14 มีนาคม 2559 ริษัท เอ็มวี เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารช่องทีวีดาวเทียม เช่น เอ็มวีทีวี, Major Channel MIX ให้มุมมองอีกด้านว่า การตัดราคาขายโฆษณาของผู้ประกอบการช่องทีวีดาวเทียม เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไม่ได้ เพราะต้นทุนผลิตเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากโฆษณาลดลง
ประเด็นหลัก
นางสาวกนกกาญจน์ ประจงแสงศรี กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การลงทุนและการเรียนรู้ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ตัวแทนจากสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีวียังเป็นสื่ออันดับต้น ๆ ที่มีเดียเอเยนซี่และสินค้าให้ความสนใจซื้อโฆษณา โดยพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายและการตอบโจทย์ของสินค้า จึงเป็นโอกาสของช่องที่ไม่มีเรตติ้งและช่องที่มีกลุ่มผู้ชมชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นายชัยยุทธ ทวีปวรเดช ประธานบริษัท เอ็มวี เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารช่องทีวีดาวเทียม เช่น เอ็มวีทีวี, Major Channel MIX ให้มุมมองอีกด้านว่า การตัดราคาขายโฆษณาของผู้ประกอบการช่องทีวีดาวเทียม เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไม่ได้ เพราะต้นทุนผลิตเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากโฆษณาลดลง จึงไม่มีงบฯผลิตรายการที่มีคุณภาพและไม่มีเรตติ้ง จึงต้องหาแนวทางร่วมมือจากผู้ประกอบการในการวางแนวทางราคาโฆษณากลาง สร้างมาตรฐาน ขณะที่แต่ละรายก็ต้องปรับกลยุทธ์พัฒนารายการ สร้างตลาดผู้ชมใหม่ ๆ ล่าสุดบริษัทได้เปิดช่องเพลงจีน WHM TV ขยายผู้ชมนิชมาร์เก็ต
ทั้งนี้ ธุรกิจโครงข่ายทีวีดาวเทียมก็ได้รับผลกระทบจากจำนวนช่องที่ลดลง นายมานพ โตการค้า ประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดาวเทียม กล่าวว่า ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จำนวนช่องทีวีดาวเทียมลดลงต่อเนื่อง จากหลาปัญหา ทั้งอายุใบอนุญาตทีวีดาวเทียมที่สั้นลง ทำให้บางช่องต้องยุติการออกอากาศ ทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องจึงเร่งหาแนวทางร่วมกัน เพื่อรักษาการเติบโตของธุรกิจนี้ ล่าสุดอยู่ระหว่างหารือผู้ประกอบการโครงข่าย ได้แก่ พีเอสไอ กลุ่มบิ๊ก 4 ในการจัดเรียงเลขช่องทีวีดาวเทียมใหม่ เพื่อให้ทุกหมายเลขช่องออกอากาศเหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม
_________________________
ช่อง "ดาวเทียม-เคเบิล" แท็กทีมสู้ทีวีดิจิทัล
สมาคมเคเบิล-ทีวีดาวเทียม แท็กทีมรับมือทีวีดิจิทัลไล่บี้ กินส่วนแบ่งงบฯโฆษณา แนะผู้ประกอบการท้องถิ่น ปรับลดต้นทุนภายใน ฟากโครงข่ายเร่งหาข้อสรุปจัดเรียงเลขช่องทีวีดาวเทียมเลขเดียวทุกแพลตฟอร์ม หวังสร้างทางรอดรักษาการเติบโต
นายนิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) กล่าวในงานสัมมนา "ชี้ชะตาทีวีดาวเทียมอยู่หรือตาย" ถึงการสร้างทางรอดและรักษาการเติบโตว่า จากนี้ไปผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมต้องรวมกลุ่มกัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรม และควบคุมเนื้อหาโฆษณาให้อยู่ในกรอบที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีโฆษณาที่ไม่เป็นไปตามกฎและอาจจะทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้ต่อใบอนุญาตทีวีดาวเทียม ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องพัฒนาช่องรายการ เพื่อรักษาการเติบโต
ด้านนายวิชิต เอื้ออารีวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญยิ่ง (8888) จำกัด ในฐานะอุปนายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีปัจจุบันไม่เติบโต เนื่องจากช่องทีวีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นและเข้ามาชิงส่วนแบ่งงบฯโฆษณา จากเดิมงบฯโฆษณาสื่อทีวีมีมูลค่า 60,000 ล้านบาท ถูกแบ่ง 2 ส่วนคือ ฟรีทีวี (ช่อง 3-7-5-9) มีสัดส่วน 80-90% อีก 10-20% เป็นทีวีดาวเทียม-เคเบิลและอื่น ๆ เช่น ทรูวิชั่นส์ รวม 200 ช่อง ผู้ประกอบการจึงต้องบริหารจัดการต้นทุนภายใน เก็บข้อมูลลูกค้าเป็นข้อมูลอ้างอิงให้กับมีเดียเอเยนซี่-สินค้าในการตัดสินใจซื้อโฆษณา เพื่อพยุงธุรกิจท่ามกลางการแข่งขันแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดแข็งในแง่ต้นทุนการผลิตและออกอากาศที่ต่ำกว่าฟรีทีวี
"งบฯโฆษณาสื่อทีวีไม่ได้โตขึ้น แต่จำนวนผู้เล่นมากขึ้น เท่ากับว่า งบฯโฆษณาของช่องทีวีดาวเทียม-เคเบิล ถูกแบ่งย่อยมากขึ้น ประกอบกับ กสทช.ที่มีข้อกำหนดเข้มข้น ทำให้มีบางช่องต้องปิดตัวลง"
นางสาวกนกกาญจน์ ประจงแสงศรี กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การลงทุนและการเรียนรู้ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ตัวแทนจากสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีวียังเป็นสื่ออันดับต้น ๆ ที่มีเดียเอเยนซี่และสินค้าให้ความสนใจซื้อโฆษณา โดยพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายและการตอบโจทย์ของสินค้า จึงเป็นโอกาสของช่องที่ไม่มีเรตติ้งและช่องที่มีกลุ่มผู้ชมชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นายชัยยุทธ ทวีปวรเดช ประธานบริษัท เอ็มวี เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารช่องทีวีดาวเทียม เช่น เอ็มวีทีวี, Major Channel MIX ให้มุมมองอีกด้านว่า การตัดราคาขายโฆษณาของผู้ประกอบการช่องทีวีดาวเทียม เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไม่ได้ เพราะต้นทุนผลิตเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากโฆษณาลดลง จึงไม่มีงบฯผลิตรายการที่มีคุณภาพและไม่มีเรตติ้ง จึงต้องหาแนวทางร่วมมือจากผู้ประกอบการในการวางแนวทางราคาโฆษณากลาง สร้างมาตรฐาน ขณะที่แต่ละรายก็ต้องปรับกลยุทธ์พัฒนารายการ สร้างตลาดผู้ชมใหม่ ๆ ล่าสุดบริษัทได้เปิดช่องเพลงจีน WHM TV ขยายผู้ชมนิชมาร์เก็ต
ทั้งนี้ ธุรกิจโครงข่ายทีวีดาวเทียมก็ได้รับผลกระทบจากจำนวนช่องที่ลดลง นายมานพ โตการค้า ประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดาวเทียม กล่าวว่า ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จำนวนช่องทีวีดาวเทียมลดลงต่อเนื่อง จากหลาปัญหา ทั้งอายุใบอนุญาตทีวีดาวเทียมที่สั้นลง ทำให้บางช่องต้องยุติการออกอากาศ ทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องจึงเร่งหาแนวทางร่วมกัน เพื่อรักษาการเติบโตของธุรกิจนี้ ล่าสุดอยู่ระหว่างหารือผู้ประกอบการโครงข่าย ได้แก่ พีเอสไอ กลุ่มบิ๊ก 4 ในการจัดเรียงเลขช่องทีวีดาวเทียมใหม่ เพื่อให้ทุกหมายเลขช่องออกอากาศเหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1456985308
ไม่มีความคิดเห็น: