19 มกราคม 2559 DTAC ชี้ ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สร้างรายได้ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มากที่สุด โดยในไตรมาส 3/2258 ดีแทคมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ราว 14.4% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับรายได้การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเทเลนอร์ที่มีสัดส่วนรายได้ที่ 8.5% ของรายได้รวมทั้งหมด
ประเด็นหลัก
ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สร้างรายได้ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มากที่สุด โดยในไตรมาส 3/2258 ดีแทคมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ราว 14.4% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับรายได้การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเทเลนอร์ที่มีสัดส่วนรายได้ที่ 8.5% ของรายได้รวมทั้งหมด
นายซิคเว่กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เล่นใหม่ในตลาดอย่าง บริษัท แจสโมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ดีแทคจะไม่ใช้คำว่ากลัวคู่ต่อสู้ แต่ดีแทคยินดีที่จะมีการแข่งขันในตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสถานการณ์ของแต่บริษัทจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ใช่ตลาดที่จะเข้ามาง่ายๆ ซึ่งรายใหม่ที่จะเข้ามาในการแข่งขันจะต้องเริ่มใหม่ สร้างแบนด์ใหม่ โครงข่าย และอีกมากมาย ไม่ใช่ใครที่จะเข้ามาทำง่ายๆ และขอให้ แจส โชคดี
_________________________________________________
“บิ๊กเทเลนอร์” ย้ำ ไม่ถอนการลงทุนไทย คุยธุรกิจมือถือไทยสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากที่สุด พร้อมเดินหน้าขยายโครงข่าย “ลาร์ส นอร์ลิ่ง” รอประมูลคลื่นในอนาคตทั้ง อาทิ ย่าน 2600, 700 MHz หลังแพ้ประมูล 4G ยัน “แจส” ไม่ใช่คู่ต่อสู้
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า หลังจากที่ ดีแทค พลาดใบอนุญาต 4G ย่าน 1800 และ 900 MHz นโยบายของดีแทค ต่อจากนี้คือจะเรียกความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ คือ เดินหน้าขยายการลงทุนโครงข่ายโดยจะขยายโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูง (ซูปเปอร์สปีด) ไปยังหัวเมืองต่างจังหวัดและขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปีนี้ ดีแทค มีเป้าหมายจะเพิ่มผู้ใช้บริการ 4G จาก 2 ล้านราย เป็น 4.5 ล้านราย ภายในปีนี้ โดยดีแทคจะต่อสู้อย่างหนักอย่างที่ไม่เคยมีใครเคยเป็นมาก่อนในการแข่งขันทางการตลาด
“จากการได้พบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีของไทยได้ให้ความชัดเจนในการทำโรดแมปคลื่นความถี่ และการจะนำคลื่นออกมาประมูลในอนาคต อาทิ ย่าน 2600, 700, 750 และ 2300 MHz รัฐบาลของไทยได้มีประสบการณ์ที่ดี” นายนอร์ลิ่ง กล่าว
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์กรุ๊ป กล่าวว่า มองว่าเอเชียยังเป็นภูมิภาคสำคัญ ปัจจุบัน
เทเลนอร์มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 200 ล้านราย ในจำนวนนี้185 ล้านราย อยู่ในเอเชีย เอเชียได้เปลี่ยนเป็นผู้นำในการพัฒนาสู่สังคมดิจิทัล เทเลนอร์จึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานี้จึงพร้อมที่จะลงทุนเพื่อพัฒนาบริการดิจิทัลรองรับการเติบโตนี้
สำหรับประเทศไทยเทเลนอร์ยังคงมุ่งมั่นจะรักษาสัญญาในการไปสู่แนวทาง Internet for all หรือการปรับรูปแบบการบริการด้วยเสียงไปสู่บริการอินเตอร์เนตบนมือถือ โดยดีแทคจะยังทุ่มเทและลงทุนเพื่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมไทยต่อไป
“เหตุผลที่เทเลนอร์ยังคงลงทุนต่อไปเพราะเจ้าของเทเลนอร์คือรัฐบาลนอเวย์มีวิชั่นที่มองไปข้างหน้าเราจึงจะไม่ตัดสินใจโดยดูเพียงผลประกอบการระยะสั้น ในธุรกิจโทรคมนาคมเป็นเรื่องปกติที่จะมีช่วงที่ผลประกอบการดีและตกต่ำ ในบางประเทศที่เข้าไปลงทุนอาจมีช่วงเวลาที่ผลประกอบการไม่ดี เราจึงไม่ได้มองเพียงแค่ช่วงเวลานั้นแต่ต้องดูศักยภาพของบริษัทในระยะยาว”
พร้อมย้ำว่า เทเลนอร์จะไม่ทิ้งตลาดประเทศไทยโดยจะสนับสนุนการลงทุนในดีแทค อย่างเต็มที่ส่วนที่ดีแทคไม่ชนะการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 และ 900 MHz ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจในราคาใบอนุญาตที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เมื่อมองในอนาคตยังมีคลื่นความถี่ออกมาสู่การประมูลอีกหลายย่าน ทั้งคลื่น 1800, 850, 700, 2100 และ 2300 MHz แต่เทเลนอร์อยากขอให้ผู้กำกับดูแลความชัดเจนในการเปิดเผย โรดแมป ในการบริหารจัดสรรคลื่นความถี่
“เทเลนอร์มองว่าการที่เราไม่ต้องไปจ่ายค่าใบอนูญาตมากเกินไปทำให้เรามีเงินเหลือในการลงทุนเพื่อให้บริการของเรา และด้วยการที่ไม่ได้มีภาระการลงทุนทำให้เรามั่นใจว่าจะชนะการประมูลคลื่นความถี่ในปี 2018”
ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สร้างรายได้ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มากที่สุด โดยในไตรมาส 3/2258 ดีแทคมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ราว 14.4% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับรายได้การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเทเลนอร์ที่มีสัดส่วนรายได้ที่ 8.5% ของรายได้รวมทั้งหมด
นายซิคเว่กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เล่นใหม่ในตลาดอย่าง บริษัท แจสโมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ดีแทคจะไม่ใช้คำว่ากลัวคู่ต่อสู้ แต่ดีแทคยินดีที่จะมีการแข่งขันในตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสถานการณ์ของแต่บริษัทจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ใช่ตลาดที่จะเข้ามาง่ายๆ ซึ่งรายใหม่ที่จะเข้ามาในการแข่งขันจะต้องเริ่มใหม่ สร้างแบนด์ใหม่ โครงข่าย และอีกมากมาย ไม่ใช่ใครที่จะเข้ามาทำง่ายๆ และขอให้ แจส โชคดี
http://www.naewna.com/business/196567
ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สร้างรายได้ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มากที่สุด โดยในไตรมาส 3/2258 ดีแทคมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ราว 14.4% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับรายได้การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเทเลนอร์ที่มีสัดส่วนรายได้ที่ 8.5% ของรายได้รวมทั้งหมด
นายซิคเว่กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เล่นใหม่ในตลาดอย่าง บริษัท แจสโมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ดีแทคจะไม่ใช้คำว่ากลัวคู่ต่อสู้ แต่ดีแทคยินดีที่จะมีการแข่งขันในตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสถานการณ์ของแต่บริษัทจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ใช่ตลาดที่จะเข้ามาง่ายๆ ซึ่งรายใหม่ที่จะเข้ามาในการแข่งขันจะต้องเริ่มใหม่ สร้างแบนด์ใหม่ โครงข่าย และอีกมากมาย ไม่ใช่ใครที่จะเข้ามาทำง่ายๆ และขอให้ แจส โชคดี
_________________________________________________
“บิ๊กเทเลนอร์” ย้ำ ไม่ถอนการลงทุนไทย คุยธุรกิจมือถือไทยสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากที่สุด พร้อมเดินหน้าขยายโครงข่าย “ลาร์ส นอร์ลิ่ง” รอประมูลคลื่นในอนาคตทั้ง อาทิ ย่าน 2600, 700 MHz หลังแพ้ประมูล 4G ยัน “แจส” ไม่ใช่คู่ต่อสู้
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า หลังจากที่ ดีแทค พลาดใบอนุญาต 4G ย่าน 1800 และ 900 MHz นโยบายของดีแทค ต่อจากนี้คือจะเรียกความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ คือ เดินหน้าขยายการลงทุนโครงข่ายโดยจะขยายโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูง (ซูปเปอร์สปีด) ไปยังหัวเมืองต่างจังหวัดและขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปีนี้ ดีแทค มีเป้าหมายจะเพิ่มผู้ใช้บริการ 4G จาก 2 ล้านราย เป็น 4.5 ล้านราย ภายในปีนี้ โดยดีแทคจะต่อสู้อย่างหนักอย่างที่ไม่เคยมีใครเคยเป็นมาก่อนในการแข่งขันทางการตลาด
“จากการได้พบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีของไทยได้ให้ความชัดเจนในการทำโรดแมปคลื่นความถี่ และการจะนำคลื่นออกมาประมูลในอนาคต อาทิ ย่าน 2600, 700, 750 และ 2300 MHz รัฐบาลของไทยได้มีประสบการณ์ที่ดี” นายนอร์ลิ่ง กล่าว
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์กรุ๊ป กล่าวว่า มองว่าเอเชียยังเป็นภูมิภาคสำคัญ ปัจจุบัน
เทเลนอร์มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 200 ล้านราย ในจำนวนนี้185 ล้านราย อยู่ในเอเชีย เอเชียได้เปลี่ยนเป็นผู้นำในการพัฒนาสู่สังคมดิจิทัล เทเลนอร์จึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานี้จึงพร้อมที่จะลงทุนเพื่อพัฒนาบริการดิจิทัลรองรับการเติบโตนี้
สำหรับประเทศไทยเทเลนอร์ยังคงมุ่งมั่นจะรักษาสัญญาในการไปสู่แนวทาง Internet for all หรือการปรับรูปแบบการบริการด้วยเสียงไปสู่บริการอินเตอร์เนตบนมือถือ โดยดีแทคจะยังทุ่มเทและลงทุนเพื่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมไทยต่อไป
“เหตุผลที่เทเลนอร์ยังคงลงทุนต่อไปเพราะเจ้าของเทเลนอร์คือรัฐบาลนอเวย์มีวิชั่นที่มองไปข้างหน้าเราจึงจะไม่ตัดสินใจโดยดูเพียงผลประกอบการระยะสั้น ในธุรกิจโทรคมนาคมเป็นเรื่องปกติที่จะมีช่วงที่ผลประกอบการดีและตกต่ำ ในบางประเทศที่เข้าไปลงทุนอาจมีช่วงเวลาที่ผลประกอบการไม่ดี เราจึงไม่ได้มองเพียงแค่ช่วงเวลานั้นแต่ต้องดูศักยภาพของบริษัทในระยะยาว”
พร้อมย้ำว่า เทเลนอร์จะไม่ทิ้งตลาดประเทศไทยโดยจะสนับสนุนการลงทุนในดีแทค อย่างเต็มที่ส่วนที่ดีแทคไม่ชนะการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 และ 900 MHz ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจในราคาใบอนุญาตที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เมื่อมองในอนาคตยังมีคลื่นความถี่ออกมาสู่การประมูลอีกหลายย่าน ทั้งคลื่น 1800, 850, 700, 2100 และ 2300 MHz แต่เทเลนอร์อยากขอให้ผู้กำกับดูแลความชัดเจนในการเปิดเผย โรดแมป ในการบริหารจัดสรรคลื่นความถี่
“เทเลนอร์มองว่าการที่เราไม่ต้องไปจ่ายค่าใบอนูญาตมากเกินไปทำให้เรามีเงินเหลือในการลงทุนเพื่อให้บริการของเรา และด้วยการที่ไม่ได้มีภาระการลงทุนทำให้เรามั่นใจว่าจะชนะการประมูลคลื่นความถี่ในปี 2018”
ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สร้างรายได้ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มากที่สุด โดยในไตรมาส 3/2258 ดีแทคมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ราว 14.4% ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับรายได้การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเทเลนอร์ที่มีสัดส่วนรายได้ที่ 8.5% ของรายได้รวมทั้งหมด
นายซิคเว่กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เล่นใหม่ในตลาดอย่าง บริษัท แจสโมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ดีแทคจะไม่ใช้คำว่ากลัวคู่ต่อสู้ แต่ดีแทคยินดีที่จะมีการแข่งขันในตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสถานการณ์ของแต่บริษัทจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ใช่ตลาดที่จะเข้ามาง่ายๆ ซึ่งรายใหม่ที่จะเข้ามาในการแข่งขันจะต้องเริ่มใหม่ สร้างแบนด์ใหม่ โครงข่าย และอีกมากมาย ไม่ใช่ใครที่จะเข้ามาทำง่ายๆ และขอให้ แจส โชคดี
http://www.naewna.com/business/196567
ไม่มีความคิดเห็น: