Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

01 สิงหาคม 2558 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษา CAT และ AIS GSM 1800 (DPC) ให้"ยกคำร้อง" ของแคท เนื่องจากเนื่องจากศาลเห็นว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ในข้อพิพาทดังกล่าว เป็นคำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นไปตามกฎหมายไทย

ประเด็นหลัก



ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้รับแจ้งจากศาลปกครองกลางว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2558 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ 1259/2554 คดีหมายเลขแดงที่ 1789/2558 ระหว่างผู้ร้องในคดีคือ บมจ. กสท โทรคมนาคม (แคท) กับ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ผู้คัดค้าน ในกรณีที่แคทขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 3/2551 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 20/2554 ที่วินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทเกี่ยวกับการชำระผลประโยชน์ตอบแทนรายปีตามสัญญาอนุญาตให้ดำเนินการให้บริการวิทยุโทรคมนาคมระบบเซลลูล่า

โดยศาลปกครองมีคำพิพากษาให้"ยกคำร้อง" ของแคท เนื่องจากเนื่องจากศาลเห็นว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ในข้อพิพาทดังกล่าว เป็นคำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นไปตามกฎหมายไทยและตามข้อสัญญา ซึ่งอยู่ในขอบเขตของสัญญาอนุญาโตตุลาการและไม่เกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาท ตามมาตรา 40 วรรคสาม (1) (ง) แห่งพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 อีกทั้งคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในคดีนี้ก็เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องเกี่ยวกับการชำระเงินผลประโยชน์ตอบแทนรายปีตามสัญญาที่พิพาทซึ่งไม่ปรากฎว่ามีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดกำหนดห้ามมิให้ข้อพิพาทตามสัญญาดังกล่าวระงับโดยคณะอนุญาโตตุลาการ



แต่ทางคณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำวินิจฉัยเมื่อ 1 มี.ค. 2554 โดยสรุปว่า การดำเนินการเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตของดีพีซีตามมติ ครม. การที่บริษัทได้นำส่งเป็นค่าผลประโยชน์ตอบแทนแก่แคท และแคทยังได้คืนหนังสือค้ำประกันให้กับดีพีซี จึงถือได้ว่าแคทยอมระงับการรับชำระส่วนแบ่งรายได้เต็มจำนวนตามข้อสัญญาเดิม ตามนัยของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 การชำระหนี้ด้วยวิธีดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ส่วนยกเลิกมติ ครม. 11 ก.พ. 2546 ที่กำหนดแนวทางหักภาษีสรรพสามิตนั้น มีผลเพียงยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสรรพสามิต หาได้มีผลย้อนหลังต่อการปฏิบัติที่กระทำมาก่อนไม่ ดังนั้นการที่แคทจะเรียกผลตอบแทนส่วนที่หักภาษีสรรพสามิตอีกจะทำให้ไม่เป็นธรรมแค่ดีพีซี เพราะการชำระหนี้เดิมเสร็จสิ้นและระงับไปแล้ว ผู้ร้องไม่อาจกลับมาเรียกส่วนที่อ้างว่าขาดไปได้อีก









____________________________



แคทวืด! ศาลปกครองยกคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตเรียกภาษีสรรพสามิต "ดีพีซี"



ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้รับแจ้งจากศาลปกครองกลางว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2558 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ 1259/2554 คดีหมายเลขแดงที่ 1789/2558 ระหว่างผู้ร้องในคดีคือ บมจ. กสท โทรคมนาคม (แคท) กับ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ผู้คัดค้าน ในกรณีที่แคทขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 3/2551 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 20/2554 ที่วินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทเกี่ยวกับการชำระผลประโยชน์ตอบแทนรายปีตามสัญญาอนุญาตให้ดำเนินการให้บริการวิทยุโทรคมนาคมระบบเซลลูล่า

โดยศาลปกครองมีคำพิพากษาให้"ยกคำร้อง" ของแคท เนื่องจากเนื่องจากศาลเห็นว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ในข้อพิพาทดังกล่าว เป็นคำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นไปตามกฎหมายไทยและตามข้อสัญญา ซึ่งอยู่ในขอบเขตของสัญญาอนุญาโตตุลาการและไม่เกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาท ตามมาตรา 40 วรรคสาม (1) (ง) แห่งพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 อีกทั้งคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในคดีนี้ก็เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องเกี่ยวกับการชำระเงินผลประโยชน์ตอบแทนรายปีตามสัญญาที่พิพาทซึ่งไม่ปรากฎว่ามีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดกำหนดห้ามมิให้ข้อพิพาทตามสัญญาดังกล่าวระงับโดยคณะอนุญาโตตุลาการ

ประกอบกับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาระหว่างคู่สัญญากรณีจึงยังถือไม่ได้ว่ามีกรณีที่ปรากฎต่อศาลว่า การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในคดีนี้ จะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามมาตรา 40 วรรคสาม (2) (ข) แห่งพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 ดังนั้น คำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 3/2551 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 20/2554 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2554 จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่ศาลจะมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดดังกล่าวได้

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ข้อพิพาทดังกล่าว สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี 11 ก.พ. 2546 เห็นชอบแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากบริการโทรคมนาคม โดยให้หักค่าภาษีสรรพสามิตออกจากส่วนแบ่งรายได้ที่ผู้รับสัมปทานจะต้องนำส่งให้เจ้าของสัมปทาน จนกระทั่งเมื่อ 26 ก.พ. 2550 ได้มีประกาศกระทรวงการคลัง ลดอัตราภาษีสรรพาสามิตกิจการโทรคมนาคม เหลือ 0% และทางคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสทฯ จากมติ ครม. 11 ก.พ. 2546  พร้อมทั้งแคทได้มีหนังสือแจ้งให้ดีพีซี นำส่งผลประโยชน์ที่ขาดหายไปจากมติ ครม. ดังกล่าว เป็นเงิน 2,216 ล้านบาท และเมื่อทางดีพีซีไม่ชำระ จึงได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ ลงวันที่ 9 ม.ค. 2551  ขอให้ดีพีซีชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย

แต่ทางคณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำวินิจฉัยเมื่อ 1 มี.ค. 2554 โดยสรุปว่า การดำเนินการเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตของดีพีซีตามมติ ครม. การที่บริษัทได้นำส่งเป็นค่าผลประโยชน์ตอบแทนแก่แคท และแคทยังได้คืนหนังสือค้ำประกันให้กับดีพีซี จึงถือได้ว่าแคทยอมระงับการรับชำระส่วนแบ่งรายได้เต็มจำนวนตามข้อสัญญาเดิม ตามนัยของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 การชำระหนี้ด้วยวิธีดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ส่วนยกเลิกมติ ครม. 11 ก.พ. 2546 ที่กำหนดแนวทางหักภาษีสรรพสามิตนั้น มีผลเพียงยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสรรพสามิต หาได้มีผลย้อนหลังต่อการปฏิบัติที่กระทำมาก่อนไม่ ดังนั้นการที่แคทจะเรียกผลตอบแทนส่วนที่หักภาษีสรรพสามิตอีกจะทำให้ไม่เป็นธรรมแค่ดีพีซี เพราะการชำระหนี้เดิมเสร็จสิ้นและระงับไปแล้ว ผู้ร้องไม่อาจกลับมาเรียกส่วนที่อ้างว่าขาดไปได้อีก


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1438076889

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.