Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

07 กันยายน 2559 บริษัทไอดีซี ประเทศไทย ชี้ ยังมองว่าปีนี้ตลาดยังคงติดลบต่อเนื่อง แต่อัตราการติดลบลดลงเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามในแง่ของมูลค่าเงินดีขึ้น เนื่องจากราคาเฉลี่ยโน้ตบุ๊กเพิ่มเป็น 15,000 บาท จากเดิม 10,000 บาท

ประเด็นหลัก


อย่างไรก็ตามจะไม่เห็นตัวเลขการเติบโตเกิน 10% อีกแล้ว เนื่องจากขณะนี้มีสัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเกิน 50% ของประชากร คาดการณ์ว่าใน 3-5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของจำนวนประชากร โดยจะเห็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีเป็นตัวเลขหลักเดียว ยกเว้นมีเทคโนโลยีใหม่ที่สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้ามา


“กรณีที่ผู้ผลิตมองว่า 4G เป็นตัวกระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้นั้น ไอดีซี กลับมองว่าสมาร์ทโฟนที่ออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก็รองรับ 3G และ 4G อยู่แล้ว ขณะที่โอเปอเรเตอร์ก็เริ่มเปลี่ยนผู้ใช้มาเป็น 4G ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่เริ่มเปลี่ยนเครื่องใหม่รองรับ 4G ไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำให้ตัวเลขการซื้อในปีนี้ไม่สูงอย่างที่คาดการณ์”

ส่วนตลาดคอมพิวเตอร์พกพา หรือ โน้ตบุ๊ก นั้นไอดีซี ยังมองว่าปีนี้ตลาดยังคงติดลบต่อเนื่อง แต่อัตราการติดลบลดลงเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามในแง่ของมูลค่าเงินดีขึ้น เนื่องจากราคาเฉลี่ยโน้ตบุ๊กเพิ่มเป็น 15,000 บาท จากเดิม 10,000 บาท










______________________________________________


ตลาดไอทีครึ่งปีหลังทรงตัว ไอดีซี เชื่อปัจจัยลบมากกว่าบวก/‘ไอทีซิตี้’เร่งขยายสาขาสู้


บริษัทวิจัยไอที “ไอดีซี” ประเมินตลาดครึ่งปีหลังยังซึม ระบุปัจจัยลบมากกว่าบวก คอนซูเมอร์ชะลอใช้จ่าย “ภาครัฐ-เอกชน” ไม่มีโครงการลงทุนไอทีขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับค้าปลีกรายใหญ่ “ไอที ซิตี้” มองตลาดทรงตัว ชูกลยุทธ์ขยายสาขา-ช่องทางออนไลน์ รักษายอดขาย ตั้งเป้าปีนี้สาขาทะลุ 100 แห่ง


นายจาริตร์ สิทธุ นักวิเคราะห์อาวุโสสายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ดีไวซ์ บริษัทไอดีซี ประเทศไทย จำกัด บริษัทวิจัยตลาดไอทีชั้นนำของโลก เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ไอดีซี คาดการณ์ว่าตลาดไอทีครึ่งปีหลังของไทยยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยยังคงมีปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวก ซึ่งปัจจัยลบที่สำคัญมาจากผู้บริโภคกลุ่มคอนซูเมอร์ การชะลอการใช้จ่าย ส่วนการลงทุนของภาครัฐส่วนใหญ่เป็นการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีสัดส่วนการลงทุนไอทีน้อยมาก เช่นเดียวกับองค์กรเอกชนที่มีการชะลอการลงทุน

ทั้งนี้หากพิจารณาตามกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟน ยังคงเติบโตอยู่ แต่เป็นการเติบโตเล็กน้อย โดยการเติบโต มของโอเปอเรเตอร์ ขณะที่ในปีนี้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนราคาเฉลี่ยต่ำกว่า 1 หมื่นบาท จากเดิมราคา 12,000-15,000 บาท สำหรับครึ่งปีหลังต้องจับตาดูไอโฟนรุ่นใหม่ว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคก็จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดเติบโตขึ้น

อย่างไรก็ตามจะไม่เห็นตัวเลขการเติบโตเกิน 10% อีกแล้ว เนื่องจากขณะนี้มีสัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเกิน 50% ของประชากร คาดการณ์ว่าใน 3-5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของจำนวนประชากร โดยจะเห็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีเป็นตัวเลขหลักเดียว ยกเว้นมีเทคโนโลยีใหม่ที่สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้ามา


“กรณีที่ผู้ผลิตมองว่า 4G เป็นตัวกระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้นั้น ไอดีซี กลับมองว่าสมาร์ทโฟนที่ออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก็รองรับ 3G และ 4G อยู่แล้ว ขณะที่โอเปอเรเตอร์ก็เริ่มเปลี่ยนผู้ใช้มาเป็น 4G ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่เริ่มเปลี่ยนเครื่องใหม่รองรับ 4G ไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำให้ตัวเลขการซื้อในปีนี้ไม่สูงอย่างที่คาดการณ์”
ส่วนตลาดคอมพิวเตอร์พกพา หรือ โน้ตบุ๊ก นั้นไอดีซี ยังมองว่าปีนี้ตลาดยังคงติดลบต่อเนื่อง แต่อัตราการติดลบลดลงเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามในแง่ของมูลค่าเงินดีขึ้น เนื่องจากราคาเฉลี่ยโน้ตบุ๊กเพิ่มเป็น 15,000 บาท จากเดิม 10,000 บาท

นายจาริตร์ กล่าวต่อไปอีกว่าปัจจัยที่เข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดไอทีครึ่งปีหลังอยู่ที่การใช้จ่ายภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลนั้นขณะนี้ไอดีซี มองว่ายังไม่เห็นนโยบายที่ถูกผลักดันออกมาอย่างเป็นรูปธรรมที่เพียงพอจะผลักดันให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ และเอกชน

เอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอทีซิตี้ จำกัด (มหาชน)
เอกชัย ศิริจิระพัฒนา
กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอทีซิตี้ จำกัด (มหาชน)
ด้านนายเอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอทีซิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ภายใต้ชื่อร้าน “ไอทีซิตี้” กล่าวว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาธุรกิจของไอทีซิตี้ อยู่ในภาวะทรงตัว แบบมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยการเติบโตมาจากการขยายสาขาเพิ่ม 4 แห่ง ทำให้ขณะนี้มาสาขาให้บริการ 98 แห่ง และการขยายช่องทางขายผ่านออนไลน์ ส่วนในครึ่งปีหลังมองว่ายังอยู่ในภาวะการทรงตัวในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน โดยในครึ่งปีหลังบริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาออกไปอีก 5-6 แห่ง ซึ่งจะทำให้ปีนี้มีสาขาให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 100 แห่ง ซึ่งช่องทางสาขาก็จะคู่ขนานไปกับช่องทางออนไลน์ ที่บริษัทมองว่าเป็นอนาคต

“สัดส่วนการขายของไอทีซิตี้ 80% มาจากคอมพิวเตอร์ ส่วนอีก 20% เป็นสินค้าอื่นๆ โดยตลาดคอมพิวเตอร์ทั้งแบบตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก มีการชะลอตัวต่อเนื่อง แต่ที่ทำให้ยอดขายไอทีซิตี้ทรงตัว เพราะมีการขยายสาขา”

http://www.thansettakij.com/2016/08/25/88525

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.