Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

29 กรกฎาคม 2558 กสทช. ค่าโทรและเน็ตแบบเติมเงินของไทยราคาถูกเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน โดยบรูไนมีค่าเน็ตถูกสุด สำรวจอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน หรือพรีเพด (Prepaid) ของผู้ให้บริการรายใหญ่ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 1

ประเด็นหลัก






ประเทศสิงคโปร์มีค่าบริการโดยเฉลี่ยถูกที่สุด เท่ากับร้อยละ 0.0021 ของรายได้ต่อเดือนของประชากร บรูไนถูกเป็นอันดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 0.0022 ของรายได้ต่อเดือน ตามด้วยไทยเป็นอันดับ 3 คิดเป็นร้อยละ 0.0036 ของรายได้ต่อเดือน มาเลเซียอันดับ 4 ร้อยละ 0.0043 อินโดนีเซียอันดับ 5 ร้อยละ 0.0227 เมียนมาอันดับ 6 ร้อยละ 0.0328 เวียดนามอันดับ 7 ร้อยละ 0.0364 ฟิลิปปินส์อันดับ 8 ร้อยละ 0.0559 ลาวอันดับ 9 ร้อยละ 0.0656 และประเทศกัมพูชาแพงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 0.0823 ของรายได้ต่อเดือน ส่วนอัตราค่าบริการอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มอาเซียน สำนักงาน กสทช. พบว่าประเทศบรูไนมีค่าบริการถูกที่สุด คิดเป็นร้อยละ 0.0002 ของรายได้ต่อเดือนของประชากร ตามด้วยสิงคโปร์ ร้อยละ 0.0003 อินโดนีเซียอันดับ 3 ร้อยละ 0.0006 ในขณะที่ไทยเป็นอันดับ 4 คิดเป็นร้อยละ 0.0009 ของรายได้ต่อเดือน มาเลเซียอันดับ 5 ร้อยละ 0.0012 ลาวอันดับ 6 ร้อยละ 0.0013 เวียดนามอันดับ 7 ร้อยละ 0.0021 ฟิลิปปินส์อันดับ 8 ร้อยละ 0.0025 กัมพูชาอันดับ 9 ร้อยละ 0.0027 และประเทศเมียนมาแพงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 0.0034 ของรายได้ต่อเดือน นายฐากร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าประชาชนในประเทศที่มีรายได้ต่อเดือนสูง เช่น ชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีรายได้ต่อเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มอาเซียนประมาณ 4 เท่า และบรูไน สูงกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 3 เท่า จะมีค่าโทรและเน็ตถูก ในขณะที่ประชาชนในประเทศที่รายได้ต่อเดือนต่ำ เช่น กัมพูชา เมียนมา ลาว จะมีค่าโทรและเน็ตแพง






___________________________________________





ค่าโทร-เน็ตแบบเติมเงินไทยถูกเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน


„ค่าโทร-เน็ตแบบเติมเงินไทยถูกเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ค่าโทรและเน็ตแบบเติมเงินของไทยราคาถูกเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน โดยบรูไนมีค่าเน็ตถูกสุด


ค่าโทรและเน็ตแบบเติมเงินของไทยราคาถูกเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน โดยบรูไนมีค่าเน็ตถูกสุด นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. สำรวจอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน หรือพรีเพด (Prepaid) ของผู้ให้บริการรายใหญ่ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 1 ถึง 4 ของแต่ละประเทศในอาเซียนประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 พบว่า ประเทศไทยมีอัตราค่าบริการถูกเป็นอันดับ 3 รองจากประเทศบรูไนและสิงคโปร์เมื่อเทียบกับรายได้ต่อเดือนของประชากร โดยมีอัตราค่าบริการเฉลี่ยจากโปรโมชั่น ที่เข้าถึงง่ายที่สุดเท่ากับ 55 สตางค์ต่อนาที ขณะที่ประเทศกัมพูชาคิดค่าโทร นาทีละ 2.32 บาท สำนักงาน กสทช. ได้จัดลำดับอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน โดยเน้นที่โปรโมชั่นที่เข้าถึงง่ายโดยทั่วกันในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เทียบกับรายได้ของประชากรในประเทศนั้น ๆ ประเทศที่มีรายได้น้อยถือว่ามีอัตราค่าบริการแพงกว่าประเทศที่มีรายได้สูงกว่า ทั้งนี้ ประเทศสิงคโปร์มีค่าบริการโดยเฉลี่ยถูกที่สุด เท่ากับร้อยละ 0.0021 ของรายได้ต่อเดือนของประชากร บรูไนถูกเป็นอันดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 0.0022 ของรายได้ต่อเดือน ตามด้วยไทยเป็นอันดับ 3 คิดเป็นร้อยละ 0.0036 ของรายได้ต่อเดือน มาเลเซียอันดับ 4 ร้อยละ 0.0043 อินโดนีเซียอันดับ 5 ร้อยละ 0.0227 เมียนมาอันดับ 6 ร้อยละ 0.0328 เวียดนามอันดับ 7 ร้อยละ 0.0364 ฟิลิปปินส์อันดับ 8 ร้อยละ 0.0559 ลาวอันดับ 9 ร้อยละ 0.0656 และประเทศกัมพูชาแพงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 0.0823 ของรายได้ต่อเดือน ส่วนอัตราค่าบริการอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มอาเซียน สำนักงาน กสทช. พบว่าประเทศบรูไนมีค่าบริการถูกที่สุด คิดเป็นร้อยละ 0.0002 ของรายได้ต่อเดือนของประชากร ตามด้วยสิงคโปร์ ร้อยละ 0.0003 อินโดนีเซียอันดับ 3 ร้อยละ 0.0006 ในขณะที่ไทยเป็นอันดับ 4 คิดเป็นร้อยละ 0.0009 ของรายได้ต่อเดือน มาเลเซียอันดับ 5 ร้อยละ 0.0012 ลาวอันดับ 6 ร้อยละ 0.0013 เวียดนามอันดับ 7 ร้อยละ 0.0021 ฟิลิปปินส์อันดับ 8 ร้อยละ 0.0025 กัมพูชาอันดับ 9 ร้อยละ 0.0027 และประเทศเมียนมาแพงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 0.0034 ของรายได้ต่อเดือน นายฐากร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าประชาชนในประเทศที่มีรายได้ต่อเดือนสูง เช่น ชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีรายได้ต่อเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มอาเซียนประมาณ 4 เท่า และบรูไน สูงกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 3 เท่า จะมีค่าโทรและเน็ตถูก ในขณะที่ประชาชนในประเทศที่รายได้ต่อเดือนต่ำ เช่น กัมพูชา เมียนมา ลาว จะมีค่าโทรและเน็ตแพง อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศเมียนมา พบว่ามีการทำตลาดด้วยวิธีการลดราคาให้ต่ำหรือทุ่มตลาด ทำให้ค่าโทรถูกเมื่อเทียบกับรายได้ต่อเดือน ทั้งนี้ หากมองว่าอัตราค่าบริการทั้งค่าโทรและเน็ตเป็นภาระทางการเงินต่อรายได้แล้ว การจะทำให้ภาระดังกล่าวลดน้อยลงวิธีหนึ่งคือการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเน้นให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นควบคู่ไปกับการส่งเสริมการแข่งขันในตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งในปัจจุบันอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งบริการประเภทเสียงและข้อมูลมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงอยู่แล้ว เมื่อคนมีรายได้เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ค่าโทรและค่าเน็ตถูกลง.“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/it/336867

http://www.dailynews.co.th/it/336867

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.