03 มกราคม 2559 TOSHIBA THAILAND มีแผนจะถอนตัวออกจากตลาดทีวีด้วยการทยอยขายโรงงานผลิตทีวีในต่างประเทศทั้งหมด รวมถึงมีแผนขายแบรนด์เล็กซ่า (REGZA) ให้กับผู้ผลิตรายอื่น โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้
ประเด็นหลัก
"โตชิบา" เปิดโต๊ะเจรจาขายโรงงานทีวีอินโดนีเซียให้คู่แข่งต่างชาติ พร้อมยุติร่วมทุนพันธมิตรท้องถิ่นอียิปต์ เหตุตลาดแข่งขันสูง-อื้อฉาวบัญชีทำรายได้ทรุด คาดถอนตัวธุรกิจทีวีก่อนหันจับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์-บีทูบี ด้านบริษัทร่อนแถลงการณ์ยันยังไม่ตัดสินใจ
ล่าสุดสำนักข่าว "เดอะ เจแปนไทม์" รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัท "โตชิบา" มีแผนจะถอนตัวออกจากตลาดทีวีด้วยการทยอยขายโรงงานผลิตทีวีในต่างประเทศทั้งหมด รวมถึงมีแผนขายแบรนด์เล็กซ่า (REGZA) ให้กับผู้ผลิตรายอื่น โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้
โดยเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มีผลประกอบการไม่เข้าเป้า ซึ่งประกอบด้วยทีวี คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างเครื่องซักผ้า และตู้เย็น ประกอบกับความเสียหายมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐที่เกิดจากเรื่องอื้อฉาวทางบัญชีที่ถูกเปิดเผยเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งนำไปสู่แนวโน้มที่มีบริษัทจะหันไปเน้นธุรกิจผลิตส่วนประกอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และธุรกิจบีทูบีอื่นแทนธุรกิจบีทูซีที่เสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าว"นิกเคอิ" ที่ระบุว่า "โตชิบา" อยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายกับผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และประเทศอื่น ๆ เพื่อบรรลุข้อตกลงขายโรงงานผลิตทีวีของโตชิบาในประเทศอินโดนีเซียด้วยมูลค่าหลายพันล้านเยน โดยหลังจากนี้โตชิบาจะทำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการขายไลเซนส์แบรนด์ให้กับผู้ผลิตรายอื่น
__________________________________________________________
"โตชิบา" จ่อถอดทีวีเล็งขายรง.อินโด-อียิปต์
"โตชิบา" เปิดโต๊ะเจรจาขายโรงงานทีวีอินโดนีเซียให้คู่แข่งต่างชาติ พร้อมยุติร่วมทุนพันธมิตรท้องถิ่นอียิปต์ เหตุตลาดแข่งขันสูง-อื้อฉาวบัญชีทำรายได้ทรุด คาดถอนตัวธุรกิจทีวีก่อนหันจับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์-บีทูบี ด้านบริษัทร่อนแถลงการณ์ยันยังไม่ตัดสินใจ
ล่าสุดสำนักข่าว "เดอะ เจแปนไทม์" รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัท "โตชิบา" มีแผนจะถอนตัวออกจากตลาดทีวีด้วยการทยอยขายโรงงานผลิตทีวีในต่างประเทศทั้งหมด รวมถึงมีแผนขายแบรนด์เล็กซ่า (REGZA) ให้กับผู้ผลิตรายอื่น โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้
โดยเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มีผลประกอบการไม่เข้าเป้า ซึ่งประกอบด้วยทีวี คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างเครื่องซักผ้า และตู้เย็น ประกอบกับความเสียหายมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐที่เกิดจากเรื่องอื้อฉาวทางบัญชีที่ถูกเปิดเผยเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งนำไปสู่แนวโน้มที่มีบริษัทจะหันไปเน้นธุรกิจผลิตส่วนประกอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และธุรกิจบีทูบีอื่นแทนธุรกิจบีทูซีที่เสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าว"นิกเคอิ" ที่ระบุว่า "โตชิบา" อยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายกับผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และประเทศอื่น ๆ เพื่อบรรลุข้อตกลงขายโรงงานผลิตทีวีของโตชิบาในประเทศอินโดนีเซียด้วยมูลค่าหลายพันล้านเยน โดยหลังจากนี้โตชิบาจะทำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการขายไลเซนส์แบรนด์ให้กับผู้ผลิตรายอื่น
โดยรายงานยังระบุอีกว่าโตชิบามีแนวโน้มที่จะยุติไลน์การผลิตทีวีในอียิปต์เช่นกัน และอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท "เอล อาราบี" (El Araby) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่นเพื่อยุติการร่วมทุนระหว่างทั้ง 2 บริษัทหลังจากก่อนหน้านี้โตชิบาได้ขายโรงงานผลิตทีวีในประเทศโปแลนด์ให้กับบริษัท "คอมเพล อิเล็กทรอนิกส์" (Compal Electronics) ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวันไป และหยุดไลน์การผลิตของโรงงานในเมืองต้าเหลียนที่ประเทศจีนแล้วเมื่อปี 2013 รวมถึงการยกเลิกไลน์ผลิตทีวีในญี่ปุ่นทั้งหมดเมื่อปี 2012
นอกจากนี้ "โตชิบา" ยังมีแผนที่จะทบทวนการทำตลาดญี่ปุ่น รวมถึงสถานภาพของศูนย์วิจัยและพัฒนาสินค้าที่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ซึ่งแสดงถึงความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจถอนตัวออกจากธุรกิจทีวีโดยสิ้นเชิง
พร้อมกันนี้ยังมีแผนลดพนักงานที่เกี่ยวกับกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ซึ่งประกอบด้วยทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชิ้นใหญ่ และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยอาจมีการโยกย้าย เกษียณก่อนกำหนด หรือเลิกจ้างซึ่งจะส่งผลกับพนักงานตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันคน
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์จาก "โตชิบา"ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้นรวมถึงการขายโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1450075998
"โตชิบา" เปิดโต๊ะเจรจาขายโรงงานทีวีอินโดนีเซียให้คู่แข่งต่างชาติ พร้อมยุติร่วมทุนพันธมิตรท้องถิ่นอียิปต์ เหตุตลาดแข่งขันสูง-อื้อฉาวบัญชีทำรายได้ทรุด คาดถอนตัวธุรกิจทีวีก่อนหันจับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์-บีทูบี ด้านบริษัทร่อนแถลงการณ์ยันยังไม่ตัดสินใจ
ล่าสุดสำนักข่าว "เดอะ เจแปนไทม์" รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัท "โตชิบา" มีแผนจะถอนตัวออกจากตลาดทีวีด้วยการทยอยขายโรงงานผลิตทีวีในต่างประเทศทั้งหมด รวมถึงมีแผนขายแบรนด์เล็กซ่า (REGZA) ให้กับผู้ผลิตรายอื่น โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้
โดยเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มีผลประกอบการไม่เข้าเป้า ซึ่งประกอบด้วยทีวี คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างเครื่องซักผ้า และตู้เย็น ประกอบกับความเสียหายมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐที่เกิดจากเรื่องอื้อฉาวทางบัญชีที่ถูกเปิดเผยเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งนำไปสู่แนวโน้มที่มีบริษัทจะหันไปเน้นธุรกิจผลิตส่วนประกอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และธุรกิจบีทูบีอื่นแทนธุรกิจบีทูซีที่เสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าว"นิกเคอิ" ที่ระบุว่า "โตชิบา" อยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายกับผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และประเทศอื่น ๆ เพื่อบรรลุข้อตกลงขายโรงงานผลิตทีวีของโตชิบาในประเทศอินโดนีเซียด้วยมูลค่าหลายพันล้านเยน โดยหลังจากนี้โตชิบาจะทำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการขายไลเซนส์แบรนด์ให้กับผู้ผลิตรายอื่น
__________________________________________________________
"โตชิบา" จ่อถอดทีวีเล็งขายรง.อินโด-อียิปต์
"โตชิบา" เปิดโต๊ะเจรจาขายโรงงานทีวีอินโดนีเซียให้คู่แข่งต่างชาติ พร้อมยุติร่วมทุนพันธมิตรท้องถิ่นอียิปต์ เหตุตลาดแข่งขันสูง-อื้อฉาวบัญชีทำรายได้ทรุด คาดถอนตัวธุรกิจทีวีก่อนหันจับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์-บีทูบี ด้านบริษัทร่อนแถลงการณ์ยันยังไม่ตัดสินใจ
ล่าสุดสำนักข่าว "เดอะ เจแปนไทม์" รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัท "โตชิบา" มีแผนจะถอนตัวออกจากตลาดทีวีด้วยการทยอยขายโรงงานผลิตทีวีในต่างประเทศทั้งหมด รวมถึงมีแผนขายแบรนด์เล็กซ่า (REGZA) ให้กับผู้ผลิตรายอื่น โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้
โดยเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มีผลประกอบการไม่เข้าเป้า ซึ่งประกอบด้วยทีวี คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างเครื่องซักผ้า และตู้เย็น ประกอบกับความเสียหายมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐที่เกิดจากเรื่องอื้อฉาวทางบัญชีที่ถูกเปิดเผยเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งนำไปสู่แนวโน้มที่มีบริษัทจะหันไปเน้นธุรกิจผลิตส่วนประกอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และธุรกิจบีทูบีอื่นแทนธุรกิจบีทูซีที่เสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าว"นิกเคอิ" ที่ระบุว่า "โตชิบา" อยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายกับผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ และประเทศอื่น ๆ เพื่อบรรลุข้อตกลงขายโรงงานผลิตทีวีของโตชิบาในประเทศอินโดนีเซียด้วยมูลค่าหลายพันล้านเยน โดยหลังจากนี้โตชิบาจะทำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการขายไลเซนส์แบรนด์ให้กับผู้ผลิตรายอื่น
โดยรายงานยังระบุอีกว่าโตชิบามีแนวโน้มที่จะยุติไลน์การผลิตทีวีในอียิปต์เช่นกัน และอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท "เอล อาราบี" (El Araby) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่นเพื่อยุติการร่วมทุนระหว่างทั้ง 2 บริษัทหลังจากก่อนหน้านี้โตชิบาได้ขายโรงงานผลิตทีวีในประเทศโปแลนด์ให้กับบริษัท "คอมเพล อิเล็กทรอนิกส์" (Compal Electronics) ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวันไป และหยุดไลน์การผลิตของโรงงานในเมืองต้าเหลียนที่ประเทศจีนแล้วเมื่อปี 2013 รวมถึงการยกเลิกไลน์ผลิตทีวีในญี่ปุ่นทั้งหมดเมื่อปี 2012
นอกจากนี้ "โตชิบา" ยังมีแผนที่จะทบทวนการทำตลาดญี่ปุ่น รวมถึงสถานภาพของศูนย์วิจัยและพัฒนาสินค้าที่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ซึ่งแสดงถึงความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจถอนตัวออกจากธุรกิจทีวีโดยสิ้นเชิง
พร้อมกันนี้ยังมีแผนลดพนักงานที่เกี่ยวกับกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ซึ่งประกอบด้วยทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชิ้นใหญ่ และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยอาจมีการโยกย้าย เกษียณก่อนกำหนด หรือเลิกจ้างซึ่งจะส่งผลกับพนักงานตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันคน
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์จาก "โตชิบา"ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้นรวมถึงการขายโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1450075998
ไม่มีความคิดเห็น: