01 สิงหาคม 2559 MYWorld เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันมีลูกค้าราว 70,000 ราย และ 90% เป็นลูกค้าแบบรายเดือน (โพสต์เพด) เนื่องจากเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร อีก 10% ที่เหลือเป็นลูกค้าทั่วไป
ประเด็นหลัก
___________________________________________
เพนกวิน-มายเวิลด์บุกนิชมาร์เก็ตชิงแชร์มือถือ
ด้านนายนิพนธ์ ชูเชิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการ MVNO ภายใต้แบรนด์ "มายเวิลด์" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันมีลูกค้าราว 70,000 ราย และ 90% เป็นลูกค้าแบบรายเดือน (โพสต์เพด) เนื่องจากเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร อีก 10% ที่เหลือเป็นลูกค้าทั่วไป เน้นการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ โดยนำเข้าโทรศัพท์ที่มีปุ่ม SOS แจ้งเหตุฉุกเฉินให้ลูกหลานตั้งค่าไว้ได้ ทั้งมีเครื่องที่ติดอุปกรณ์ยิงเลเซอร์สำหรับอ่านบาร์โค้ด เมื่อเชื่อมกับแอปพลิเคชั่นจะกลายเป็นจุดรับชำระใบแจ้งหนี้ (บิลเพย์เมนต์) ต่าง ๆ ได้ ราคา 5,990 บาท สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอี
บริษัทเน้นพัฒนานวัตกรรมให้มีความแตกต่างเพื่อเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ปัจจุบันรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือนอยู่ที่ 800 กว่าบาท แต่หลังจากปรับปรุงระบบหลังบ้านแล้วจะทำแพ็กเกจให้มีขนาดเล็กลง ราคาถูกลงเริ่มต้นที่ 199 บาท เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ตอนนี้เน้นขยายจุดเติมเงิน และชำระเงินให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งเซเว่นอีเลฟเว่น, บิ๊กซี, โลตัส, ตู้เติมเงินบุญเติม และระบบ AIR Pay เป็นต้น ส่วนการจำหน่ายซิมจะเน้นไดเร็กต์เซลไปในกลุ่มลูกค้าองค์กร พร้อมไปกับการจัดคาราวานคอนเสิร์ตของแอ๊ด คาราบาว
MVNO มือถือรายเล็ก เดินหน้าหาลูกค้าเจาะเฉพาะกลุ่ม "เพนกวิน" ย้ำจุดขาย "อีโค" ดันพรีเพดราคาสบายกระเป๋าบุกตลาด ตจว. "มายเวิลด์" เน้นลูกค้ารายเดือนเจาะองค์กร-เอสเอ็มอี ชูบริการเสริมขายคู่แฮนด์เซต เน้นไดเร็กต์เซล-โรดโชว์พ่วงคอนเสิร์ต "แอ๊ด คาราบาว"
นายชัยยศ จิรบวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะไวท์สเปซ จำกัด ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในรูปแบบ MVNO ภายใต้แบรนด์ "เพนกวิน" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันแม้ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเข้าสู่ยุคอิ่มตัวจากจำนวนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เทียบจำนวนประชากรในประเทศเกิน 100% ไปมากแล้ว ทั้งการแข่งขันที่สูงมากระหว่างผู้ให้บริการรายใหญ่ แต่ยังคงมีช่องว่างทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กที่มีแนวทางการตลาดเป็นของตนเอง ซึ่งในต่างประเทศมี MVNO เป็นสิบราย แต่ละรายจะเก่งและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
สำหรับ "เพนกวิน" วางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็น "อีโคโอเปอเรเตอร์" หรือค่ายมือถือราคาประหยัด เน้นบริการเติมเงินหรือพรีเพดเป็นหลัก โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเรียบง่ายในราคาประหยัด สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
