Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

21 กุมภาพันธ์ 2559 พลิกโฉม 'คอมมาร์ต' ประเดิมต้นปีจัด 'คอนเน็ค' แบ่งเป็นโน้ตบุ๊ก พีซี เดสก์ท็อป ประมาณ 60%, สมาร์ทโฟน 20% และแก็ดเจ็ตต่างๆ ราว 30% เพื่อรองรับเทรนด์ดิจิตอลและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

ประเด็นหลัก




สำหรับสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าภายในงานครั้งนี้ แบ่งเป็นโน้ตบุ๊ก พีซี เดสก์ท็อป ประมาณ 60%, สมาร์ทโฟน 20% และแก็ดเจ็ตต่างๆ ราว 30% เพื่อรองรับเทรนด์ดิจิตอลและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ส่วนสินค้าที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคนั้น เชื่อว่าโน้ตบุ๊กจะเป็นสินค้าขายดีที่สุด โดยเฉพาะระดับราคา 30,000 บาท ตามด้วยแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์กลุ่มคอนเน็คเต็ด ที่สามารถตอบสนองเทรนด์สุขภาพได้ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงจากการจัดงานครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากโน้ตบุ๊กยังคงเป็นสินค้ายอดนิยม รองลงมา คือ แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน และสินค้าประเภทหน้าจอและแก็ดเจ็ต อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งที่ผู้ผลิตสินค้าไอทีชั้นนำมาร่วมงานคอมมาร์ตอย่างคับคั่ง อาทิ เอชพี เดลล์ เลอโนโว เอซุส เอเซอร์ เป็นต้น

"มีการคาดการณ์ว่าตลาดไอทีปีนี้จะเติบโตขึ้นราว 3% จากปีที่ผ่านมา จากพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่กลับมามั่นใจมากขึ้น รวมถึงปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐและการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่"

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจัดงานคอมมาร์ต คอนเน็ค จะสามารถสร้างยอดเงินสะพัดภายในงานได้ไม่ต่ำกว่า 2,940 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 5% จากการจัดงานครั้งที่ผ่านมาซึ่งมียอดเงินสะพัดราว 2,800 ล้านบาท ส่วนยอดผู้เข้าชมงานนั้นเชื่อว่าจะอยู่ในสัดส่วนเดิมหรือประมาณ 8 แสนคน

สำหรับการจัดงานคอมมาร์ต คอนเน็ค 2016 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2559 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์.




__________________________________________





พลิกโฉม 'คอมมาร์ต' ประเดิมต้นปีจัด 'คอนเน็ค' คาดโน้ตบุ๊กยังฮิตสุด


เออาร์ไอพี ประกาศปรับโฉมงานคอมมาร์ต รูปแบบแตกต่างทั้ง 3 ครั้งตลอดปี หวังเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ตั้งเป้างานต้นปีสร้างเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 2,940 ล้านบาท...

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิตอล บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า เพื่อรองรับเทรนด์ดิจิตอล ไลฟ์ ในปีนี้ บริษัทได้ปรับรูปแบบการจัดงานคอมมาร์ตให้รองรับพฤติกรรมแบบคอนเน็คเต็ด ไลฟ์ ของผู้บริโภคในปัจจุบัน จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดงานทั้ง 3 ครั้ง เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของการจัดงานแต่ละครั้งให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็นคอมมาร์ต คอนเน็ค (Coomart Connect) สำหรับการจัดงานในช่วงต้นปี เพื่อตอบสนองการใช้ 4จี และชีวิตยุคดิจิตอล, คอมมาร์ต จอย (Commart Joy) ในการจัดงานช่วงกลางปี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงและเกม และคอมมาร์ต เวิร์ก (Commart Work) ในการจัดงานช่วงปลายปี เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มองค์กรที่ต้องการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ในช่วงสิ้นปี ซึ่งจากนี้บริษัทจะมีการประเมินรูปแบบการจัดงานคอมมาร์ตทุกปี เพื่อให้ได้รูปแบบการจัดงานที่ตรงใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง

"จากการจัดงานในช่วงที่ผ่านมาพบว่าผู้บริโภคต้องการเห็นสีสันและความแตกต่างในการจัดงานแต่ละครั้ง จึงเป็นที่มาของการจัดงานในรูปแบบดังกล่าว ภายใต้พื้นที่การจัดงานเท่าเดิมคือใช้พื้นที่ทั้งหมดของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยกเว้นบริเวณโซนซีชั้นล่าง โดยเชื่อว่าการจัดงานคอมมาร์ตในปีนี้จะสามารถกระตุ้นตลาดไอทีให้กลับมาคึกคักได้ จากสินค้าที่แต่ละแบรนด์นำมาสร้างสีสันภายในงาน และกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค และเชื่อว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงต้นปีได้กลับมาแล้ว จากการพิจารณางานที่จัดขึ้นในช่วงก่อนหน้า รวมถึงนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้งานออนไลน์ รวมถึงการมาของ 4จี"

สำหรับสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าภายในงานครั้งนี้ แบ่งเป็นโน้ตบุ๊ก พีซี เดสก์ท็อป ประมาณ 60%, สมาร์ทโฟน 20% และแก็ดเจ็ตต่างๆ ราว 30% เพื่อรองรับเทรนด์ดิจิตอลและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ส่วนสินค้าที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคนั้น เชื่อว่าโน้ตบุ๊กจะเป็นสินค้าขายดีที่สุด โดยเฉพาะระดับราคา 30,000 บาท ตามด้วยแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์กลุ่มคอนเน็คเต็ด ที่สามารถตอบสนองเทรนด์สุขภาพได้ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงจากการจัดงานครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากโน้ตบุ๊กยังคงเป็นสินค้ายอดนิยม รองลงมา คือ แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน และสินค้าประเภทหน้าจอและแก็ดเจ็ต อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งที่ผู้ผลิตสินค้าไอทีชั้นนำมาร่วมงานคอมมาร์ตอย่างคับคั่ง อาทิ เอชพี เดลล์ เลอโนโว เอซุส เอเซอร์ เป็นต้น

"มีการคาดการณ์ว่าตลาดไอทีปีนี้จะเติบโตขึ้นราว 3% จากปีที่ผ่านมา จากพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่กลับมามั่นใจมากขึ้น รวมถึงปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐและการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่"

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจัดงานคอมมาร์ต คอนเน็ค จะสามารถสร้างยอดเงินสะพัดภายในงานได้ไม่ต่ำกว่า 2,940 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 5% จากการจัดงานครั้งที่ผ่านมาซึ่งมียอดเงินสะพัดราว 2,800 ล้านบาท ส่วนยอดผู้เข้าชมงานนั้นเชื่อว่าจะอยู่ในสัดส่วนเดิมหรือประมาณ 8 แสนคน

สำหรับการจัดงานคอมมาร์ต คอนเน็ค 2016 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2559 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์.

http://www.thairath.co.th/content/578803

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.