24 ตุลาคม 2558 ทีเด็ดของช่อง 7 คือ ความร่วมมือกับ "นีลเส็น" เพื่อวัดผลเรตติ้งผู้ชมที่ผ่านเข้ามาติดตามรับชมในช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งได้เชื่อมโยงระบบหลังบ้านในการส่งต่อข้อมูลถึงกันเรียบร้อยแล้ว เพื่อวิเคราะห์ผลใน 3 จุดหลัก ๆ ได้แก่ วัดการเข้าถึงของผู้ชม ยอดคลิก และข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ เป็นต้น
ประเด็นหลัก
ทั้งหมดไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้น แต่ช่อง 7 อุ่นเครื่องมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว โดยตั้งบริษัทลูกคือ "บีบีทีวี นิวมีเดีย" เพื่อดูแลพัฒนาคอนเทนต์สำหรับสื่อออนไลน์ รวมถึงการก่อตั้งสถานีออนไลน์ Bugaboo TV เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา นำเสนอคอนเทนต์รายการทั้งหมดของช่อง 7 รองรับกับการขยายตัวของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และสื่อออนไลน์ที่ขยายตัวขึ้น
ส่วนสเต็ปต่อไป "จักรพันธ์ ลีละมาสวัฒน์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีบีทีวี นิวมีเดีย จำกัด แจกแจงว่า จะมุ่งสร้างช่องทางออนไลน์ให้เป็นจอที่ 2 (Second Screen) ของผู้ชมด้วยการสร้างกิจกรรม เกม คอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น รวมถึงใช้ช่องทางนี้ถ่ายทอดสดกีฬาบางแมตช์ควบคู่ไปกับช่อง 7 ซึ่งเป็นช่องหลัก
นอกจากนี้ในต้นปี 2559 เตรียมลอนช์แอปพลิเคชั่น DO7HD ซีซั่น 2 เพื่อสื่อสารระหว่างผู้ชมกับช่อง 7 ลักษณะอินเตอร์แอ็กทีฟ คาดว่าจะมียอดรวม 1 ล้านดาวน์โหลด
แต่ที่ถือเป็นทีเด็ดของช่อง 7 คือ ความร่วมมือกับ "นีลเส็น" เพื่อวัดผลเรตติ้งผู้ชมที่ผ่านเข้ามาติดตามรับชมในช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งได้เชื่อมโยงระบบหลังบ้านในการส่งต่อข้อมูลถึงกันเรียบร้อยแล้ว เพื่อวิเคราะห์ผลใน 3 จุดหลัก ๆ ได้แก่ วัดการเข้าถึงของผู้ชม ยอดคลิก และข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ เป็นต้น
ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกส่งต่อให้แก่สินค้า เอเยนซี่ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการในการวางแผนสื่อ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดจากปัจจุบันผู้ชมที่รับชมคอนเทนต์ของช่อง 7 ผ่าน Bugaboo TV, บีบีทีวี และ Ch7.com สูงถึง 20 ล้านครั้งต่อเดือน
เมื่อผู้ชมวิ่งเร็ว ในฐานะเจ้าตลาดก็วิ่งให้เร็วกว่า เพื่อรักษาส่วนแบ่งไว้ให้มากที่สุด
เมื่อสมรภูมิทีวีเปิดกว้าง ผู้เล่นทุกรายก็พร้อมร่วมชิงงบฯโฆษณาผ่านสื่อทีวีที่สูงถึง 60,000 ล้านบาท ขณะที่ความท้าทายใหม่ ๆ ก็ถาโถมเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้ชมทีวี เปลี่ยนเร็ว มุ่งสู่มัลติสกรีน
________________________________
ช่อง 7 พลิกเกมผนึก "นีลเส็น" วัดเรตติ้งออนไลน์ เจาะตรงสินค้า-เอเยนซี่
กลายเป็นการชิงไหวชิงพริบช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการเปลี่ยนระบบวัดความนิยม (เรตติ้ง) สู่มัลติสกรีนของอุตสาหกรรมทีวี ฟากหนึ่ง สมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) และทีวีดิจิทัล (ยกเว้นช่อง 7) ทีวีดาวเทียม ที่ยังเกาะกลุ่มแน่น อีกฟากหนึ่งคือ ช่อง 7 และ นีลเส็น ยักษ์ใหญ่ผู้สำรวจทีวีเรตติ้งในปัจจุบัน
แม้ว่าล่าสุด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติไม่อนุมัติงบฯสนับสนุนจำนวน 394.2 ล้านบาท แก่สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (Media Research Bureau : MRB) ตามที่ร้องขอ โดยให้เหตุผลว่าไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์
ขณะเดียวกัน "วรรณี รัตนพล" นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) ยืนยันว่า ยังคงเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่ระบบวัดเรตติ้งแบบมัลติสกรีนตามแผนเดิม ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดตั้งสมาคมสภาวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (ประเทศไทย) หรือเอ็มอาร์บี เพื่อมารับผิดชอบโครงการนี้ จากเดิมที่อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมมีเดียเอเยนซี่ฯ
แม้ว่าเงินสนับสนุนร่วม ๆ 400 ล้านดังกล่าว จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ "วรรณี" ย้ำชัดก่อนหน้านี้ว่า งบฯลงทุนเบื้องต้นในการเปลี่ยนผ่านเรตติ้ง 1,500 ล้านบาท ต่อ 6 ปี เป็นงบฯที่ยังไม่ได้รวมเงินสนับสนุนจาก กสทช.อยู่แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายต้องใช้จ่ายเพื่อซื้อข้อมูล 9-10 ล้านบาทต่อปี ประมาณว่ายังกอดคอกันเหนียวแน่น และเดินหน้าต่อ
ส่วนเจ้าตลาดฟรีทีวี-ช่อง 7 ที่ออกตัวชัดตั้งแต่ต้นว่า ไม่เข้าร่วมการเปลี่ยนผ่านเรตติ้งครั้งนี้ "พัฒนพงศ์ หนูพันธ์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เฉลยว่า พร้อมจะก้าวสู่ยุคมัลติแพลตฟอร์มและมีระบบวัดความนิยมของผู้ชม (เรตติ้งออนไลน์) อย่างชัดเจน โดยร่วมกับบริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนาระบบดังกล่าวขึ้น เพื่อให้สินค้า เอเยนซี่ สามารถวางแผนสื่อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้น แต่ช่อง 7 อุ่นเครื่องมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว โดยตั้งบริษัทลูกคือ "บีบีทีวี นิวมีเดีย" เพื่อดูแลพัฒนาคอนเทนต์สำหรับสื่อออนไลน์ รวมถึงการก่อตั้งสถานีออนไลน์ Bugaboo TV เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา นำเสนอคอนเทนต์รายการทั้งหมดของช่อง 7 รองรับกับการขยายตัวของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และสื่อออนไลน์ที่ขยายตัวขึ้น
ส่วนสเต็ปต่อไป "จักรพันธ์ ลีละมาสวัฒน์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีบีทีวี นิวมีเดีย จำกัด แจกแจงว่า จะมุ่งสร้างช่องทางออนไลน์ให้เป็นจอที่ 2 (Second Screen) ของผู้ชมด้วยการสร้างกิจกรรม เกม คอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น รวมถึงใช้ช่องทางนี้ถ่ายทอดสดกีฬาบางแมตช์ควบคู่ไปกับช่อง 7 ซึ่งเป็นช่องหลัก
นอกจากนี้ในต้นปี 2559 เตรียมลอนช์แอปพลิเคชั่น DO7HD ซีซั่น 2 เพื่อสื่อสารระหว่างผู้ชมกับช่อง 7 ลักษณะอินเตอร์แอ็กทีฟ คาดว่าจะมียอดรวม 1 ล้านดาวน์โหลด
แต่ที่ถือเป็นทีเด็ดของช่อง 7 คือ ความร่วมมือกับ "นีลเส็น" เพื่อวัดผลเรตติ้งผู้ชมที่ผ่านเข้ามาติดตามรับชมในช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งได้เชื่อมโยงระบบหลังบ้านในการส่งต่อข้อมูลถึงกันเรียบร้อยแล้ว เพื่อวิเคราะห์ผลใน 3 จุดหลัก ๆ ได้แก่ วัดการเข้าถึงของผู้ชม ยอดคลิก และข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ เป็นต้น
ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกส่งต่อให้แก่สินค้า เอเยนซี่ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการในการวางแผนสื่อ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดจากปัจจุบันผู้ชมที่รับชมคอนเทนต์ของช่อง 7 ผ่าน Bugaboo TV, บีบีทีวี และ Ch7.com สูงถึง 20 ล้านครั้งต่อเดือน
เมื่อผู้ชมวิ่งเร็ว ในฐานะเจ้าตลาดก็วิ่งให้เร็วกว่า เพื่อรักษาส่วนแบ่งไว้ให้มากที่สุด
เมื่อสมรภูมิทีวีเปิดกว้าง ผู้เล่นทุกรายก็พร้อมร่วมชิงงบฯโฆษณาผ่านสื่อทีวีที่สูงถึง 60,000 ล้านบาท ขณะที่ความท้าทายใหม่ ๆ ก็ถาโถมเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้ชมทีวี เปลี่ยนเร็ว มุ่งสู่มัลติสกรีน
