08 กุมภาพันธ์ 2559 กสทช. รวบรวมข้อเสนอทั้งหมดก่อนสิ้นเดือน ก.พ.และ ชงคสช.ขอแจกคูปองส่วนลดเพิ่มให้ครบ 22.9 ล้านครัวเรือน
ประเด็นหลัก
จากนี้จะมีการประชุมร่วมกันทุกสัปดาห์ เพื่อจะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดก่อนสิ้นเดือน ก.พ. เสนอให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณา ก่อนจะเสนอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาดำเนินการต่อไป
________________________________
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ม.ค. 2559 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ได้จัดประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทั้ง 24 ช่อง ร่วมกับเจ้าของโครงข่ายทีวีดิจิทัลทั้ง 4 ราย ตัวแทนจากธนาคารผู้ออกหนังสือรับรองเงินกู้(แบงค์การันตี) ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา รวมถึงตัวแทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในการให้บริการทีวีดิจิทัลร่วมกัน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า การประชุมนี้สอดคล้องกับแนวทางของศาลปกครองที่รับพิจารณาในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับทีวีดิจิทัลทั้งหมด ที่ต้องการให้ทั้งฝั่ง กสทช. และผู้ประกอบการเจรจาหาทางออกร่วมกันให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. นี้
โดยในการประชุมครั้งแรกได้ข้อสรุปว่า 1 การประชุม ไม่ได้หมายความว่า บรรดาคดีที่ฟ้องร้องจะชะลอหรือยุติลง ยังคงเป็นไปตามกระบวนการของศาลต่อไป 2.สิ่งที่ผู้ประกอบการเสนอมาราว 10 ประเด็น คือ การขยายเวลาการชำระเงินงวดที่ 3 การขอขยายอายุใบอนุญาต การขอหยุดพักการประกอบกิจการจะทำได้หรือไม่ การเยียวยาเพื่อชดเชยให้ผู้ประกอบการ การเรียงช่องให้ทุกแพลตฟอร์มเหมือนกัน การแจกคูปองส่วนลด 690 บาทให้ประชาชนนำไปซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลเพิ่มให้ครบ 22.9 ล้านครัวเรือน การเร่งประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น การวัดเรทติ้งสำรวจความนิยมของแต่ละช่อง การลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนาของ กสทช. การลดค่าเช่าโครงข่าย การลดภาระการแพร่ภาพตามกฎมัสต์แคร์รี่ที่แต่ละช่องต้องนำช่องสัญญาณของตนเองไปเผยแพร่ในทุกแพลตฟอร์ม"
"ถือเป็นการประชุมนัดแรกในการหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน ยังมีหลายประเด็นที่ไม่ตกผลึก ขอให้ทุกฝ่ายไปวิเคราะห์เพิ่มเติม จุดยืนคือ กสทช. พร้อมช่วยเหลือ แต่ต้องไม่ผิดกฎหมายและรัฐไม่เสียหาย ฉะนั้นทุกฝ่ายต้องหาทางออก แต่สิ่งที่ กสทช. จะทำได้เลยคือ การแจกคูปองเพิ่ม โดยจะส่งหนังสือขอให้คสช. 22.9 ล้านครัวเรือน จากเดิมที่แจกไปแล้วราว 13.7 ล้านครัวเรือน และการลดเงินสมทบเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนา ที่ปัจจุบันเก็บตามขั้นบันไดตั้งแต่ 0.5 – 2% โดยจะลดอัตราลง และไม่มีการเก็บย้อนหลัง เพราะตรงนี้เป็นอำนาจที่ กสทช. จะทำได้ทันที ส่วนประเด็นอื่นๆ จะหารืออีกครั้งในการประชุมวันที่ 27 ม.ค.นี้"
จากนี้จะมีการประชุมร่วมกันทุกสัปดาห์ เพื่อจะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดก่อนสิ้นเดือน ก.พ. เสนอให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณา ก่อนจะเสนอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาดำเนินการต่อไป
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1453201413
ไม่มีความคิดเห็น: