Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 สิงหาคม 2558 D-Link คาดว่าในปีนี้ตลาดไวร์เลสเราเตอร์จะสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 1 ล้านเครื่อง ซึ่งบริษัทคาดหวังส่วนแบ่งทางการตลาดจากสินค้ากลุ่มดังกล่าวราว 20-22% หรือคิดเป็นยอดขาย 200,000-220,000 บาท โดยขณะนี้บริษัทมียอดขายแล้วราว 130,000 เครื่อง

ประเด็นหลัก

นายแซม หว่อง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ดีลิงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล พีทีอี จำกัด เปิดเผยว่า จากความต้องการใช้งานบรอดแบนด์ (อินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง) ในปัจจุบัน ซึ่งเพิ่มขึ้นตามการใช้งานสมาร์ทโฟน ที่ผู้ใช้นิยมใช้งานโซเชียลมีเดีย ช็อปปิ้งออนไลน์ และเล่นเกมออนไลน์ เป็นต้น กลายเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดไวร์เลสเราเตอร์ให้เติบโตตามไปด้วย เนื่องจากต้องการอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่ๆ อีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้ตลาดไวร์เลสเราเตอร์จะสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 1 ล้านเครื่อง ซึ่งบริษัทคาดหวังส่วนแบ่งทางการตลาดจากสินค้ากลุ่มดังกล่าวราว 20-22% หรือคิดเป็นยอดขาย 200,000-220,000 บาท โดยขณะนี้บริษัทมียอดขายแล้วราว 130,000 เครื่อง จากโครงการความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) รายต่างๆ



_____________________________________________________













คนฮิตใช้เน็ต หนุนตลาด 'เราเตอร์' เติบโต เปลี่ยนรับเทคโนโลยีใหม่




ดีลิงค์ (D-Link) เผยตลาดเราเตอร์ขยับจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค สมาร์ทโฟนช่วยผลักดันการใช้อินเทอร์เน็ต ทำตลาดคึกคักทั้งผู้ให้บริการและลูกค้าเปลี่ยนเอง เร่งปรับกลยุทธ์เสริมยอดขาย…

นายแซม หว่อง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ดีลิงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล พีทีอี จำกัด เปิดเผยว่า จากความต้องการใช้งานบรอดแบนด์ (อินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง) ในปัจจุบัน ซึ่งเพิ่มขึ้นตามการใช้งานสมาร์ทโฟน ที่ผู้ใช้นิยมใช้งานโซเชียลมีเดีย ช็อปปิ้งออนไลน์ และเล่นเกมออนไลน์ เป็นต้น กลายเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดไวร์เลสเราเตอร์ให้เติบโตตามไปด้วย เนื่องจากต้องการอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่ๆ อีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้ตลาดไวร์เลสเราเตอร์จะสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 1 ล้านเครื่อง ซึ่งบริษัทคาดหวังส่วนแบ่งทางการตลาดจากสินค้ากลุ่มดังกล่าวราว 20-22% หรือคิดเป็นยอดขาย 200,000-220,000 บาท โดยขณะนี้บริษัทมียอดขายแล้วราว 130,000 เครื่อง จากโครงการความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) รายต่างๆ

ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ดีลิงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล พีทีอี กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน บริษัทถือเป็นผู้นำอันดับ 2 ของตลาดไวร์เลสเราเตอร์ ซึ่งเชื่อว่าภายในปี 2560 บริษัทจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำในอันดับ 1 ของตลาดดังกล่าวได้ จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของตลาดและลูกค้า รวมถึงการใช้กลยุทธ์การทำตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ การให้ความรู้แก่หน้าร้านและพนักงานขายอย่างทั่วถึง เพื่อให้สามารถนำเสนอจุดขายอย่างแท้จริงแก่ลูกค้า, การทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย, การโฆษณา ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมถึงการจัดกิจกรรมและโรดโชว์ไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทพยายามขยายพื้นที่การทำตลาดจากกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มบรอดแบนด์ของบริษัทแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ แอ็คเซ็สพอยท์, พาวเวอร์ไลน์, เอ็กซ์เทนเดอร์, ไฮพาวเวอร์ เราเตอร์ ซึ่งขณะนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทยอยทำตลาดในประเทศไทยได้ภายในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ในเราเตอร์พร้อมด้วยอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ คลาวด์ เราเตอร์ รุ่น AC3200 ซึ่งสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 3.2Gbps มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ใช้ในการบริหารจัดการคลาวด์ เพื่อช่วยให้ระบบอินเทอร์เน็ตภายในบ้านสามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น หรือผลิตภัณฑ์ รุ่น AC1900 ซึ่งถือเป็นอแดปเตอร์รุ่นแรกของดีลิงค์ที่มาพร้อมกับ USB3.0 เพื่อรองรับการใช้งานข้อมูลพร้อมกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายในบ้าน.

http://www.thairath.co.th/content/519426

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.