สร้างบททดสอบ และความท้าทายใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการทีวีไม่น้อย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1444891040
ทั้งหมดไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้น แต่ช่อง 7 อุ่นเครื่องมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว โดยตั้งบริษัทลูกคือ "บีบีทีวี นิวมีเดีย" เพื่อดูแลพัฒนาคอนเทนต์สำหรับสื่อออนไลน์ รวมถึงการก่อตั้งสถานีออนไลน์ Bugaboo TV เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา นำเสนอคอนเทนต์รายการทั้งหมดของช่อง 7 รองรับกับการขยายตัวของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และสื่อออนไลน์ที่ขยายตัวขึ้น
ส่วนสเต็ปต่อไป "จักรพันธ์ ลีละมาสวัฒน์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีบีทีวี นิวมีเดีย จำกัด แจกแจงว่า จะมุ่งสร้างช่องทางออนไลน์ให้เป็นจอที่ 2 (Second Screen) ของผู้ชมด้วยการสร้างกิจกรรม เกม คอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น รวมถึงใช้ช่องทางนี้ถ่ายทอดสดกีฬาบางแมตช์ควบคู่ไปกับช่อง 7 ซึ่งเป็นช่องหลัก
นอกจากนี้ในต้นปี 2559 เตรียมลอนช์แอปพลิเคชั่น DO7HD ซีซั่น 2 เพื่อสื่อสารระหว่างผู้ชมกับช่อง 7 ลักษณะอินเตอร์แอ็กทีฟ คาดว่าจะมียอดรวม 1 ล้านดาวน์โหลด
แต่ที่ถือเป็นทีเด็ดของช่อง 7 คือ ความร่วมมือกับ "นีลเส็น" เพื่อวัดผลเรตติ้งผู้ชมที่ผ่านเข้ามาติดตามรับชมในช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งได้เชื่อมโยงระบบหลังบ้านในการส่งต่อข้อมูลถึงกันเรียบร้อยแล้ว เพื่อวิเคราะห์ผลใน 3 จุดหลัก ๆ ได้แก่ วัดการเข้าถึงของผู้ชม ยอดคลิก และข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ เป็นต้น
ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกส่งต่อให้แก่สินค้า เอเยนซี่ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการในการวางแผนสื่อ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดจากปัจจุบันผู้ชมที่รับชมคอนเทนต์ของช่อง 7 ผ่าน Bugaboo TV, บีบีทีวี และ Ch7.com สูงถึง 20 ล้านครั้งต่อเดือน
เมื่อผู้ชมวิ่งเร็ว ในฐานะเจ้าตลาดก็วิ่งให้เร็วกว่า เพื่อรักษาส่วนแบ่งไว้ให้มากที่สุด
เมื่อสมรภูมิทีวีเปิดกว้าง ผู้เล่นทุกรายก็พร้อมร่วมชิงงบฯโฆษณาผ่านสื่อทีวีที่สูงถึง 60,000 ล้านบาท ขณะที่ความท้าทายใหม่ ๆ ก็ถาโถมเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้ชมทีวี เปลี่ยนเร็ว มุ่งสู่มัลติสกรีน
________________________________
ช่อง 7 พลิกเกมผนึก "นีลเส็น" วัดเรตติ้งออนไลน์ เจาะตรงสินค้า-เอเยนซี่
กลายเป็นการชิงไหวชิงพริบช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการเปลี่ยนระบบวัดความนิยม (เรตติ้ง) สู่มัลติสกรีนของอุตสาหกรรมทีวี ฟากหนึ่ง สมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) และทีวีดิจิทัล (ยกเว้นช่อง 7) ทีวีดาวเทียม ที่ยังเกาะกลุ่มแน่น อีกฟากหนึ่งคือ ช่อง 7 และ นีลเส็น ยักษ์ใหญ่ผู้สำรวจทีวีเรตติ้งในปัจจุบัน
แม้ว่าล่าสุด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติไม่อนุมัติงบฯสนับสนุนจำนวน 394.2 ล้านบาท แก่สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (Media Research Bureau : MRB) ตามที่ร้องขอ โดยให้เหตุผลว่าไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์
ขณะเดียวกัน "วรรณี รัตนพล" นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) ยืนยันว่า ยังคงเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่ระบบวัดเรตติ้งแบบมัลติสกรีนตามแผนเดิม ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดตั้งสมาคมสภาวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (ประเทศไทย) หรือเอ็มอาร์บี เพื่อมารับผิดชอบโครงการนี้ จากเดิมที่อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมมีเดียเอเยนซี่ฯ
แม้ว่าเงินสนับสนุนร่วม ๆ 400 ล้านดังกล่าว จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ "วรรณี" ย้ำชัดก่อนหน้านี้ว่า งบฯลงทุนเบื้องต้นในการเปลี่ยนผ่านเรตติ้ง 1,500 ล้านบาท ต่อ 6 ปี เป็นงบฯที่ยังไม่ได้รวมเงินสนับสนุนจาก กสทช.อยู่แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายต้องใช้จ่ายเพื่อซื้อข้อมูล 9-10 ล้านบาทต่อปี ประมาณว่ายังกอดคอกันเหนียวแน่น และเดินหน้าต่อ
ส่วนเจ้าตลาดฟรีทีวี-ช่อง 7 ที่ออกตัวชัดตั้งแต่ต้นว่า ไม่เข้าร่วมการเปลี่ยนผ่านเรตติ้งครั้งนี้ "พัฒนพงศ์ หนูพันธ์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เฉลยว่า พร้อมจะก้าวสู่ยุคมัลติแพลตฟอร์มและมีระบบวัดความนิยมของผู้ชม (เรตติ้งออนไลน์) อย่างชัดเจน โดยร่วมกับบริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนาระบบดังกล่าวขึ้น เพื่อให้สินค้า เอเยนซี่ สามารถวางแผนสื่อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้น แต่ช่อง 7 อุ่นเครื่องมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว โดยตั้งบริษัทลูกคือ "บีบีทีวี นิวมีเดีย" เพื่อดูแลพัฒนาคอนเทนต์สำหรับสื่อออนไลน์ รวมถึงการก่อตั้งสถานีออนไลน์ Bugaboo TV เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา นำเสนอคอนเทนต์รายการทั้งหมดของช่อง 7 รองรับกับการขยายตัวของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และสื่อออนไลน์ที่ขยายตัวขึ้น
ส่วนสเต็ปต่อไป "จักรพันธ์ ลีละมาสวัฒน์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีบีทีวี นิวมีเดีย จำกัด แจกแจงว่า จะมุ่งสร้างช่องทางออนไลน์ให้เป็นจอที่ 2 (Second Screen) ของผู้ชมด้วยการสร้างกิจกรรม เกม คอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น รวมถึงใช้ช่องทางนี้ถ่ายทอดสดกีฬาบางแมตช์ควบคู่ไปกับช่อง 7 ซึ่งเป็นช่องหลัก
นอกจากนี้ในต้นปี 2559 เตรียมลอนช์แอปพลิเคชั่น DO7HD ซีซั่น 2 เพื่อสื่อสารระหว่างผู้ชมกับช่อง 7 ลักษณะอินเตอร์แอ็กทีฟ คาดว่าจะมียอดรวม 1 ล้านดาวน์โหลด
แต่ที่ถือเป็นทีเด็ดของช่อง 7 คือ ความร่วมมือกับ "นีลเส็น" เพื่อวัดผลเรตติ้งผู้ชมที่ผ่านเข้ามาติดตามรับชมในช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งได้เชื่อมโยงระบบหลังบ้านในการส่งต่อข้อมูลถึงกันเรียบร้อยแล้ว เพื่อวิเคราะห์ผลใน 3 จุดหลัก ๆ ได้แก่ วัดการเข้าถึงของผู้ชม ยอดคลิก และข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ เป็นต้น
ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกส่งต่อให้แก่สินค้า เอเยนซี่ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการในการวางแผนสื่อ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดจากปัจจุบันผู้ชมที่รับชมคอนเทนต์ของช่อง 7 ผ่าน Bugaboo TV, บีบีทีวี และ Ch7.com สูงถึง 20 ล้านครั้งต่อเดือน
เมื่อผู้ชมวิ่งเร็ว ในฐานะเจ้าตลาดก็วิ่งให้เร็วกว่า เพื่อรักษาส่วนแบ่งไว้ให้มากที่สุด
เมื่อสมรภูมิทีวีเปิดกว้าง ผู้เล่นทุกรายก็พร้อมร่วมชิงงบฯโฆษณาผ่านสื่อทีวีที่สูงถึง 60,000 ล้านบาท ขณะที่ความท้าทายใหม่ ๆ ก็ถาโถมเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะพฤติกรรมผู้ชมทีวี เปลี่ยนเร็ว มุ่งสู่มัลติสกรีน
สร้างบททดสอบ และความท้าทายใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการทีวีไม่น้อย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1444891040
ไม่มีความคิดเห็น: