29 กรกฎาคม 2558 Spring News มีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 3 ของช่องข่าวดิจิตอล เป็นรองช่องทีเอ็นเอ็นและเนชั่น ด้วยเรตติ้งไล่เลี่ยกัน เราจึงเชื่อว่าจะแซงได้ไม่ยาก โดยปีนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 100-150 ล้านบาท ส่วนรายได้ปรับลดลงเหลือ 200 ล้านบาท
ประเด็นหลัก
“ปัจจุบันสปริงนิวส์มีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 3 ของช่องข่าวดิจิตอล เป็นรองช่องทีเอ็นเอ็นและเนชั่น ด้วยเรตติ้งไล่เลี่ยกัน เราจึงเชื่อว่าจะแซงได้ไม่ยาก โดยนอกจากปรับผังครั้งใหญ่ในวันที่ 19 ก.ค.นี้แล้ว ในช่วงต่อไปยังจะมีการอัดรายการดึงเรตติ้งเข้ามาเสริมทัพ เช่น คอนเท้นท์รายการด้านกีฬา”
โดยปีนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 100-150 ล้านบาท ส่วนรายได้ปรับลดลงเหลือ 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เกินครึ่งแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจในปีนี้หลังไตรมาสแรก ไม่เอื้อต่อการขายโฆษณาเอาเสียเลย แต่ยังหวังว่าจะทำรายได้ตามเป้า และหากสถานการณ์เป็นไปอย่างที่คิด สปริงนิวส์จะสามารถบรรลุจุดคุ้มทุนได้ในปีหน้า
___________________________________________
"สปริงนิวส์" ปรับผังหวังขึ้นเบอร์ 1
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี รองประธานกรรมการบริหารด้านธุรกิจองค์กรและรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทสปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า หลังออกอากาศมาได้ 1 ปีเศษ สปริงนิวส์มีเป้าหมายแน่นอนแล้วว่าจะเดินหน้าเป็นช่องทีวีดิจิตอลด้านข่าวที่เข้มข้นและแตกต่าง จึงได้ปรับผังรายการครั้งใหญ่ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ อัดรายการข่าวเพิ่มตลอดช่วงบ่ายเพื่อตอกย้ำความเป็นช่องข่าวที่ชัดเจน ซึ่งความชัดเจนและแตกต่างดังกล่าว จะทำให้สปริงนิวส์ก้าวสู่เป้าหมายการเป็นช่องข่าวดิจิตอลอันดับ 1 ภายในสิ้นปีนี้ได้
“ปัจจุบันสปริงนิวส์มีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 3 ของช่องข่าวดิจิตอล เป็นรองช่องทีเอ็นเอ็นและเนชั่น ด้วยเรตติ้งไล่เลี่ยกัน เราจึงเชื่อว่าจะแซงได้ไม่ยาก โดยนอกจากปรับผังครั้งใหญ่ในวันที่ 19 ก.ค.นี้แล้ว ในช่วงต่อไปยังจะมีการอัดรายการดึงเรตติ้งเข้ามาเสริมทัพ เช่น คอนเท้นท์รายการด้านกีฬา”
โดยปีนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 100-150 ล้านบาท ส่วนรายได้ปรับลดลงเหลือ 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เกินครึ่งแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจในปีนี้หลังไตรมาสแรก ไม่เอื้อต่อการขายโฆษณาเอาเสียเลย แต่ยังหวังว่าจะทำรายได้ตามเป้า และหากสถานการณ์เป็นไปอย่างที่คิด สปริงนิวส์จะสามารถบรรลุจุดคุ้มทุนได้ในปีหน้า
ด้านนายพัชร สารพิมพา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานสปริงนิวส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับผังครั้งใหญ่จะเป็นการเสริมทัพด้วยรายงานข่าวอีก 7 รายการ ยิงยาวตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเย็น ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์และความท้าทายใหม่ ที่ช่องข่าวจะอัดรายการข่าวเพิ่มมากเช่นนี้ เพราะไม่ได้ทำได้ง่ายๆ และอาจไม่ใช่ตัวเรียกเรตติ้ง แต่ถือเป็นการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีและสร้างภาพช่องข่าวที่ชัดเจน โดยหวังดึงผู้ชมคอข่าวตัวจริงเพิ่มเติมจากช่องคู่แข่ง.
http://www.thairath.co.th/content/512216
“ปัจจุบันสปริงนิวส์มีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 3 ของช่องข่าวดิจิตอล เป็นรองช่องทีเอ็นเอ็นและเนชั่น ด้วยเรตติ้งไล่เลี่ยกัน เราจึงเชื่อว่าจะแซงได้ไม่ยาก โดยนอกจากปรับผังครั้งใหญ่ในวันที่ 19 ก.ค.นี้แล้ว ในช่วงต่อไปยังจะมีการอัดรายการดึงเรตติ้งเข้ามาเสริมทัพ เช่น คอนเท้นท์รายการด้านกีฬา”
โดยปีนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 100-150 ล้านบาท ส่วนรายได้ปรับลดลงเหลือ 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เกินครึ่งแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจในปีนี้หลังไตรมาสแรก ไม่เอื้อต่อการขายโฆษณาเอาเสียเลย แต่ยังหวังว่าจะทำรายได้ตามเป้า และหากสถานการณ์เป็นไปอย่างที่คิด สปริงนิวส์จะสามารถบรรลุจุดคุ้มทุนได้ในปีหน้า
___________________________________________
"สปริงนิวส์" ปรับผังหวังขึ้นเบอร์ 1
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี รองประธานกรรมการบริหารด้านธุรกิจองค์กรและรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทสปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า หลังออกอากาศมาได้ 1 ปีเศษ สปริงนิวส์มีเป้าหมายแน่นอนแล้วว่าจะเดินหน้าเป็นช่องทีวีดิจิตอลด้านข่าวที่เข้มข้นและแตกต่าง จึงได้ปรับผังรายการครั้งใหญ่ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ อัดรายการข่าวเพิ่มตลอดช่วงบ่ายเพื่อตอกย้ำความเป็นช่องข่าวที่ชัดเจน ซึ่งความชัดเจนและแตกต่างดังกล่าว จะทำให้สปริงนิวส์ก้าวสู่เป้าหมายการเป็นช่องข่าวดิจิตอลอันดับ 1 ภายในสิ้นปีนี้ได้
“ปัจจุบันสปริงนิวส์มีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 3 ของช่องข่าวดิจิตอล เป็นรองช่องทีเอ็นเอ็นและเนชั่น ด้วยเรตติ้งไล่เลี่ยกัน เราจึงเชื่อว่าจะแซงได้ไม่ยาก โดยนอกจากปรับผังครั้งใหญ่ในวันที่ 19 ก.ค.นี้แล้ว ในช่วงต่อไปยังจะมีการอัดรายการดึงเรตติ้งเข้ามาเสริมทัพ เช่น คอนเท้นท์รายการด้านกีฬา”
โดยปีนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 100-150 ล้านบาท ส่วนรายได้ปรับลดลงเหลือ 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เกินครึ่งแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจในปีนี้หลังไตรมาสแรก ไม่เอื้อต่อการขายโฆษณาเอาเสียเลย แต่ยังหวังว่าจะทำรายได้ตามเป้า และหากสถานการณ์เป็นไปอย่างที่คิด สปริงนิวส์จะสามารถบรรลุจุดคุ้มทุนได้ในปีหน้า
ด้านนายพัชร สารพิมพา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานสปริงนิวส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับผังครั้งใหญ่จะเป็นการเสริมทัพด้วยรายงานข่าวอีก 7 รายการ ยิงยาวตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเย็น ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์และความท้าทายใหม่ ที่ช่องข่าวจะอัดรายการข่าวเพิ่มมากเช่นนี้ เพราะไม่ได้ทำได้ง่ายๆ และอาจไม่ใช่ตัวเรียกเรตติ้ง แต่ถือเป็นการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีและสร้างภาพช่องข่าวที่ชัดเจน โดยหวังดึงผู้ชมคอข่าวตัวจริงเพิ่มเติมจากช่องคู่แข่ง.
http://www.thairath.co.th/content/512216
ไม่มีความคิดเห็น: