14 พฤศจิกายน 2558 DTAC รายงาน ปริมาณการใช้งานปัจจุบันลูกค้าที่ใช้ 4G จะมีการใช้ดาต้าเฉลี่ยต่อเดือนราว 4 กิกะไบต์ ในส่วนของลูกค้า 3G จะใช้ดาต้า ประมาณ 2.7-2.8 กิกะไบต์ต่อเดือน
ประเด็นหลัก
ขณะที่ในส่วนของปริมาณการใช้งานปัจจุบันลูกค้าที่ใช้ 4G จะมีการใช้ดาต้าเฉลี่ยต่อเดือนราว 4 กิกะไบต์ ในส่วนของลูกค้า 3G จะใช้ดาต้า ประมาณ 2.7-2.8 กิกะไบต์ต่อเดือน ส่วนของตัวเครื่องที่รับ 4G ทั้ง 1800 และ 2100 เมกะเฮิรตซ์ ในตลาดจะมีกว่า 133 รุ่น และแน่นอนว่า รุ่นที่ดีแทคจำหน่ายจะสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 คลื่น
_________________________________________
ดีแทคลุยบริการ4Gบนคลื่นความถี่‘กสท’
ระบุได้สิทธิยาวถึงปี’61
คุยมีแบนด์วิธเยอะสุด
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ขณะนี้ดีแทคพร้อมเปิดให้บริการ 4G บนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์(MHz) จำนวน 10 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นคลื่นอยู่ในระบบสัญญาสัมปทานเดิม กับบมจ.กสท โทรคมนาคม และจะสิ้นสุดอายุในปี 2561 ซึ่งการให้บริการจะนำมาเพิ่มความแรงจากเดิมที่ให้บริการ 4G บนคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้ดีแทคให้บริการ 4G รวมเป็นจำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ มีแบนด์วิธสูงสุด ทำให้ลูกค้าดีแทคที่ใช้งานอินเตอร์เนตบนมือถือจะสัมผัสได้ถึงความเร็วมากขึ้น ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการเปิดให้บริการในครั้งนี้ยังทำให้ลูกค้าดีแทคที่ใช้บริการทุกคลื่นความถี่ไม่ว่าจะเป็น 4G บนย่านความถี่ 2100 และ 3G บนคลื่น 2100 และ 3G บนคลื่น 850 หรือ 2G บนคลื่น 1800 ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับการเปิดให้บริการครั้งนี้ โดยเริ่มต้นจากพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้งานหนาแน่นและคิดเป็นบริเวณพื้นที่มากกว่า 50% ของพื้นที่ที่มีการใช้งาน 4G ในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยจะรองรับความต้องการใช้งานอินเตอร์เนตบนมือถือที่สูงขึ้น โดยการให้บริการจะครอบคลุมพื้นที่ธุรกิจ ศูนย์กลางจุดนัดพบ แหล่งช็อปปิ้งและท่องเที่ยว เช่น พระรามสี่ สาทร สีลม คลองเตย พญาไท สุทธิสาร รัชดาภิเษก ดินแดง ลาดพร้าว เป็นต้น ลูกค้าดีแทคจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างในความรวดเร็วของอินเตอร์เนตบนมือถือ และคุณภาพที่ราบรื่นของการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ
ทั้งนี้ปัจจุบัน ดีแทค มีลูกค้าที่มีเครื่องรองรับการใช้งาน 4G ราว 3.5 ล้านเครื่อง ส่วนจำนวนลูกค้าจริงมีการใช้งาน 4G ในระบบ 1.8 ล้านราย จากเป้าหมายที่วางไว้สิ้นปี 2.5 ล้านราย ขณะที่ลูกค้าที่เหลืออีกราว 20 ล้านราย ใช้งาน บนเครือข่าย 3G และ 3 ล้านราย ใช้งานบนคลื่น 2Gจากฐานลูกค้าทั้งหมด 25 ล้านราย
“ปริมาณลูกค้า 4G ที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงหลังเปิดให้บริการจะมาจากกลุ่มลูกค้ากลาง ล่างเป็นหลัก เพราะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ใช้งานระบบรายเดือนกว่า 80% มีการใช้งาน 4G แล้ว ในขณะที่ลูกค้าเติมเงินมีการใช้งาน 4G ราว 30% เท่านั้น”
ขณะที่ในส่วนของปริมาณการใช้งานปัจจุบันลูกค้าที่ใช้ 4G จะมีการใช้ดาต้าเฉลี่ยต่อเดือนราว 4 กิกะไบต์ ในส่วนของลูกค้า 3G จะใช้ดาต้า ประมาณ 2.7-2.8 กิกะไบต์ต่อเดือน ส่วนของตัวเครื่องที่รับ 4G ทั้ง 1800 และ 2100 เมกะเฮิรตซ์ ในตลาดจะมีกว่า 133 รุ่น และแน่นอนว่า รุ่นที่ดีแทคจำหน่ายจะสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 คลื่น
นอกจากนี้ ดีแทค พร้อมร่วมเปิดประมูลใบอนุญาต 4G ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้วย
http://www.naewna.com/business/186858
ขณะที่ในส่วนของปริมาณการใช้งานปัจจุบันลูกค้าที่ใช้ 4G จะมีการใช้ดาต้าเฉลี่ยต่อเดือนราว 4 กิกะไบต์ ในส่วนของลูกค้า 3G จะใช้ดาต้า ประมาณ 2.7-2.8 กิกะไบต์ต่อเดือน ส่วนของตัวเครื่องที่รับ 4G ทั้ง 1800 และ 2100 เมกะเฮิรตซ์ ในตลาดจะมีกว่า 133 รุ่น และแน่นอนว่า รุ่นที่ดีแทคจำหน่ายจะสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 คลื่น
_________________________________________
ดีแทคลุยบริการ4Gบนคลื่นความถี่‘กสท’
ระบุได้สิทธิยาวถึงปี’61
คุยมีแบนด์วิธเยอะสุด
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ขณะนี้ดีแทคพร้อมเปิดให้บริการ 4G บนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์(MHz) จำนวน 10 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นคลื่นอยู่ในระบบสัญญาสัมปทานเดิม กับบมจ.กสท โทรคมนาคม และจะสิ้นสุดอายุในปี 2561 ซึ่งการให้บริการจะนำมาเพิ่มความแรงจากเดิมที่ให้บริการ 4G บนคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้ดีแทคให้บริการ 4G รวมเป็นจำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ มีแบนด์วิธสูงสุด ทำให้ลูกค้าดีแทคที่ใช้งานอินเตอร์เนตบนมือถือจะสัมผัสได้ถึงความเร็วมากขึ้น ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการเปิดให้บริการในครั้งนี้ยังทำให้ลูกค้าดีแทคที่ใช้บริการทุกคลื่นความถี่ไม่ว่าจะเป็น 4G บนย่านความถี่ 2100 และ 3G บนคลื่น 2100 และ 3G บนคลื่น 850 หรือ 2G บนคลื่น 1800 ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับการเปิดให้บริการครั้งนี้ โดยเริ่มต้นจากพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้งานหนาแน่นและคิดเป็นบริเวณพื้นที่มากกว่า 50% ของพื้นที่ที่มีการใช้งาน 4G ในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยจะรองรับความต้องการใช้งานอินเตอร์เนตบนมือถือที่สูงขึ้น โดยการให้บริการจะครอบคลุมพื้นที่ธุรกิจ ศูนย์กลางจุดนัดพบ แหล่งช็อปปิ้งและท่องเที่ยว เช่น พระรามสี่ สาทร สีลม คลองเตย พญาไท สุทธิสาร รัชดาภิเษก ดินแดง ลาดพร้าว เป็นต้น ลูกค้าดีแทคจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างในความรวดเร็วของอินเตอร์เนตบนมือถือ และคุณภาพที่ราบรื่นของการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ
ทั้งนี้ปัจจุบัน ดีแทค มีลูกค้าที่มีเครื่องรองรับการใช้งาน 4G ราว 3.5 ล้านเครื่อง ส่วนจำนวนลูกค้าจริงมีการใช้งาน 4G ในระบบ 1.8 ล้านราย จากเป้าหมายที่วางไว้สิ้นปี 2.5 ล้านราย ขณะที่ลูกค้าที่เหลืออีกราว 20 ล้านราย ใช้งาน บนเครือข่าย 3G และ 3 ล้านราย ใช้งานบนคลื่น 2Gจากฐานลูกค้าทั้งหมด 25 ล้านราย
“ปริมาณลูกค้า 4G ที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงหลังเปิดให้บริการจะมาจากกลุ่มลูกค้ากลาง ล่างเป็นหลัก เพราะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ใช้งานระบบรายเดือนกว่า 80% มีการใช้งาน 4G แล้ว ในขณะที่ลูกค้าเติมเงินมีการใช้งาน 4G ราว 30% เท่านั้น”
ขณะที่ในส่วนของปริมาณการใช้งานปัจจุบันลูกค้าที่ใช้ 4G จะมีการใช้ดาต้าเฉลี่ยต่อเดือนราว 4 กิกะไบต์ ในส่วนของลูกค้า 3G จะใช้ดาต้า ประมาณ 2.7-2.8 กิกะไบต์ต่อเดือน ส่วนของตัวเครื่องที่รับ 4G ทั้ง 1800 และ 2100 เมกะเฮิรตซ์ ในตลาดจะมีกว่า 133 รุ่น และแน่นอนว่า รุ่นที่ดีแทคจำหน่ายจะสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 คลื่น
นอกจากนี้ ดีแทค พร้อมร่วมเปิดประมูลใบอนุญาต 4G ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้วย
http://www.naewna.com/business/186858
ไม่มีความคิดเห็น: