18 ตุลาคม 2558 กสทช. แต่ปัจจุบันทำได้เพียง 60% หรือ 8.1 ล้านใบ เพราะครัวเรือนต่าง ๆ สามารถรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางอี่น ๆ เช่น ระบบดาวเทียม หรือเคเบิลทีวีได้
ประเด็นหลัก
ผู้บริโภคดูทีวีผ่านออนไลน์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จำนวนคูปองที่นำมาแลกซื้อควรมากกว่า 70% แต่ปัจจุบันทำได้เพียง 60% หรือ 8.1 ล้านใบ เพราะครัวเรือนต่าง ๆ สามารถรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางอี่น ๆ เช่น ระบบดาวเทียม หรือเคเบิลทีวีได้ อีกทั้งบางกลุ่มมีโทรทัศน์ที่สามารถรับชมระบบดิจิทัลได้อยู่แล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำคูปองไปแลกซื้ออีกทำให้จากนี้อัตราการแลกคูปองไม่คึกคักเหมือนช่วงเดือนแรก
อย่างไรก็ตามการสนับสนุนคูปองดิจิทัลให้กลุ่มผู้ที่มีบ้านแต่ไม่มีเจ้าบ้าน,บ้านเช่า,ผู้ยากไร้ และบ้านใหม่ที่เข้าอยู่หลังปี 2557 ขณะนี้ กสทช. ได้ทำเรื่องเข้าไปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณา ปัจจุบันยอดการรับชมช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 36-37%ของจำนวนประชากรในประเทศไทย จากเดิมอยู่ที่ 20% (ณ เดือน มิ.ย. 2558) ทำให้ผู้ประกอบการช่องทีวีดิจิทัลขึ้นค่าโฆษณา 10-20%
ส่วนการจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการกล่องทีวีดิจิทัลจ่ายไปแล้ว 3,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของยอดคูปองที่มาใช้สิทธิ์
_______________________________________
1ปีแลกคูปอง"ทีวีดิจิทัล"พลาดเป้า"เซตท็อปบ็อกซ์"ขายไม่ออก-เร่งพี.อาร์.โค้งสุดท้าย
"พลาดเป้า"เซตท็อปบ็อกซ์"ขายไม่ออก-เร่งพี.อาร์.โค้งสุดท้าย1 ปี แจกคูปอง "ทีวีดิจิทัล" พลาดเป้า ทั้งยอดขายเซตท็อปบ็อกซ์ และยอดนำคูปองมาแลกใช้ได้แค่ 60% ผู้ประกอบการปรับแผนธุรกิจหารายได้เสริมทางอื่น "สามารถฯ" โหมตลาดเสาอากาศโทรทัศน์-รับงานผลิตค่ายมือถือปั๊มรายได้ทดแทน ฟาก "แฟมิลี่" เบนเข็มลุยตลาดเครื่องรับโทรทัศน์ ชูนวัตกรรมใหม่ 4K แต่ราคาถูกกว่าอินเตอร์แบรนด์ครึ่งต่อครึ่ง ขณะที่ "กสทช." เร่งเครื่องประชาสัมพันธ์กระตุ้นโค้งสุดท้ายก่อนคูปองหมดอายุ
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า วันที่ 10 ต.ค. 2558 จะครบรอบ 1 ปี โครงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์จากระบบแอนะล็อกไปยังดิจิทัล โดยการแจกคูปองส่วนลดมูลค่า 690 บาท โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทั้งหมด 13.57 ล้านใบ แบ่งเป็น 7 ลอต ซึ่งคูปองแต่ละลอตจะมีอายุการใช้งาน 6 เดือน ปัจจุบันแจกครบทั้งหมดแล้ว และจากข้อมูลในเว็บไซต์ของ กสทช.ระบุว่า จนถึงวันที่ 5 ต.ค. 2558 มีการนำคูปองไปแลกซื้อแล้ว 8.1 ล้านใบ
ผู้ผลิตปรับแผน
นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมของโครงการแจกคูปองเพื่อแลกซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลไม่ดีนัก จากหลายปัจจัยตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ไม่ตรงจุด, เนื้อหารายการไม่ดึงดูด และผู้ให้บริการโครงข่าย (MUX) ขยายพื้นที่บริการไม่ได้ตามกำหนด จึงไม่สามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมารับชมทีวีดิจิทัลเท่าที่ควร ส่งผลกระทบถึงผู้ประกอบการเซตท็อปบ็อกซ์โดยถ้วนหน้ากัน
สำหรับบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 ล้านกล่อง แต่ทำได้เพียง 1.5 ล้านกล่อง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2557-ต.ค. 2558 มีสินค้าทำตลาด 5 รุ่น ราคาตั้งแต่ 690-1,390 บาท และไม่มีแผนทำรุ่นใหม่ออกมาอีก โดยจะหันไปเน้นรับงานจากโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือเพื่อหารายได้มาทดแทนการจำหน่ายกล่องทีวีดิจิทัลที่มีแนวโน้มหดตัวลงต่อเนื่องด้วยการขยายไลน์การผลิตเมทัลชีตที่ใช้ป้องกันเซลล์ส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือซึ่งมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากการขยายเครือข่ายของผู้ให้บริการหลังการประมูลคลื่น 4G รวมถึงหันมาเน้นทำตลาดเสาอากาสทีวีดิจิทัลมากขึ้น โดยมีสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ออกมามากขึ้น ราคาตั้งแต่ 100-700 บาท คาดว่ารายได้รวมจะทำได้เกือบ 2,000 ล้านบาท ตามเป้าที่ตั้งไว้ มาจากการจำหน่ายกล่องทีวีดิจิทัล 1,300 ล้านบาท (นำคูปองไปขึ้นเงินได้แล้ว 70%)
ด้านนายสมชาย เปรื่องวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 1 ในผู้ผลิตเซตท็อปบ็อกซ์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมตัวรุกเข้าสู่ตลาดโทรทัศน์เต็มตัว เน้นนวัตกรรมความละเอียด 4K ราคาต่ำกว่าอินเตอร์แบรนด์ครึ่งหนึ่ง เพื่อหารายได้มาชดเชยกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลที่ผลิตไว้มากกว่า 2 ล้านกล่อง แต่จำหน่ายไปได้ 1 ล้านกล่อง แม้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 10% ของจำนวนคูปองที่แจก แต่น้อยกว่าที่ประเมินไว้เดิม เพราะเดิมคาดการณ์ว่าจำนวนคูปองอยู่ที่ 22 ล้านฉบับเท่ากับจำนวนครัวเรือนในประเทศ
"เราผลิตเซตท็อปบ็อกซ์ทีวีดิจิทัลมากกว่า 2 ล้านกล่อง จึงมีสินค้าคงค้างจำนวนมากที่ต้องเร่งจำหน่ายออกไปให้เร็วที่สุด ก่อนหน้านี้มีการทำโปรโมชั่นเต็มที่ก็ไม่สามารถระบายสินค้าออกไปได้ เพราะสัญญาณที่ยังไม่ครอบคลุม ประกอบกับผู้บริโภคไม่กระตือรือร้นที่จะนำคูปองมาแลกซื้อ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงไม่ร่วมโครงการคูปองทีวีดิจิทัล เพราะคำนวณดูแล้วเหมือนได้ไม่คุ้มเสีย
นอกจากจำนวนคูปองที่แจกจะน้อยกว่าที่คาดไว้แต่แรกแล้ว การจ่ายเงินค่าคูปองช่วงแรกยังล่าช้ามาก ทำให้บางรายหมุนเงินไม่ทัน ยังดีที่ปัจจุบัน กสทช.เริ่มจ้างทีมงานมาตรวจสอบคูปอง ทำให้เร็วขึ้นจาก 3 เดือนเป็นเดือนเดียว"
ผู้บริโภคดูทีวีผ่านออนไลน์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จำนวนคูปองที่นำมาแลกซื้อควรมากกว่า 70% แต่ปัจจุบันทำได้เพียง 60% หรือ 8.1 ล้านใบ เพราะครัวเรือนต่าง ๆ สามารถรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางอี่น ๆ เช่น ระบบดาวเทียม หรือเคเบิลทีวีได้ อีกทั้งบางกลุ่มมีโทรทัศน์ที่สามารถรับชมระบบดิจิทัลได้อยู่แล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำคูปองไปแลกซื้ออีกทำให้จากนี้อัตราการแลกคูปองไม่คึกคักเหมือนช่วงเดือนแรก
อย่างไรก็ตามการสนับสนุนคูปองดิจิทัลให้กลุ่มผู้ที่มีบ้านแต่ไม่มีเจ้าบ้าน,บ้านเช่า,ผู้ยากไร้ และบ้านใหม่ที่เข้าอยู่หลังปี 2557 ขณะนี้ กสทช. ได้ทำเรื่องเข้าไปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณา ปัจจุบันยอดการรับชมช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 36-37%ของจำนวนประชากรในประเทศไทย จากเดิมอยู่ที่ 20% (ณ เดือน มิ.ย. 2558) ทำให้ผู้ประกอบการช่องทีวีดิจิทัลขึ้นค่าโฆษณา 10-20%
ส่วนการจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการกล่องทีวีดิจิทัลจ่ายไปแล้ว 3,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของยอดคูปองที่มาใช้สิทธิ์
"รู้สึกพึงพอใจในระดับหนึ่งกับการแจกคูปอง และมีผู้ที่มาแลกคูปองดิจิทัล แต่เข้าใจว่าด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มมีการใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้นในการรับชมโทรทัศน์ทำให้การรับชมผ่านจอโทรทัศน์โดยตรงอาจน้อยลงแต่ถึงอย่างไรกสทช.ก็จะเร่งผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิทัลให้ขยายออกไปเป็น80% ของประเทศไทย พร้อมกระตุ้นกรมประชาสัมพันธ์ที่เป็นเพียงรายเดียวที่ยังขยายโครงข่ายไม่เป็นไปตามเป้า"
"กสทช."ลุยแจกกล่องกระตุ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยกสทช.ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมDigital TV 4All,All 4 Digital TV เพื่อกระตุ้นและสร้างความตื่นตัวให้ประชาชนรับชมทีวีดิจิทัล เนื่องจากคูปองลอตสุดท้ายที่แจกไปในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาจะหมดอายุในเดือน ม.ค. 2559 โดยนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.กล่าวว่า หน้าที่หลักของ กสทช. ในขณะนี้ คือพยายามสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ นำคูปองทีวีดิจิทัลไปแลกใช้ก่อนที่จะหมดอายุ
โดยจะเริ่มจัดกิจกรรมตั้งแต่เดือน ต.ค.ไปจนถึงสิ้นปี เน้นรณรงค์ให้เห็นถึงข้อดีของทีวีดิจิทัลที่รับชมได้ทุกที่ ทุกเวลามีสัญญาณคมชัด เน้นไปยังกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า หรืออาชีพอื่น ๆ ที่ยังรับชมทีวีระบบแอนะล็อกเดิมให้เปลี่ยนมาเป็นดิจิทัล เช่น เข้าไปแนะนำการติดตั้งอุปกรณ์อย่างถูกต้อง เป็นต้น
"หลังประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในเมืองแล้ว กสทช.จะขยายไปยังต่างจังหวัด และกลุ่มประมงต่าง ๆ เพื่อให้เห็นว่าสามารถรับชมได้ทุกที่ ปัญหาปัจจุบันเริ่มไม่เกี่ยวข้องกับความครอบคลุมของสัญญาณแต่เป็นปัญหาเชิงเทคนิคที่ต้องทำความเข้าใจกัน
ซึ่งกสทช.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งทหารสถาบันการศึกษา ต่างๆ เพื่อให้ความรู้ในการติดตั้งการรับชมทีวีดิจิทัล โดยเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ เราจะนำกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลไปติดตั้งให้พ่อค้า แม่ค้า ในตลาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพียงแค่ส่งภาพถ่ายโทรทัศน์เครื่องเดิมที่ดูเป็นประจำ พร้อมระบุสถานที่ตั้ง และเบอร์ติดต่อมายังเฟซบุ๊ก กสทช.digitaltv.nbtc"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1444279127
ผู้บริโภคดูทีวีผ่านออนไลน์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จำนวนคูปองที่นำมาแลกซื้อควรมากกว่า 70% แต่ปัจจุบันทำได้เพียง 60% หรือ 8.1 ล้านใบ เพราะครัวเรือนต่าง ๆ สามารถรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางอี่น ๆ เช่น ระบบดาวเทียม หรือเคเบิลทีวีได้ อีกทั้งบางกลุ่มมีโทรทัศน์ที่สามารถรับชมระบบดิจิทัลได้อยู่แล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำคูปองไปแลกซื้ออีกทำให้จากนี้อัตราการแลกคูปองไม่คึกคักเหมือนช่วงเดือนแรก
อย่างไรก็ตามการสนับสนุนคูปองดิจิทัลให้กลุ่มผู้ที่มีบ้านแต่ไม่มีเจ้าบ้าน,บ้านเช่า,ผู้ยากไร้ และบ้านใหม่ที่เข้าอยู่หลังปี 2557 ขณะนี้ กสทช. ได้ทำเรื่องเข้าไปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณา ปัจจุบันยอดการรับชมช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 36-37%ของจำนวนประชากรในประเทศไทย จากเดิมอยู่ที่ 20% (ณ เดือน มิ.ย. 2558) ทำให้ผู้ประกอบการช่องทีวีดิจิทัลขึ้นค่าโฆษณา 10-20%
ส่วนการจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการกล่องทีวีดิจิทัลจ่ายไปแล้ว 3,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของยอดคูปองที่มาใช้สิทธิ์
_______________________________________
1ปีแลกคูปอง"ทีวีดิจิทัล"พลาดเป้า"เซตท็อปบ็อกซ์"ขายไม่ออก-เร่งพี.อาร์.โค้งสุดท้าย
"พลาดเป้า"เซตท็อปบ็อกซ์"ขายไม่ออก-เร่งพี.อาร์.โค้งสุดท้าย1 ปี แจกคูปอง "ทีวีดิจิทัล" พลาดเป้า ทั้งยอดขายเซตท็อปบ็อกซ์ และยอดนำคูปองมาแลกใช้ได้แค่ 60% ผู้ประกอบการปรับแผนธุรกิจหารายได้เสริมทางอื่น "สามารถฯ" โหมตลาดเสาอากาศโทรทัศน์-รับงานผลิตค่ายมือถือปั๊มรายได้ทดแทน ฟาก "แฟมิลี่" เบนเข็มลุยตลาดเครื่องรับโทรทัศน์ ชูนวัตกรรมใหม่ 4K แต่ราคาถูกกว่าอินเตอร์แบรนด์ครึ่งต่อครึ่ง ขณะที่ "กสทช." เร่งเครื่องประชาสัมพันธ์กระตุ้นโค้งสุดท้ายก่อนคูปองหมดอายุ
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า วันที่ 10 ต.ค. 2558 จะครบรอบ 1 ปี โครงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์จากระบบแอนะล็อกไปยังดิจิทัล โดยการแจกคูปองส่วนลดมูลค่า 690 บาท โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทั้งหมด 13.57 ล้านใบ แบ่งเป็น 7 ลอต ซึ่งคูปองแต่ละลอตจะมีอายุการใช้งาน 6 เดือน ปัจจุบันแจกครบทั้งหมดแล้ว และจากข้อมูลในเว็บไซต์ของ กสทช.ระบุว่า จนถึงวันที่ 5 ต.ค. 2558 มีการนำคูปองไปแลกซื้อแล้ว 8.1 ล้านใบ
ผู้ผลิตปรับแผน
นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมของโครงการแจกคูปองเพื่อแลกซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลไม่ดีนัก จากหลายปัจจัยตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ไม่ตรงจุด, เนื้อหารายการไม่ดึงดูด และผู้ให้บริการโครงข่าย (MUX) ขยายพื้นที่บริการไม่ได้ตามกำหนด จึงไม่สามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมารับชมทีวีดิจิทัลเท่าที่ควร ส่งผลกระทบถึงผู้ประกอบการเซตท็อปบ็อกซ์โดยถ้วนหน้ากัน
สำหรับบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 ล้านกล่อง แต่ทำได้เพียง 1.5 ล้านกล่อง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2557-ต.ค. 2558 มีสินค้าทำตลาด 5 รุ่น ราคาตั้งแต่ 690-1,390 บาท และไม่มีแผนทำรุ่นใหม่ออกมาอีก โดยจะหันไปเน้นรับงานจากโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือเพื่อหารายได้มาทดแทนการจำหน่ายกล่องทีวีดิจิทัลที่มีแนวโน้มหดตัวลงต่อเนื่องด้วยการขยายไลน์การผลิตเมทัลชีตที่ใช้ป้องกันเซลล์ส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือซึ่งมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากการขยายเครือข่ายของผู้ให้บริการหลังการประมูลคลื่น 4G รวมถึงหันมาเน้นทำตลาดเสาอากาสทีวีดิจิทัลมากขึ้น โดยมีสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ออกมามากขึ้น ราคาตั้งแต่ 100-700 บาท คาดว่ารายได้รวมจะทำได้เกือบ 2,000 ล้านบาท ตามเป้าที่ตั้งไว้ มาจากการจำหน่ายกล่องทีวีดิจิทัล 1,300 ล้านบาท (นำคูปองไปขึ้นเงินได้แล้ว 70%)
ด้านนายสมชาย เปรื่องวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 1 ในผู้ผลิตเซตท็อปบ็อกซ์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมตัวรุกเข้าสู่ตลาดโทรทัศน์เต็มตัว เน้นนวัตกรรมความละเอียด 4K ราคาต่ำกว่าอินเตอร์แบรนด์ครึ่งหนึ่ง เพื่อหารายได้มาชดเชยกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลที่ผลิตไว้มากกว่า 2 ล้านกล่อง แต่จำหน่ายไปได้ 1 ล้านกล่อง แม้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 10% ของจำนวนคูปองที่แจก แต่น้อยกว่าที่ประเมินไว้เดิม เพราะเดิมคาดการณ์ว่าจำนวนคูปองอยู่ที่ 22 ล้านฉบับเท่ากับจำนวนครัวเรือนในประเทศ
"เราผลิตเซตท็อปบ็อกซ์ทีวีดิจิทัลมากกว่า 2 ล้านกล่อง จึงมีสินค้าคงค้างจำนวนมากที่ต้องเร่งจำหน่ายออกไปให้เร็วที่สุด ก่อนหน้านี้มีการทำโปรโมชั่นเต็มที่ก็ไม่สามารถระบายสินค้าออกไปได้ เพราะสัญญาณที่ยังไม่ครอบคลุม ประกอบกับผู้บริโภคไม่กระตือรือร้นที่จะนำคูปองมาแลกซื้อ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงไม่ร่วมโครงการคูปองทีวีดิจิทัล เพราะคำนวณดูแล้วเหมือนได้ไม่คุ้มเสีย
นอกจากจำนวนคูปองที่แจกจะน้อยกว่าที่คาดไว้แต่แรกแล้ว การจ่ายเงินค่าคูปองช่วงแรกยังล่าช้ามาก ทำให้บางรายหมุนเงินไม่ทัน ยังดีที่ปัจจุบัน กสทช.เริ่มจ้างทีมงานมาตรวจสอบคูปอง ทำให้เร็วขึ้นจาก 3 เดือนเป็นเดือนเดียว"
ผู้บริโภคดูทีวีผ่านออนไลน์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จำนวนคูปองที่นำมาแลกซื้อควรมากกว่า 70% แต่ปัจจุบันทำได้เพียง 60% หรือ 8.1 ล้านใบ เพราะครัวเรือนต่าง ๆ สามารถรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางอี่น ๆ เช่น ระบบดาวเทียม หรือเคเบิลทีวีได้ อีกทั้งบางกลุ่มมีโทรทัศน์ที่สามารถรับชมระบบดิจิทัลได้อยู่แล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำคูปองไปแลกซื้ออีกทำให้จากนี้อัตราการแลกคูปองไม่คึกคักเหมือนช่วงเดือนแรก
อย่างไรก็ตามการสนับสนุนคูปองดิจิทัลให้กลุ่มผู้ที่มีบ้านแต่ไม่มีเจ้าบ้าน,บ้านเช่า,ผู้ยากไร้ และบ้านใหม่ที่เข้าอยู่หลังปี 2557 ขณะนี้ กสทช. ได้ทำเรื่องเข้าไปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณา ปัจจุบันยอดการรับชมช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 36-37%ของจำนวนประชากรในประเทศไทย จากเดิมอยู่ที่ 20% (ณ เดือน มิ.ย. 2558) ทำให้ผู้ประกอบการช่องทีวีดิจิทัลขึ้นค่าโฆษณา 10-20%
ส่วนการจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการกล่องทีวีดิจิทัลจ่ายไปแล้ว 3,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของยอดคูปองที่มาใช้สิทธิ์
"รู้สึกพึงพอใจในระดับหนึ่งกับการแจกคูปอง และมีผู้ที่มาแลกคูปองดิจิทัล แต่เข้าใจว่าด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มมีการใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้นในการรับชมโทรทัศน์ทำให้การรับชมผ่านจอโทรทัศน์โดยตรงอาจน้อยลงแต่ถึงอย่างไรกสทช.ก็จะเร่งผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิทัลให้ขยายออกไปเป็น80% ของประเทศไทย พร้อมกระตุ้นกรมประชาสัมพันธ์ที่เป็นเพียงรายเดียวที่ยังขยายโครงข่ายไม่เป็นไปตามเป้า"
"กสทช."ลุยแจกกล่องกระตุ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยกสทช.ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมDigital TV 4All,All 4 Digital TV เพื่อกระตุ้นและสร้างความตื่นตัวให้ประชาชนรับชมทีวีดิจิทัล เนื่องจากคูปองลอตสุดท้ายที่แจกไปในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาจะหมดอายุในเดือน ม.ค. 2559 โดยนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.กล่าวว่า หน้าที่หลักของ กสทช. ในขณะนี้ คือพยายามสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ นำคูปองทีวีดิจิทัลไปแลกใช้ก่อนที่จะหมดอายุ
โดยจะเริ่มจัดกิจกรรมตั้งแต่เดือน ต.ค.ไปจนถึงสิ้นปี เน้นรณรงค์ให้เห็นถึงข้อดีของทีวีดิจิทัลที่รับชมได้ทุกที่ ทุกเวลามีสัญญาณคมชัด เน้นไปยังกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า หรืออาชีพอื่น ๆ ที่ยังรับชมทีวีระบบแอนะล็อกเดิมให้เปลี่ยนมาเป็นดิจิทัล เช่น เข้าไปแนะนำการติดตั้งอุปกรณ์อย่างถูกต้อง เป็นต้น
"หลังประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในเมืองแล้ว กสทช.จะขยายไปยังต่างจังหวัด และกลุ่มประมงต่าง ๆ เพื่อให้เห็นว่าสามารถรับชมได้ทุกที่ ปัญหาปัจจุบันเริ่มไม่เกี่ยวข้องกับความครอบคลุมของสัญญาณแต่เป็นปัญหาเชิงเทคนิคที่ต้องทำความเข้าใจกัน
ซึ่งกสทช.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งทหารสถาบันการศึกษา ต่างๆ เพื่อให้ความรู้ในการติดตั้งการรับชมทีวีดิจิทัล โดยเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ เราจะนำกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลไปติดตั้งให้พ่อค้า แม่ค้า ในตลาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพียงแค่ส่งภาพถ่ายโทรทัศน์เครื่องเดิมที่ดูเป็นประจำ พร้อมระบุสถานที่ตั้ง และเบอร์ติดต่อมายังเฟซบุ๊ก กสทช.digitaltv.nbtc"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1444279127
ไม่มีความคิดเห็น: