี 5.2 แสนครัวเรือน

ส่วนการแจกคูปองเฟสแรก (10 ต.ค. 2557-21 พ.ค. 2558) แจกไป 13.5 ล้านครัวเรือน มีผู้ใช้สิทธิ์ 8.7 ล้านครัวเรือน





_________________________________________






ผู้ค้าดิ้นเคลียร์สต๊อกกล่องดิจิทัลทีวี กัดฟันลงทุนเพิ่มรอรับ"อี-คูปอง"4.7ล้านพ.ย.นี้


"ผู้ผลิต set-top-box" ทีวีดิจิทัล กัดฟันซื้อ ID Card Reader เตรียมแผนระบายสต๊อกรับ "กสทช." แจกคูปอง 690 บาท รอบใหม่ 4.7 ล้านครัวเรือน เผยเหลือสินค้าค้างในมือกว่า 7 ล้าน ทุนหายกำไรหด แม้คนดูเริ่มกระเตื้อง หลังโครงข่ายครอบคลุม-อานิสงส์ "บอลยูโร-โอลิมปิก" ฟาก "แฟมิลี่" จับมือ "เซเว่นฯ" ให้ลูกค้าใช้สิทธิ์ ขณะที่ SAMART หวังขายเสาอากาศเพิ่ม ชี้คูปองรอบใหม่แจกเฉพาะกลุ่ม

นายสมชาย เปรื่องวิริยะ กรรมผู้จัดการ บริษัท แฟมิลี่ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกล่องรับสัญญาณ (set-top-box) แบรนด์ "FAMILY" และประธานชมรมผู้ประกอบการกล่องรับสัญญาณดิจิทัลทีวีภาคพื้นดิน 2558 เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เตรียมวางแผนเข้าร่วมโครงการแจกคูปองส่วนลด 690 บาทเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบทีวีดิจิทัล ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมแจกรอบใหม่อีก 4.7 ล้านครัวเรือน แต่ในภาพรวมแล้วคูปองที่แจกยังไม่เพียงพอกับสต๊อก set-top-box ที่สมาชิกชมรมนำเข้ามาตั้งแต่ปี 2557 และยังจำหน่ายไม่ได้ รวมกว่า 7 ล้านกล่อง

หวังแค่เคลียร์สต๊อกเก่า

"ตอนเปิดโครงการ กสทช.แจ้งว่า จะแจกคูปอง 22 ล้านครัวเรือน ผู้ประกอบการจึงสั่งสินค้าเข้ามารอไว้รวมกันกว่า 25 ล้านกล่อง ปรากฏว่าคูปองรอบแรกแจกไปแค่ 13.5 ล้านครัวเรือน มีผู้ใช้สิทธิ์แค่ 8.7 ล้านครัวเรือน สินค้าจึงเหลือค้างสต๊อกในมือจำนวนมาก เฉพาะที่เป็นสมาชิกชมรมก็ 7-8 ล้านกล่องแล้ว ถึงจะมีการแจกคูปองรอบใหม่ก็ยังไม่เห็นทางที่จะระบายสต๊อกได้หมด หลายรายทำต่อไม่ไหวแล้วปิดตัวไป เหลือแค่รายใหญ่ 7-8 รายที่อยู่ในธุรกิจออดิโอ"

อุปสรรคสำคัญในการทำตลาด คือ การออกกฎ Must Carry ของ กสทช. ทำให้ประชาชนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาดูทีวีดิจิทัล ทั้งช่วงแรกโครงข่ายยังมีความไม่พร้อมทำให้ภาพลักษณ์มีปัญหา รวมถึงขั้นตอนการใช้คูปองแลกประชาชนรู้สึกยุ่งยาก

นอกจากนี้ กสทช.ยังอ่อนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ถึงจุดเด่นของทีวีดิจิทัลส่งผลให้ทั้งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับทีวีดิจิทัลทั้งหมดได้รับผลกระทบ ตั้งแต่ set-top-box ถึงเจ้าของช่อง



"แฟมิลี่" ลุยผนึกเซเว่นฯ

สำหรับแบรนด์แฟมิลี่ (FAMILY) กำลังวางแผนใช้จังหวะนี้ระบายสต๊อกสินค้าในมือให้ได้มากที่สุด โดยต้องลงทุนเพิ่มเพื่อซื้อ ID Card Reader คาดว่าน่าจะดึงให้ประชาชนมาเลือกใช้สิทธิ์กับบริษัทได้ราว 6 แสน-1 ล้านกล่อง เป็นสัดส่วนยอดขายกับยอดแจกคูปองที่ใกล้เคียงกับการใช้สิทธิ์ในรอบที่แล้วที่บริษัทได้ยอดขายราว 1.1 ล้านกล่อง โดยเน้นจับมือร่วมกับร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นจุดใช้สิทธิ์แลกกล่อง เพื่อให้มีจุดบริการที่ครอบคลุม และสะดวกมากที่สุด แต่ในเบื้องต้นต้องหารือร่วมกับพาร์ตเนอร์ ว่าใครจะลงทุนซื้อ ID Card Reader ในสัดส่วนอย่างไรบ้าง

ด้านนายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย set-top-box และเสาอากาศทีวีดิจิทัล "SAMART" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำนักงาน กสทช.มีการประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการแจกคูปองรอบใหม่ ซึ่งขณะนี้ทราบเพียงว่ารอบใหม่จะแจกคูปอง 4.7 ล้านใบ ปลาย พ.ย.นี้ โดยใช้รูปแบบ e-coupon ซึ่งผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมโครงการต้องลงทุนซื้อ ID Card Reader ไว้ในจุดจำหน่าย เพื่อใช้อ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด และเชื่อมต่อระบบเพื่อตรวจสอบสิทธิ์

ลงทุนเองซื้อเครื่องอ่านอีคูปอง

โดยกสทช.จะกำหนดสเป็กกลางของเครื่องที่สามารถเข้ามาเชื่อมกับระบบของ กสทช. ที่เตรียมไว้ให้ได้ แล้วให้ผู้ประกอบการแต่ละรายไปจัดซื้อ ID Card Reader เอง ส่วนกรอบเวลาที่ชัดเจนในแต่ละขั้นตอนทาง กสทช.ยังไม่ได้แจ้งให้ทราบ

ในเบื้องต้น บริษัทประเมินว่าต้องเตรียม ID Card Reader ไว้ประจำจุดจำหน่ายเพื่อให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์200-300 เครื่อง หรือราว 40% ของจุดจำหน่ายที่บริษัทมี เนื่องจากการแจกคูปองรอบนี้มีกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เจาะจง ซึ่งหลายพื้นที่ อาทิ เขตกรุงเทพฯปริมณฑล ส่วนใหญ่ใช้สิทธิ์รอบที่แล้วเกือบครบหมดแล้วจึงไม่จำเป็นต้องเปิดจุดให้ใช้สิทธิ์ครบในทุกช่องทางจำหน่าย โดยฝั่งผู้ประกอบการกำลังรอแผนที่แจ้งพิกัดครัวเรือนที่ได้รับสิทธิ์รอบใหม่จาก กสทช. เพื่อกำหนดจุดให้บริการลูกค้าให้เหมาะสมและไม่เป็นภาระต้นทุนมากเกินไป เนื่องจากต้องลงทุนซื้อเครื่องอ่านบัตรราคา 200-500 บาทต่อเครื่อง

สำหรับการแจกคูปองรอบนี้ บริษัทมองว่าเป็นโอกาสในการะบายสต๊อกสินค้าที่สั่งเข้ามาตั้งแต่การแจกคูปองรอบที่แล้ว ซึ่งยังเหลืออยู่ในมือดีลเลอร์ราว 4 แสนกล่อง

SAMART หวังขายเสาเพิ่ม

"ตลาด set-top-box ทีวีดิจิทัลดีขึ้น เพราะโครงข่ายสัญญาณครอบคลุมมากขึ้น ก่อนหน้านี้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร และกีฬาโอลิมปิก ทำให้มีผู้บริโภคหันมาสนใจทีวีดิจิทัลมากขึ้น การติดตั้งอุปกรณ์ก็ไม่ยากเหมือนช่วงแรก ๆ แต่ค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว เพราะทีวีรุ่นใหม่มีอุปกรณ์รับสัญญาณในตัว ผู้ที่ซื้อกล่องเป็นกลุ่มที่ยังไม่อยากเปลี่ยนทีวีใหม่ การแจกคูปองรอบใหม่นี้ บริษัทจึงไม่ได้นำเข้าสินค้ามาจำหน่ายเพิ่ม หวังเพียงแค่ระบายสต๊อกที่เหลือจากที่สั่งมาคราวก่อน 1.8 ล้านกล่องให้หมด หลังจากรอบแรกมีผู้ใช้สิทธิ์ซื้อกล่อง SAMART 1 ล้านกว่ากล่อง"

นายทวีกล่าวต่อว่า โอกาสทางธุรกิจที่มองไว้เป็นส่วนของเสารับสัญญาณทีวีดิจิทัลที่ต้องใช้คู่กับกล่องรับสัญญาณมากกว่า เพราะเป็นจุดแข็งของบริษัท และยังมีกำไรดีกว่าด้วย บริษัทคาดว่าจะขายเสาอากาศได้ราว 20-30% ของยอดแจกคูปอง 4.7 ล้านใบ ช่วยกระตุ้นให้รายได้จากการรับติดตั้งเสาอากาศรวมในอาคารสำหรับรับสัญญาณทีวีดิจิทัลด้วย ซึ่งปีนี้

บริษัทตั้งเป้ารายได้จากบริการนี้ 100 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้รับงานติดตั้งในอาคารที่พักอาศัยของหน่วยงานภาครัฐมาหลายโครงการแล้ว

ทยอยแจกคูปองปลาย พ.ย.

ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เปิดเผยว่า คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้มีหนังสือแจ้งกลับมาที่สำนักงาน กสทช. อนุมัติให้ดำเนินการแจกคูปองส่วนลด 690 บาท/ครัวเรือน ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอแจก 4,785,523 ครัวเรือน พร้อมย้ำให้มีการกำหนดมาตรการแลกอุปกรณ์ให้โปร่งใส คาดว่าจะเริ่มแจกได้ปลาย พ.ย.นี้ หลังเสนอที่ประชุม กสท. กำหนดวันแจก และจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงระบบรับแลกคูปอง เชื่อมกับระบบฐานข้อมูลกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ภายใต้วงเงิน 10 ล้านบาท เนื่องจากคูปองรอบใหม่ เป็น e-coupon ให้ประชาชนที่ได้รับแจ้งสิทธิ์ผ่านไปรษณียบัตร นำบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดไปใช้แลกซื้ออุปกรณ์ได้ใน 6 เดือนนับแต่ได้รับแจ้งสิทธิ์ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและประหยัดงบประมาณกว่าเดิมราว 30 ล้านบาท เนื่องจากไม่ต้องจัดพิมพ์คูปองพิเศษ และจัดส่งด้วยไปรษณีย์

สำหรับประชาชนที่จะได้รับแจกรอบใหม่มี 4 กลุ่ม 1.กลุ่มที่เคยมีสิทธิ์ได้รับรอบก่อนหน้านี้ แต่นำจ่ายปลายทางไม่ได้ ไปรษณีย์ไทยตีกลับคูปองมาที่ กสทช.1,265,523 ครัวเรือน 2.กลุ่มทะเบียนบ้านใหม่ยังไม่เคยได้รับแจกมาก่อน ณ 7 เม.ย. 2559 มี 6.7 แสนครัวเรือน 3.กลุ่มครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านและผู้อยู่อาศัยแต่ไม่มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน มี 2.33 ล้านครัวเรือน 4.กลุ่มทะเบียนบ้านชั่วคราวและมีชื่อผู้เป็นเจ้าบ้านมี 5.2 แสนครัวเรือน

ส่วนการแจกคูปองเฟสแรก (10 ต.ค. 2557-21 พ.ค. 2558) แจกไป 13.5 ล้านครัวเรือน มีผู้ใช้สิทธิ์ 8.7 ล้านครัวเรือน

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1475690329

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.