Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 สิงหาคม 2558 พรเลิศ เตชะรัตโนภาส ระบุ พฤติกรรมการเทรดหุ้นออนไลน์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีการเทรดดิ้งรวม 8,295,015.44 ล้านบาท แบ่งเป็นออนไลน์เทรดดิ้ง (Online Trading) 45.22% และเทรดหุ้นแบบปกติ 54.78% ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 มีมูลค่าการเทรดหุ้นออนไลน์รวมทั้งสิ้น 4,291,906.11 ล้านบาท

ประเด็นหลัก


นายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออนไลน์ แอสเซ็ท จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มพฤติกรรมการเทรดหุ้นออนไลน์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีการเทรดดิ้งรวม 8,295,015.44 ล้านบาท แบ่งเป็นออนไลน์เทรดดิ้ง (Online Trading) 45.22% และเทรดหุ้นแบบปกติ 54.78% ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 มีมูลค่าการเทรดหุ้นออนไลน์รวมทั้งสิ้น 4,291,906.11 ล้านบาท จากพฤติกรรมการใช้งานและความต้องการรับข้อมูลข่าวสารให้รอบด้านส่งผลให้นักลงทุนมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากต้องติดตามข่าวสารและอัพเดตการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา


_____________________________________________________













ทุ่ม 10 ล้านบาท พลิกโฉมระบบเทรดหุ้น! ส่ง 'Auto Trade' เอาใจนักลงทุน



"efin" (อีฟิน) ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท ส่งฟังก์ชัน Auto Trade (ออโต้ เทรด) ช่วยพลิกโฉมระบบเทรดหุ้นครบวงจร เสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ไม่พลาดทุกจังหวะและการลงทุน...

นายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออนไลน์ แอสเซ็ท จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มพฤติกรรมการเทรดหุ้นออนไลน์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีการเทรดดิ้งรวม 8,295,015.44 ล้านบาท แบ่งเป็นออนไลน์เทรดดิ้ง (Online Trading) 45.22% และเทรดหุ้นแบบปกติ 54.78% ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 มีมูลค่าการเทรดหุ้นออนไลน์รวมทั้งสิ้น 4,291,906.11 ล้านบาท จากพฤติกรรมการใช้งานและความต้องการรับข้อมูลข่าวสารให้รอบด้านส่งผลให้นักลงทุนมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากต้องติดตามข่าวสารและอัพเดตการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา

ล่าสุด efin ผู้ให้บริการระบบซอฟต์แวร์และข้อมูลข่าวสารด้านการลงทุนแบบออนไลน์ และผู้บริหารเว็บไซต์ www.efinancethai.com ที่มีนักลงทุนเข้าใช้แอพพลิเคชั่นการลงทุนมากที่สุดของประเทศไทย ได้เปิดตัวฟังก์ชัน Auto Trade หรือระบบส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่นักลงทุนสามารถกำหนดได้เองล่วงหน้า ซึ่งเป็นฟังก์ชันส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่นซื้อขายหลักทรัพย์ efin Trade Plus (อีฟิน เทรด พลัส) นอกจากนี้ยังรองรับนโยบายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืนและขยายโอกาสการลงทุนให้หลากหลายด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

สำหรับการพัฒนาฟังก์ชัน Auto Trade ปัจจุบันจัดได้ว่าทางบริษัทฯ เป็นรายแรกในประเทศไทยที่เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาระบบที่มีฟังก์ชันการใช้งานแบบครบวงจร โดยใช้งบในการพัฒนาในครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท ภายใต้ฝีมือนักพัฒนาระบบชาวไทยกว่า 40 คน และใช้ระยะเวลาในการพัฒนาระบบดังกล่าวกว่า 2 ปี ทั้งนี้ได้ทำการศึกษาและเก็บข้อมูลจากพฤติกรรมของนักลงทุนไทยเพื่อใช้ในการพัฒนาระบบนี้ให้มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด สามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้อย่างแท้จริง



ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนก็ได้...

นายพรเลิศ กล่าว ส่วนฟังก์ชันการใช้งาน Auto Trade ระบบจะสามารถรองรับการตั้งเงื่อนไขในการส่งคำสั่งซื้อขายแบบอัตโนมัติ ประกอบด้วยฟังก์ชันเด่น อาทิ Simple Auto Trade (การตั้งเงื่อนไขแบบง่าย) , Take Profit/Trailing Stop Loss/Cut loss (ใช้สำหรับการตั้งขายได้เท่านั้น) , Money management (การบริหารเงินในการลงทุน) , DCA: Dollar Cost Average (การกำหนดการลงทุนแบบเป็นงวดๆ) และ PZ: Pricing zone (ใช้ทยอยซื้อหุ้นเมื่อราคาย่อตัว) อีกทั้งยังมี Batch Order ฟังก์ชันส่งคำสั่งเป็นชุด ชุดละ 50 คำสั่ง (แบบ Basket Order) และ Notification on Mobile ระบบ ส่งข้อความ/Alert ผ่านมือถือ ทั้งระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์และรองรับการใช้งานด้วยไอโฟนและไอแพด

นายวชิรเมษฐ์ ธเนศสถิตพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ออนไลน์ แอสเซ็ท จำกัด กล่าวว่า บริษัทกำหนดกลุ่มเป้าหมายของ Auto Trade โดยเน้นที่กลุ่มนักลงทุนหรือคนวัยทำงานที่มีความชำนาญในการเล่นหุ้นอยู่แล้ว แต่ต้องการความสะดวกสบายจากฟังก์ชันการใช้งานพิเศษต่างๆ ที่ช่วยให้สามารถซื้อขายได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเฝ้าหน้าจอ ตลอดจนจับกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการโปรแกรมซื้อ-ขายแบบอัตโนมัติ ซึ่งมีฟังก์ชันการใช้งานพิเศษตอบสนองได้ตามเงื่อนไขที่นักลงทุนกำหนดเองได้เป็นอย่างดี ส่วนแผนการทำตลาด Auto Trade บริษัทจะเน้นการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดอบรมฟรีผ่านช่องทาง Youtube , การจัดสัมมนาในกรุงเทพฯ รวมถึงการจัดโรดโชว์ใน 8 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2558 ว่าแอพพลิเคชั่น efin Trade Plus จะสามารถใช้งานได้เพิ่ม 15 บริษัทหลักทรัพย์จากปัจจุบันอยู่ที่ 12 บริษัทหลักทรัพย์ และฟังก์ชัน Auto Trade จะสามารถใช้งานได้ถึง 5 บริษัทหลักทรัพย์ ภายในสิ้นปี 2558 ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โดยในเดือนมิถุนายน 2558 พบว่ามียอดการใช้งาน Auto Trade จากลูกค้า 1 บริษัทหลักทรัพย์ มีมูลค่าการเทรดสูงถึง 27.76 ล้านบาท และยังมั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าบริษัทหลักทรัพย์ที่ใช้งานแอพ efin Trade Plus เพิ่มขึ้นเป็น 15 ราย จากเดิม 10 ราย และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 20 ราย ในปี 2559



ฟังก์ชั่น Auto Trade พร้อมให้ใช้งาน

นายวชิรเมษฐ์ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลในเดือนมิถุนายน 2558 แอพพลิเคชั่น efin Trade Plus มีจำนวน 12 หลักทรัพย์ และมีผู้เข้าใช้งานทั้งสิ้น 71,623 ราย มูลค่าการซื้อขาย 52,660.25 ล้านบาท แยกเป็นจำนวนผู้เข้าใช้งานจากคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป 10,342 ราย สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มีผู้เข้าใช้งาน 26,306 ราย แอนดรอย์แท็บเล็ตมีจำนวนผู้เข้าใช้งาน 7,528 ราย ไอโฟนมีจำนวนผู้เข้าใช้งาน 16,304 ราย และไอแพดมีจำนวนผู้เข้าใช้งาน 11,143 ราย

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่บริษัท ออนไลน์ แอสเซ็ท ได้พัฒนาระบบ Auto Trade สำหรับซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์เพื่อให้ผู้ลงทุนไทยมีเครื่องมือการลงทุนดิจิตอลที่หลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์การลงทุนในยุคดิจิตอลอย่างแท้จริง โดยปีที่ผ่านมาสัดส่วนผู้ลงทุนออนไลน์และการซื้อขายออนไลน์เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ เชื่อว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนได้นำไปช่วยในการตัดสินใจลงทุนให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และฟังก์ชัน DCA ในระบบ Auto Trade ซึ่งสนับสนุนการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างวินัยการลงทุนที่ดีและส่งเสริมพฤติกรรมการลงทุนระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุนไทย.


http://www.thairath.co.th/content/518913

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.