"แรก ๆ ลูกค้าเราเป็นเด็กนักเรียนค่อนข้างเยอะ หลัง ๆ เริ่มมีพนักงานโรงงานทั้งคนไทยและต่างชาติ เมื่อทำตลาดมาสักระยะก็เริ่มเห็นความต้องการของตลาดอีกประเภท คือกลุ่มที่ต้องพัฒนาโซลูชั่นเฉพาะให้ กลุ่มนี้จะขายทีละร้อยซิมหรือพันซิม มีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายไม่เยอะ เช่น ซิมสำหรับบริการ IOT (อินเทอร์เน็ตออฟทิงส์) ที่นำไปเชื่อมต่อกับระบบซีเคียวริตี้ เป็นต้น"
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัทเดียวกันเสริมว่า การทำตลาดที่ผ่านมาจะเริ่มจากการปูพรมตามช่องทางต่าง ๆ ให้ครบ ทั้งช่องทางการจำหน่ายซิม และช่องทางการเติมเงิน ปัจจุบันมี 16,000 จุด และ 250,000 จุด ตามลำดับ มีฐานลูกค้าแล้วราว 200,000 ราย มีรายได้ต่อเลขหมายต่อเดือนอยู่ที่ 100 กว่าบาท ใกล้เคียงผู้ให้บริการรายใหญ่
"เมื่อปูพรมช่องทางทั้งซิมและจุดเติมเงินแล้วก็หาจุดแตกต่างในแง่ของโปรดักต์ เพราะพื้นฐานคือเราซื้อบริการต่อมาอีกทอด ไม่ใช่เจ้าของระบบเอง จึงต้องหาจุดที่แข็งแรงและสร้างอินโนเวทีฟขึ้นมา วิธีการทำงานจึงเหมือนบริษัทสตาร์ตอัพ คือคิดเร็ว ทำเร็ว และพร้อมปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มเปิดตัวแบรนด์เมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมา เริ่มจากช่องทางออนไลน์ก่อน เพื่อแนะนำให้รู้จักบริการ พอในเดือน พ.ค.จึงขยับไปสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยเข้าไปเป็นสปอนเซอร์รายการโทรทัศน์ที่ลูกค้าเป้าหมายชื่นชอบ เช่น รายการประกวดร้องเพลง และชกมวย เป็นต้น เมื่อลูกค้าเห็นก็จะมั่นใจในแบรนด์มากขึ้น"
ด้านนายนิพนธ์ ชูเชิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการ MVNO ภายใต้แบรนด์ "มายเวิลด์" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันมีลูกค้าราว 70,000 ราย และ 90% เป็นลูกค้าแบบรายเดือน (โพสต์เพด) เนื่องจากเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร อีก 10% ที่เหลือเป็นลูกค้าทั่วไป เน้นการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ โดยนำเข้าโทรศัพท์ที่มีปุ่ม SOS แจ้งเหตุฉุกเฉินให้ลูกหลานตั้งค่าไว้ได้ ทั้งมีเครื่องที่ติดอุปกรณ์ยิงเลเซอร์สำหรับอ่านบาร์โค้ด เมื่อเชื่อมกับแอปพลิเคชั่นจะกลายเป็นจุดรับชำระใบแจ้งหนี้ (บิลเพย์เมนต์) ต่าง ๆ ได้ ราคา 5,990 บาท สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอี
บริษัทเน้นพัฒนานวัตกรรมให้มีความแตกต่างเพื่อเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ปัจจุบันรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือนอยู่ที่ 800 กว่าบาท แต่หลังจากปรับปรุงระบบหลังบ้านแล้วจะทำแพ็กเกจให้มีขนาดเล็กลง ราคาถูกลงเริ่มต้นที่ 199 บาท เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ตอนนี้เน้นขยายจุดเติมเงิน และชำระเงินให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งเซเว่นอีเลฟเว่น, บิ๊กซี, โลตัส, ตู้เติมเงินบุญเติม และระบบ AIR Pay เป็นต้น ส่วนการจำหน่ายซิมจะเน้นไดเร็กต์เซลไปในกลุ่มลูกค้าองค์กร พร้อมไปกับการจัดคาราวานคอนเสิร์ตของแอ๊ด คาราบาว
"ด้วยผลิตภัณฑ์ของเราต้องมีการอธิบายลูกค้าก่อนใช้งาน และเราจะไม่แข่งกับค่ายมือถือเจ้าใหญ่ จึงจะเน้นการวางขายซิมตามร้านตู้ เพราะไม่อยากวางขายซิมคู่กับรายใหญ่ เช่น ลงพื้นที่โดยจัดคาราวานไปใน 25 จังหวัดภาคกลางก่อน เป็นต้น" นายนิพนธ์กล่าว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1468682014
ไม่มีความคิดเห็น: