29 มกราคม 2559 อีริคสันกับ AT&T ร่วมมือกันสร้าง Connected Water เพื่อโครงการสมาร์ทซิตี้ในเมืองแอตแลนต้า

สมาร์ท ซิตี้  หรือเรียกอีกอย่างว่า เมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการนำ เทคโนโลยีดิจิตัล หรือข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสารต่างๆมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของบริการชุมชน เพื่อช่วยในการลดต้นทุน และลดการบริโภคของประชากร โดยให้ประชาชนสามารถอยู่อาศัยได้ในคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ดังนั้นผมขอช่วยประชาสัมพันธ์ ข่าว การใช้เทคโนโลยีบนเครือข่ายโมบายมาพัฒนาในโครงการ สมาร์ท ซิตี้  ในเมืองแอตแลนต้า ภายใต้โครงการ Connected Water

Connected Water เป็นระบบตรวจสอบและดูแลคุณภาพน้ำในแหล่งเก็บน้ำของเมืองแอตแลนต้าจากระยะไกลได้ตลอดเวลา ผ่านเครือข่ายโมบาย

ท่านสามารถรับชม วีดีโอ Connected Water ได้ตาม link ข่งล่างนี้

https://www.youtube.com/watch?v=GPaAOZsS7fs

https://www.youtube.com/watch?v=lIrY9OOYt0E

อีริคสันกับ AT&T ร่วมมือกันสร้าง Connected Water เพื่อโครงการสมาร์ทซิตี้ในเมืองแอตแลนต้า

·      โครงการ Connected Water เป็นระบบตรวจสอบและดูแลคุณภาพน้ำในแหล่งเก็บน้ำของเมืองแอตแลนต้าจากระยะไกลได้ตลอดเวลา ผ่านเครือข่ายโมบายสำหรับหน่วยงาน Chattahoochee Riverkeeper

·      การตรวจสอบคุณภาพและสิ่งปนเปื้อนในน้ำตั้งแต่เนิ่นๆ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการการพัฒนาสมาร์ทซิตี้อย่างยั่งยืน

·      บริษัท AT&T จะเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโมบายที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ Internet of Things หรือ IoT ต่างๆ

อีริคสัน ได้ประกาศทำการทดสอบภาคสนามโซลูชั่น Connected Water ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบและดูแลคุณภาพน้ำผ่านเครือข่ายโมบายร่วมกับบริษัท AT&T ในเมืองแอตแลนต้า โดยการทดสอบภาคสนามครั้งนี้จะทำให้หน่วยงาน Chattahoochee Riverkeeper ซึ่งก่อตั้งมาเพื่อปกป้องทรัพยากรน้ำในบริเวณลุ่มแม่น้ำ Chattahoochee นั้นสามารถตรวจสอบคุณภาพของน้ำในเมืองในแหล่งน้ำสำคัญๆ ตามจุดต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยระบบ Connected Water ทีใช้ในภาคสนามครั้งนี้เป็นระบบต้นแบบซึ่งได้ถูกคิดค้นพัฒนาขึ้นมาจากไอเดียที่ได้รับรางวัลจากการประกวดนวัตกรรม Technology for Good ของนักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วโลกที่ทางอีริคสันป็นผู้ให้การสนับสนุน

หน่วยงาน Chattahoochee Riverkeeper เป็นองค์กรส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งก่อตั้งขึ้นในปีพศ 2537 โดยมีสมาชิกมากกว่า 7,000 คนที่อุทิศตัวเพื่อปกป้องและฟื้นฟูแหล่งน้ำ Chattahoochee ซึ่งถือเป็นแหล่งน้ำดื่มสำหรับคนมากถึงสี่ล้านคน

นายเจสัน อูลเซ็ธจากหน่วยงาน Chattahoochee Riverkeeper ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ทางองค์กรนั้นรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับทั้งทางอีริคสัน และ AT&T ในโครงการนี้ ซึ่งจะทำให้มีแหล่งน้ำที่สะอาดและอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งกว่าเดิมแก่เมืองแอตแลนต้าและที่อื่นๆ ด้วย"

การทดลองครั้งนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของ Internet of Things ที่สัท้อนให้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นสามารถได้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อกับเครือข่าย โดยในปัจจุบัน IoT นั้นกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและ รายงาน Ericsson Mobility Report ได้กล่าวว่า ในปีพ.ศ. 2564 จะมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ถูกเชื่อมต่อกับโครงข่ายทั่วโลกสูงถึง 2,800 ล้านเครื่อง

โครงการ Connected Water ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบต้นแบบในแนวลุ่มน้ำเมืองแอตแลนต้าที่ Proctor Creek ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยกว่า 60,000 คน โดยแม่น้ำน้ำแห่งนี้จะไหลผ่านทั้งเขตที่อยู่อาศัย เขตอุตสาหกรรม สวนสาธารณะและโรงเรียนต่างๆในตัวเมืองอีกด้วย

นาย ไมค์ ซีโต้ ผู้จัดการทั่วไปของโครงการ Smart Cities ของบริษัท AT&T กล่าวว่า "ความสำเร็จของการเชื่อมต่อของ Connected Water dy[เครือข่ายโมบายในครั้งนี้จะทำให้ภาครัฐและหน่วยงานเทศบาลเมืองต่างๆ ต้องหันมาทบทวนใหม่ว่า ควรเราจะใช้เทคโนโลยีไอซีทีกันอย่างไรบ้างเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้อยู่อาศัยในตัวเมืองและชุมชนต่างๆ โดยทาง AT&T รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบภาคสนามในครั้งนี้ และเราก็คาดหวังว่าจะได้เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายเชื่อมต่อเพื่อทำให้เมืองต่างๆ ฉลาดอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น"

นาย เอเลน ไวด์มาน กรุเนอวาลด์ รองประธานฝ่ายความยั่งยืนและบรรษัทบริบาลของอีริคสันกล่าวว่า "โครงการ Connected Water นี้แสดงให้เห็นว่าแผนงาน Technology for Good ของอีริคสันนั้นทำให้เมืองต่างๆ ทั่วโลกมีความสมบูรณ์และชาญฉลาดอย่างยั่งยืนได้อย่างไร การใช้เครือข่ายโมบายเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ต่างๆอย่างเป็นระบบ เพื่อรวบรวมและประมวลผลข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นนั้นทำให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมเป็นข้อมูล Big Data ที่สร้างความรู้และความเข้าใจในทรัพยากรและแหล่งน้ำดื่มของตัวเมืองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งก็จะทำให้พวกเค้าสามารถวิเคราะห์ พัฒนาและปรับปรุงคุณภาพของน้ำได้อย่างยั่งยืนและสร้างสรรค์ยิ่งกว่าเดิม"