Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

31 กรกฎาคม 2559 สปท. จะขอเชิญตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าทาง AIS ได้ใช้ทรัพย์สินของแผ่นดิน

ประเด็นหลัก



13 ก.ค. 59 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษากลไกปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี บมจ.เอไอเอส ไม่ยอมส่งมอบสถานีฐาน เสา เครื่องมือ อุปกรณ์พ่วงทั้งระบบทั่วประเทศ รวม 1.6 หมื่นเสา คืนให้แก่ บมจ.ทีโอที เป็นเหตุให้รัฐเสียหายและสูญเสียรายได้ 1.2 แสนล้านบาทว่า แต่เดิมเอไอเอสได้ยอมรับว่าจะคืนเสาให้กับรัฐ โดยมีผลตอบแทน 3.6 พันล้านต่อปี รวมเป็นเวลา 15 ปี โดยในสัญญาระบุ อนุญาตให้ทำการเช่าต่อจากรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 59 แบ่งเป็นค่าใช้บริการพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์บนเสาโทรคมนาคม 3.6 พันล้านบาทต่อปี และค่าใช้เครื่อง และอุปกรณ์โทรคมนาคมทรัพย์สินตามสัญญาอนุญาต ไม่รวมไฟเบอร์ออปติค เป็นเงิน 2,000 ล้านบาทต่อปี รวมเป็น 5.6 พันล้านต่อปี


ขณะเดียวกันเอไอเอสยังได้ขอสงวนสิทธิ์ผ่านบริษัทเอดับบลิวเอ็น ซึ่งเป็นบริษัทลูก ในเสาสัญญาณ ซึ่งเป็นข้อพิพาทที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ ดังนั้นทางคณะอนุฯ กมธ. จะขอเชิญตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าทางเอไอเอสได้ใช้ทรัพย์สินของแผ่นดินโดยพละการหรือไม่






___________________________________________








13 ก.ค. 59 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษากลไกปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี บมจ.เอไอเอส ไม่ยอมส่งมอบสถานีฐาน เสา เครื่องมือ อุปกรณ์พ่วงทั้งระบบทั่วประเทศ รวม 1.6 หมื่นเสา คืนให้แก่ บมจ.ทีโอที เป็นเหตุให้รัฐเสียหายและสูญเสียรายได้ 1.2 แสนล้านบาทว่า แต่เดิมเอไอเอสได้ยอมรับว่าจะคืนเสาให้กับรัฐ โดยมีผลตอบแทน 3.6 พันล้านต่อปี รวมเป็นเวลา 15 ปี โดยในสัญญาระบุ อนุญาตให้ทำการเช่าต่อจากรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 59 แบ่งเป็นค่าใช้บริการพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์บนเสาโทรคมนาคม 3.6 พันล้านบาทต่อปี และค่าใช้เครื่อง และอุปกรณ์โทรคมนาคมทรัพย์สินตามสัญญาอนุญาต ไม่รวมไฟเบอร์ออปติค เป็นเงิน 2,000 ล้านบาทต่อปี รวมเป็น 5.6 พันล้านต่อปี

ขณะเดียวกันเอไอเอสยังได้ขอสงวนสิทธิ์ผ่านบริษัทเอดับบลิวเอ็น ซึ่งเป็นบริษัทลูก ในเสาสัญญาณ ซึ่งเป็นข้อพิพาทที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ ดังนั้นทางคณะอนุฯ กมธ. จะขอเชิญตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าทางเอไอเอสได้ใช้ทรัพย์สินของแผ่นดินโดยพละการหรือไม่

เมื่อถามว่าล่าสุดบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ ได้มีการฟ้องนายชาญชัย เป็นคดีที่สอง จะยุติการตรวจสอบหรือไม่ นายชาญชั ยกล่าวว่า การที่บริษัท คิง เพาเวอร์ฯ จะฟ้องตนนั้น ก็เป็นสิทธิของเขา แต่การที่กล่าวหาว่าตนให้ข้อมูลไม่ครบ ขอประกาศให้ทราบว่าอีก 8 สัปดาห์ต่อจากนี้ ตนจะแถลงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ทราบทุกอาทิตย์ ให้ครบทุกเรื่องตามความต้องการของบริษัทคิงเพาเวอร์

http://www.naewna.com/business/225463

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.