Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

01 สิงหาคม 2558 SoftBank เชื่อ อีก 25 ปีหรือปี 2040 ชาวโลกจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หรือ internet-connected device เฉลี่ย 1,000 ชิ้นต่อคน เช่น นาฬิกาไฮเทค เครื่องซักผ้าออนไลน์ รวมถึงรถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง

ประเด็นหลัก





        ซีอีโอซอฟต์แบงก์ (SoftBank) โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่นแสดงวิสัยทัศน์ในงานประชุมใหญ่ของบริษัท ว่าอีก 25 ปีหรือปี 2040 ชาวโลกจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หรือ internet-connected device เฉลี่ย 1,000 ชิ้นต่อคน เช่น นาฬิกาไฮเทค เครื่องซักผ้าออนไลน์ รวมถึงรถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
     
       มาซาโยชิ ซัน (Masayoshi Son) ซีอีโอซอฟต์แบงก์แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับกระแส internet-of-things หรือ IoT นี้ในงานซอฟต์แบงก์ เวิร์ล (SoftBank World) โดยระบุว่าจะไม่มีสิ่งของหรืออุปกรณ์ใดในอนาคตที่ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้











____________________________



อีก 25 ปี เราจะครอบครอง “อุปกรณ์ต่อเน็ตได้” เฉลี่ย 1,000 ชิ้นต่อคน



        ซีอีโอซอฟต์แบงก์ (SoftBank) โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่นแสดงวิสัยทัศน์ในงานประชุมใหญ่ของบริษัท ว่าอีก 25 ปีหรือปี 2040 ชาวโลกจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หรือ internet-connected device เฉลี่ย 1,000 ชิ้นต่อคน เช่น นาฬิกาไฮเทค เครื่องซักผ้าออนไลน์ รวมถึงรถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
     
       มาซาโยชิ ซัน (Masayoshi Son) ซีอีโอซอฟต์แบงก์แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับกระแส internet-of-things หรือ IoT นี้ในงานซอฟต์แบงก์ เวิร์ล (SoftBank World) โดยระบุว่าจะไม่มีสิ่งของหรืออุปกรณ์ใดในอนาคตที่ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

อีก 25 ปี เราจะครอบครอง “อุปกรณ์ต่อเน็ตได้” เฉลี่ย 1,000 ชิ้นต่อคน
อีก 25 ปีหรือปี 2040 ชาวโลกจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หรือ internet-connected device เฉลี่ย 1,000 ชิ้นต่อคน?

        ซีอีโอซอฟต์แบงก์ยกตัวอย่างเก้าอี้ในห้องนั่งเล่น ในอนาคต เก้าอี้เหล่านี้จะไม่ได้เป็นเฟอร์นิเจอร์ธรรมดาทั่วไป แต่จะสามารถเป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพที่เต็มไปด้วยเซ็นเซอร์มากมายสำหรับการอ่านค่าสถิติสุขภาพของผู้นั่ง ข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปต่อยอดกับระบบออนไลน์ของตู้เย็น ที่จะแนะนำอาหารซึ่งผู้นั่งควรรับประทาน หรือข้อมูลจากเก้าอี้อาจจะถูกประมวลผลร่วมกับข้อมูลจากรองเท้าไฮเทคเพื่อให้ผู้สวมได้ทราบว่ากิจกรรมออกกำลังกายที่ทำอยู่นั้นเหมาะสมกับสภาวะร่างกายในขณะนั้นอย่างสมดุลย์หรือไม่
     
       ทั้งหมดนี้ ซีอีโอซอฟต์แบงก์แสดงความเชื่อมั่นว่าคำคาดการณ์ของตัวเองมีน้ำหนัก เนื่องจากที่ผ่านมา ซันเคยยืนยันว่าสมาร์ทโฟนจะครองโลก ทั้งที่หลายเสียงในขณะนั้นมองว่าฟีเจอร์โฟนจะยังแซงหน้าต่อไปเพราะชิป NFC หรือ IC ที่มีบทบาทสูงโดยเฉพาะในญี่ปุ่น ความเชื่อมั่นของซันทำให้ซอฟต์แบงก์นำไอโฟน (iPhone) เข้ามาจำหน่ายในญี่ปุ่น ซึ่งรายงานระบุว่าเป็นผลจากการดีลส่วนตัวกับสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ที่สัญญาว่าจะให้ซอฟต์แบงก์เป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวในแดนปลาดิบ

อีก 25 ปี เราจะครอบครอง “อุปกรณ์ต่อเน็ตได้” เฉลี่ย 1,000 ชิ้นต่อคน

        ดีลที่เกิดขึ้นทำให้ซอฟต์แบงก์ขยายตัวจนกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมระดับโลก ซึ่งการคาดการณ์ล่าสุดของซันสะท้อนว่าบริษัทด้านอินเทอร์เน็ตจะมีอิทธิพลสูงยิ่งขึ้นอีกในอนาคต
     
       สำหรับระยะสั้น ซันระบุว่าอีกไม่ถึง 10 ปี ชาวโลกจะได้เห็นว่าสมาร์ทโฟนสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนอย่างแท้จริง โดยแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงเวลา 30 ปีนับจากนี้ คือราคาของสินค้าไฮเทคที่จะลดลงจนอยู่ในระดับที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถหาซื้อได้อย่างสบายกระเป๋า

http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000086708

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.