Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

14 พฤศจิกายน 2558 สถิติการเข้าชมเว็บไซต์ iTrueMart.com ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 424% มีจำนวนเข้าชมตั้งแต่ ต.ค.ปีก่อน ถึงปัจจุบันเฉลี่ยสูงถึง 4.6 ล้านครั้งต่อเดือน มีอัตราการสั่งซื้อสูงสุด 10,000 ออร์เดอร์/วัน เฉลี่ย 7,000 ออร์เดอร์/วัน สูงสุดในกลุ่ม "อีคอมเมิร์ซออนไลน์รีเทล" ทำให้ก้าวเป็นผู้นำอันดับ 1 ของประเทศไทย

ประเด็นหลัก


สถิติการเข้าชมเว็บไซต์ iTrueMart.com ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 424% มีจำนวนเข้าชมตั้งแต่ ต.ค.ปีก่อน ถึงปัจจุบันเฉลี่ยสูงถึง 4.6 ล้านครั้งต่อเดือน มีอัตราการสั่งซื้อสูงสุด 10,000 ออร์เดอร์/วัน เฉลี่ย 7,000 ออร์เดอร์/วัน สูงสุดในกลุ่ม "อีคอมเมิร์ซออนไลน์รีเทล" ทำให้ก้าวเป็นผู้นำอันดับ 1 ของประเทศไทย

ทั้งพบด้วยว่า มากกว่า 50% กลับมาซื้อสินค้าเพิ่มภายในเดือนเดียวกัน และอีก 20% กลับมาซื้อต่อเนื่องทุกเดือน โดยสัดส่วนการสั่งซื้อสินค้าต่อจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ ณ ต.ค. 2558 อยู่ที่ 4.2% มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปที่ 2% และมากกว่าเมื่อต้นปีที่อยู่ที่ 1.37%

"อุปสรรคอีคอมเมิร์ซในไทย คือช่องทางการชำระเงิน และระบบโลจิสติกส์ที่ยังไม่สะดวก ทำให้ตลาดไม่คึกคักนัก ผู้เล่นรายเล็กเติบโตช้า ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค สำหรับเราช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาเร่งทำตลาดเต็มที่ ใช้งบประมาณไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท"

นางสาวดรุณพร จิรกิจอนุสรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ หน่วยงาน iTrueMart.com บริษัทเดียวกันเสริมว่า หลังประสบความสำเร็จในการขายสินค้าประเภทฮาร์ดไลน์ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และโมบายในปีที่ผ่านมาจึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับประเภทซอฟต์ไลน์ (Soft Line) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าทั่วไปบ้าง โดยเมื่อกลางปีเปิดตัวสินค้าเพื่อความงามและสุขภาพ ล่าสุดเพิ่มสินค้าแม่และเด็ก และกิจกรรมส่งเสริมการขายเจาะทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องด้วย



_________________________________________




ทรูยกทัพบุก"อีคอมเมิร์ซ"อาเซียน เท5.3พันล.ขยายฐาน"ไอทรูมาร์ท-วีเลิฟช้อปปิ้ง"


"ไอทรูมาร์ท-วีเลิฟช้อปปิ้ง" ควงแขนขยายตลาดบุกอาเซียนเต็มสูบ นำร่องที่ฟิลิปปินส์ปลายปีนี้ พร้อมควักกระเป๋าลงทุนเพิ่มกว่า 5.3 พันล้านบาท ตั้งเป้าปั๊มรายได้โตเท่าตัว จาก 3,000 ล้านบาทในสิ้นปี เป็น 6,000 ล้านบาทภายในปีหน้า ทั้งโชว์ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทะลุ 10,000 ออร์เดอร์/วัน ทั้ง 50% สั่งซื้อซ้ำภายในเดือนเดียว และ 20% ซื้อต่อเนื่องทุกเดือน

นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีสัดส่วนเพียง 1% ของตลาดค้าปลีก และมีการคาดการณ์ว่าตลาดบีทูซีอีคอมเมิร์ซจะมีมูลค่าอยู่ที่ 42,000 ล้านบาท ขยายตัว 20% ทุกปี และพร้อมที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อีกมาก คาดว่าปีหน้าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 1.5-1.7% และไปถึง 7-8% ของตลาดค้าปลีกภายใน 5 ปีข้างหน้า จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค รวมถึงการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บริษัทมีแผนขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทั้ง "ไอทรูมาร์ท" และ "วีเลิฟช้อปปิ้ง" ไปในตลาดอาเซียน เพราะประชากรในภูมิภาคนี้มีอยู่ 680 ล้านคน มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเติบโตปีละประมาณ 20%

ขณะที่การเติบโตของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงถึง 56% เทียบกับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ ซึ่งประเทศไทย, เวียดนาม และฟิลิปปินส์ถือเป็นผู้นำ โดยในไทยมีผู้ใช้โมบายอินเทอร์เน็ต 56% เท่าเวียดนาม และใกล้เคียงฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ที่ 50% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีพฤติกรรมการช็อปปิ้งออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

โดยปลายปี 2558 จะเข้าไปเปิดบริการที่ฟิลิปปินส์ ตามด้วยเวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์ในปี 2559 ด้วยเงินลงทุนกว่า 5,300 ล้านบาท

"จุดแข็งของเราคือมีประสบการณ์ในการทำตลาดที่เมืองไทย ซึ่งถือเป็นตลาดที่เติบโตมาก และด้วยขนาดของธุรกิจทำให้ได้เปรียบด้านต้นทุนในการสั่งซื้อสินค้า เราก็หวังว่าจะเป็นบริษัทสัญชาติไทยที่โตในระดับภูมิภาคได้เทียบเท่าผู้เล่นรายใหญ่ในอาเซียน เช่น ลาซาด้าได้"

สำหรับรายได้ของ "ไอทรูมาร์ท" ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท โต 8 เท่า จากปีที่แล้ว โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมได้แก่ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เสริมส่วน "วีเลิฟช้อปปิ้ง" มีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 4,000 ล้านบาท โตขึ้น 200% มีรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท ปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มรายได้ไอทรูมาร์ทเท่าตัวเป็น 6,000 ล้านบาท หลังเข้าสู่เออีซี ส่วนเงินหมุนเวียนในวีเลิฟช้อปปิ้งจะโตเท่าตัวเช่นกัน

ด้านนายสืบสกล สกลสัตยาทร ผู้จัดการทั่วไป หน่วยงาน iTrueMart.com บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า ไอทรูมาร์ทมีเป้าหมายที่จะเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจห้างสรรพสินค้าออนไลน์ มีกลยุทธ์หลักคือ นำเสนอสินค้าแบรนด์แท้ ราคาคุ้มค่า เน้นดูแลลูกค้าครบวงจร ซึ่งจากการศึกษาพบว่าผู้บริโภคต้องการความมั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อ ทั้งราคา รูปแบบการชำระเงิน คุณภาพสินค้า บริการหลังการขาย และการจัดส่ง

"ไอทรูมาร์ทมีระบบคลังสินค้าของตนเอง 1 แห่ง รองรับการสต๊อกสินค้า 1 ล้านชิ้น ปีหน้าจะเพิ่มอีก 4 แห่ง ในแต่ละภูมิภาค มีแบรนด์มากกว่า 700 แบรนด์ และเพิ่มเท่าตัวในปีหน้า ทั้งจัดส่งเองด้วย ผู้บริโภคจึงรับประกันความมั่นใจจากเราได้ตั้งแต่ต้นทางการส่งไปจนถึงขั้นตอนการรับสินค้า ทั้งมีบริการรับชำระเงินปลายทางหรือ Cash on Delivery ที่ชำระเงินเมื่อได้รับสินค้า เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้ามากขึ้น"

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์ iTrueMart.com ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 424% มีจำนวนเข้าชมตั้งแต่ ต.ค.ปีก่อน ถึงปัจจุบันเฉลี่ยสูงถึง 4.6 ล้านครั้งต่อเดือน มีอัตราการสั่งซื้อสูงสุด 10,000 ออร์เดอร์/วัน เฉลี่ย 7,000 ออร์เดอร์/วัน สูงสุดในกลุ่ม "อีคอมเมิร์ซออนไลน์รีเทล" ทำให้ก้าวเป็นผู้นำอันดับ 1 ของประเทศไทย

ทั้งพบด้วยว่า มากกว่า 50% กลับมาซื้อสินค้าเพิ่มภายในเดือนเดียวกัน และอีก 20% กลับมาซื้อต่อเนื่องทุกเดือน โดยสัดส่วนการสั่งซื้อสินค้าต่อจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ ณ ต.ค. 2558 อยู่ที่ 4.2% มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปที่ 2% และมากกว่าเมื่อต้นปีที่อยู่ที่ 1.37%

"อุปสรรคอีคอมเมิร์ซในไทย คือช่องทางการชำระเงิน และระบบโลจิสติกส์ที่ยังไม่สะดวก ทำให้ตลาดไม่คึกคักนัก ผู้เล่นรายเล็กเติบโตช้า ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค สำหรับเราช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาเร่งทำตลาดเต็มที่ ใช้งบประมาณไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท"

นางสาวดรุณพร จิรกิจอนุสรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ หน่วยงาน iTrueMart.com บริษัทเดียวกันเสริมว่า หลังประสบความสำเร็จในการขายสินค้าประเภทฮาร์ดไลน์ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และโมบายในปีที่ผ่านมาจึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับประเภทซอฟต์ไลน์ (Soft Line) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าทั่วไปบ้าง โดยเมื่อกลางปีเปิดตัวสินค้าเพื่อความงามและสุขภาพ ล่าสุดเพิ่มสินค้าแม่และเด็ก และกิจกรรมส่งเสริมการขายเจาะทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องด้วย

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1447303884

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.