08 กุมภาพันธ์ 2559 กสทข. ไทยอยู่ในอันดับ 74 เรื่องการใช้บริการโทรคมนาคมสูงกว่าปีที่แล้ว 7 อันดับ จากการเปลี่ยนผ่านจาก 2G ไปยัง 3G เร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รวมถึงการมีเทคโนโลยี 4G ยกระดับการใช้บริการโทรคมนาคมที่ปัจจุบันมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 83 ล้านหมายเลข หรือ 120% ของประชากร และมี 39.4 ล้านเลขหมายใช้โมบายอินเทอร์เน็ต
ประเด็นหลัก
ด้าน พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ไทยอยู่ในอันดับ 74 เรื่องการใช้บริการโทรคมนาคมสูงกว่าปีที่แล้ว 7 อันดับ จากการเปลี่ยนผ่านจาก 2G ไปยัง 3G เร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รวมถึงการมีเทคโนโลยี 4G ยกระดับการใช้บริการโทรคมนาคมที่ปัจจุบันมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 83 ล้านหมายเลข หรือ 120% ของประชากร และมี 39.4 ล้านเลขหมายใช้โมบายอินเทอร์เน็ต
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า เตรียมพูดคุยกับนักลงทุนต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น ให้เข้ามาลงทุนด้านเทคโนโลยี รวมถึงโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น บรอดแบนด์แห่งชาติ และสมาร์ทซิตี้ที่กำลังทดลองสร้างที่ภูเก็ต
________________________________
"สมาคมโทรคมฯ" กระตุ้นรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานปั้นไทยฮับเทคโนโลยี ดึงนักลงทุนต่างชาติ ย้ำอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโตเร็วผลิตคนไม่ทัน ทั้งเผยการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กไทยติดเบอร์ 2 ของเอเชีย
นายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ในปี 2559 เตรียมเข้าไปหารือกับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ทั้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในลักษณะโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี เช่น บรอดแบนด์แห่งชาติ และศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ (เนชั่นแนลดาต้าเซ็นเตอร์) เป็นต้น เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาประเทศได้ด้วยการเชื่อมต่อทั้งประชาชน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สร้างงานขึ้นมาได้
"เรื่องดิจิทัลเทคโนโลยีค่อนข้างสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่คนที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อ แต่เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ใช้เทคโนโลยีเพื่อผลิตผลสินค้า และบริการ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีสื่อสารไปใช้ในอีกประเภท เช่น นาโนเทคโนโลยี และไบโอเทคโนโลยี ซึ่งการคำนวณหาค่าต่าง ๆ ต้องใช้การเชื่อมต่อขั้นสูงเพื่อประมวลผลระดับบิ๊กดาต้าได้"
การที่ภาครัฐลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์จะช่วยดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยปัจจุบันผู้บริโภคเข้าใจเทคโนโลยีและมีความพร้อม เหลือเพียงการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยการพัฒนาเทคโนโลยีให้ดีขึ้นจะทำให้ประเทศไทยหลุดจากกรอบประเทศที่มีแต่ผู้ใช้แรงงาน และเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของเอเชีย
"เชื่อว่าการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์แห่งชาติของภาครัฐจะมีมูลค่า 40,000-50,000 ล้านบาท ตั้งแต่อุปกรณ์เน็ตเวิร์ก และเซิร์ฟเวอร์ ซอฟต์แวร์บริหารจัดการ บุคลากร ที่สำคัญเพื่อให้การใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ได้ประโยชน์สูงสุดต้องมีการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาคผ่านเคเบิลใต้น้ำรวมถึงการปรับมาตรการทางกฎหมายเพื่อให้บริษัทไอทีชั้นนำของโลกเข้ามาลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลในไทยเราอยู่ในยุคดิจิทัล อะไรที่จะทำต้องรีบทำ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทางสมาคมพร้อมจะเข้าไปเจรจากับเอกชนที่มีกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเองให้นำไปประกอบกับภาครัฐที่กำลังจะทำกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเนื่องจากการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันมีประโยชน์ไม่เป็นการลงทุนซ้ำซ้อน นำส่วนต่างไปสร้างประโยชน์ให้ประเทศด้านอื่นได้ แต่อย่าลืมแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายไซเบอร์ เพราะเป็นที่จับตาของผู้ประกอบการ"
นอกจากนี้ การเติบโตของการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในไทยเมื่อเทียบกับภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมจีน) มีการใช้เป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น และเหนือกว่าอินโดนีเซียทำให้มีบุคลากรด้านเทคโนโลยีไม่เพียงพอ หากต้องการพัฒนาประเทศให้ทันต่างชาติต้องผลิตบุคลากรขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่ง
ด้าน พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ไทยอยู่ในอันดับ 74 เรื่องการใช้บริการโทรคมนาคมสูงกว่าปีที่แล้ว 7 อันดับ จากการเปลี่ยนผ่านจาก 2G ไปยัง 3G เร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รวมถึงการมีเทคโนโลยี 4G ยกระดับการใช้บริการโทรคมนาคมที่ปัจจุบันมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 83 ล้านหมายเลข หรือ 120% ของประชากร และมี 39.4 ล้านเลขหมายใช้โมบายอินเทอร์เน็ต
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า เตรียมพูดคุยกับนักลงทุนต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น ให้เข้ามาลงทุนด้านเทคโนโลยี รวมถึงโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น บรอดแบนด์แห่งชาติ และสมาร์ทซิตี้ที่กำลังทดลองสร้างที่ภูเก็ต
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1453969496
ไม่มีความคิดเห็น: