Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 ตุลาคม 2558 ICT ระบุ รัฐบาลไม่ได้ต้องการรวมเกตเวย์เหลืออันเดียวอย่างที่เข้าใจ และไม่ง่ายที่จะทำ แต่กระทรวงกำลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่ารัฐบาลจะเข้าไปล้วงข้อมูลได้

ประเด็นหลัก





     
       น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากมีผู้เข้ามาใช้งานมากเกินไป แต่ขณะนี้สามารถทำให้เว็บกลับมาเป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ ขอให้กลุ่มที่คัดค้านเรื่องที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับ single gateway หันหน้ามาทำความเข้าใจร่วมกัน อย่าเพิ่งคิดไปไกล เพราะสิ่งที่เข้าใจมันคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความจริง
     
       “รัฐบาลไม่ได้ต้องการรวมเกตเวย์เหลืออันเดียวอย่างที่เข้าใจ และไม่ง่ายที่จะทำ แต่กระทรวงกำลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่ารัฐบาลจะเข้าไปล้วงข้อมูลได้”
     
       ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีไอซีที นายอุตตม สาวนายน ก็ได้บอกถึงที่มาของโครงการนี้แล้วว่า มาจากการต้องการลดต้นทุนสำหรับการสร้างเกตเวย์ เพื่อให้เอกชนที่มีแผนจะขยายเกตเวย์ไม่ต้องลงทุนใหม่ แต่ให้หันมาเช่าใช้เกตเวย์ของ ทีโอที แคท และไม่ได้บังคับเอกชนแต่อย่างใด











_____________________________________________



อัปเดต : หลายเว็บหน่วยงานราชการ รวมถึงไอซีที และ กสท โดนโจมตีจากกลุ่มผู้ต้าน Single Gateway



เมื่อช่วงเวลา 18.30 น. เว็บไซต์กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) www.mict.go.th ไม่สามารถเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ทั้งหมดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะโดนโจมตีจากกลุ่มผู้ต่อต้าน Single Gateway ซึ่งนัดรวมตัวโจมตีเว็บไซต์ดังกล่าวในเวลา 22.00 น. เพื่อเป็นการแสดงพลังของประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยต่อนโยบาย Single Gateway ซึ่งประชาชน และคนไอทีหลายฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอ และการรับรู้ของประชาชน
     
       สำหรับแนวทางการโจมตีของกลุ่มต่อต้านจะเลือกใช้วิธียิง DDos ด้วยเหตุผล คือ สามารถยิงจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ปกติได้ จากนั้นเมื่อถึงเวลาโจมตี แกนนำจะให้คนในกลุ่มช่วยกันยิง ช่วยกันสร้างเครื่องซอมบี้จำนวนมาก (ในที่นี้หมายถึงให้ช่วยใช้โปรแกรมที่ทำสคริปต์ไว้ยิง IP เว็บ mict.go.th พร้อมกันเพื่อให้เกิดจำนวนทราฟฟิกหลายร้อย Gbps ส่วนอีกวิธีหนึ่ง คือ ให้ช่วยกันเข้าเว็บไซต์ดังกล่าวจากนั้นกด F5 ต่อเนื่องพร้อมกัน) จนทำให้เซิร์ฟเวอร์ของกระทรวงไอซีทีโอเวอร์โหลด ทำงานเต็ม 100% ตลอดเวลา จนในที่สุดเกิดอาการทราฟฟิกเต็ม และเว็บไม่สามารถเข้าใช้งานได้
     
       โดยในเวลา 20.46 น. เว็บไอซีทียังคงไม่สามารถเข้าถึงหน้าเว็บไซต์หลักได้ทั้งหมด และแกนนำกลุ่มผู้ต้าน Single Gateway ต่างทวิตข้อความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
     
       อัปเดตล่าสุด
     
       เมื่อช่วงเวลา 21.00 น. เว็บไซต์ CAT Telecom (http://www.cattelecom.com) หรือ กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายต่อไปของกลุ่มผู้ต่อต้าน Single Gateway ได้ถูกโจมตีเช่นเดียวกับเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีที จนไม่สามารถเข้าสู่หน้าเว็บไซต์หลักได้แล้วในตอนนี้
     
       ด้านกลุ่มผู้ต่อต้าน Single Gateway อีกหนึ่งกลุ่มในนาม ANTI SOTUS ได้ระบุข้อความว่า
     
       “ตอนนี้ทั้งโฮมเพจของกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ รวมทั้งบริษัท กสท โทรคมนาคม พวกเว็บไซต์พวกนี้เป็นเว็บไซต์ที่เราเลือกจะโจมตีในเชิงสัญลักษณ์ แต่พวกเราจะยังไม่ยอมหยุด รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คนที่ก่อเรื่องทั้งหมดให้เกิดขึ้นมา คนที่พยายามละเมิดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนองค์กรที่มีชื่อว่า “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” หรือชื่อย่อ “กอ.รมน.” การโจมตีจะเริ่มขึ้นในเวลา 21.30 น.”
     
       อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาทั้งเว็บไซต์ กอ.รมน. รวมถึงเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล เว็บไซต์ทีโอที รวมถึงกระทรวงกลาโหม และเว็บไซต์หน่วยงานราชการอีกหลายแห่งก็โดนโจมตีในลักษณะคล้ายๆ กันจนไม่สามารถเปิดหน้าเว็บได้เช่นเดียวกัน
     
       น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากมีผู้เข้ามาใช้งานมากเกินไป แต่ขณะนี้สามารถทำให้เว็บกลับมาเป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ ขอให้กลุ่มที่คัดค้านเรื่องที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับ single gateway หันหน้ามาทำความเข้าใจร่วมกัน อย่าเพิ่งคิดไปไกล เพราะสิ่งที่เข้าใจมันคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความจริง
     
       “รัฐบาลไม่ได้ต้องการรวมเกตเวย์เหลืออันเดียวอย่างที่เข้าใจ และไม่ง่ายที่จะทำ แต่กระทรวงกำลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่ารัฐบาลจะเข้าไปล้วงข้อมูลได้”
     
       ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีไอซีที นายอุตตม สาวนายน ก็ได้บอกถึงที่มาของโครงการนี้แล้วว่า มาจากการต้องการลดต้นทุนสำหรับการสร้างเกตเวย์ เพื่อให้เอกชนที่มีแผนจะขยายเกตเวย์ไม่ต้องลงทุนใหม่ แต่ให้หันมาเช่าใช้เกตเวย์ของ ทีโอที แคท และไม่ได้บังคับเอกชนแต่อย่างใด
     
       ล่าสุด ในช่วงเวลา 23.00 น. เว็บไซต์ที่โดนโจมตีเริ่มกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว


http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000110196&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+1-10-58&utm_campaign=20150930_m127598287_Manager+Morning+Brief+1-10-58&utm_term=_E0_B8_AB_E0_B8_A5_E0_B8_B2_E0_B8_A2_E0_B9_80_E0_B8_A7_E0_B9_87_E0_B8_9A_E0_B8_AB_E0_B8_99_E0_B9_88_E0_B8_A7_E0_B8_A2_E0_B8_87_E0_B8_B2_E0_B8_99_E0_B8_A3_E0_B8_B2_E0_B8_8A_E0_B8_81_E0_B8_B2_E0_B8_A3+_E0_B8_A3_E0_B8_A7_E0_B8_A1_E0_B8_96_E0_B8_B6_E0_B8_87_E

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.