18 กรกฎาคม 2558 RS เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมช่องใหม่ภายใต้ชื่อ "เพลินทีวี" เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชมกลุ่มหลักคือผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป
ประเด็นหลัก
"อาร์เอส" ทุ่มงบ 100 ล้านเปิดช่องทีวีดาวเทียม เพลินทีวี เจาะกลุ่มผู้ชมสูงวัย คาด 2 ปีคุ้มทุน ย้ำเดินหน้ากลยุทธ์ทีวีดาวเทียมและทีวีดิจิตอลควบคู่กลุ่มธุรกิจเพลง ด้าน "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" เร่งปรับโครงสร้างแบ่งค่ายเพลงพร้อมรับเปิดเออีซี มั่นใจต่อยอดรายได้ครบวงจร
พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุลพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมช่องใหม่ภายใต้ชื่อ "เพลินทีวี" เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชมกลุ่มหลักคือผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป เนื่องจากบริษัทเชื่อมั่นดาวเทียมยังเป็นอีกช่องทางที่มีแนวโน้มการเติบโตและสามารถทำเงินได้ ขณะเดียวกันบริษัทมั่นใจช่องเพลินทีวีจะประสบความสำเร็จตามที่คาดการณ์ และขึ้นเป็นช่องที่มีเรตติ้งอันดับ 1 ในกลุ่มทีวีสูงวัย พร้อมมีรายได้ในปีแรกกว่า 60 ล้านบาท และคุ้มทุนภายใน 2 ปี
_________________________________________
อาร์เอสเปิดตัวช่อง‘เพลินทีวี’
ฝันเรตติ้งขึ้นที่1กลุ่มทีวีสูงวัย/GMMแต่งตัวรับเออีซี
"อาร์เอส" ทุ่มงบ 100 ล้านเปิดช่องทีวีดาวเทียม เพลินทีวี เจาะกลุ่มผู้ชมสูงวัย คาด 2 ปีคุ้มทุน ย้ำเดินหน้ากลยุทธ์ทีวีดาวเทียมและทีวีดิจิตอลควบคู่กลุ่มธุรกิจเพลง ด้าน "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" เร่งปรับโครงสร้างแบ่งค่ายเพลงพร้อมรับเปิดเออีซี มั่นใจต่อยอดรายได้ครบวงจร
พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุลพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมช่องใหม่ภายใต้ชื่อ "เพลินทีวี" เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชมกลุ่มหลักคือผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป เนื่องจากบริษัทเชื่อมั่นดาวเทียมยังเป็นอีกช่องทางที่มีแนวโน้มการเติบโตและสามารถทำเงินได้ ขณะเดียวกันบริษัทมั่นใจช่องเพลินทีวีจะประสบความสำเร็จตามที่คาดการณ์ และขึ้นเป็นช่องที่มีเรตติ้งอันดับ 1 ในกลุ่มทีวีสูงวัย พร้อมมีรายได้ในปีแรกกว่า 60 ล้านบาท และคุ้มทุนภายใน 2 ปี
"ภายในปี 2560 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มสูงถึง 20% หรือ 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งหมดที่ปัจจุบันมีประมาณ 67 ล้านคน ทำให้บริษัทเล็งเห็นช่องว่างการทำตลาดกับคนกลุ่มนี้ จึงใช้งบลงทุนร่วม 100 ล้านบาท ทำทีวีดาวเทียมเพิ่มอีกช่องใหม่ ภายใต้ชื่อเพลินทีวีออกอากาศทางหมายเลข 10 ผ่านจานดาวเทียมทุกระบบ โดยชูคอนเซ็ปต์ ใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลิน กับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขเพื่อมุ่งจับกลุ่มเป้าหมายคนชนชั้นกลางสูงวัยเป็นหลัก"
บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ Unique Value Marketing คือ รวมคอนเทนต์ตอบโจทย์ทุกด้าน เช่น ความบันเทิงทางด้านเสียงเพลง เรื่องราวสุขภาพ อาหาร ธรรมชาติ การท่องเที่ยว งานอดิเรก ธรรมะข้อคิด หรือแม้แต่กิจกรรมต่างๆ อีกทั้งที่ผ่านมาบริษัทได้ชิมลางทดลองออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่ากลุ่มรายการเพลงยอดนิยมในความทรงจำ ทั้ง 3 รายการ คือ มนต์เพลงลูกทุ่ง, เพลงลูกกรุง เพลินเพลงวันวาน และ เพลงสากล Oldies Goldies มีกระแสตอบรับดีตามคาด โดยช่วงเช้าและช่วงกลางวันตลอดวัน ถือเป็นไพรม์ไทม์ของทางสถานีที่มีผู้ชมจำนวนมาก
แม้ปัจจุบันคนไทยจะรู้จักและรับชมทีวีดิจิตอลเพราะออกอากาศมาแล้วกว่า 1 ปี แต่เนื่องด้วยโครงข่ายออกอากาศภาคพื้นดินยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ส่วนใหญ่ยังรับชมทีวีดิจิตอลผ่านจานดาวเทียมที่เข้าถึงทุกครัวเรือนได้สูงถึง 70% ของคนทั้งประเทศ ทำให้ทีวีดาวเทียมยังคงเป็นแพลตฟอร์มใหญ่ที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นธุรกิจที่ยังทำเงินได้อีกระยะยาว ดังนั้น บริษัทจึงยังคงวางกลยุทธ์ให้ความสำคัญทั้งธุรกิจทีวีดาวเทียมคู่ขนานไปกับทีวีดิจิตอลต่อไป
ด้านนายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานจีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดเออีซี บริษัทจึงปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงด้วยการจัดแบ่งค่ายเพลงตามแนวเพลงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ประกอบด้วย แนวเพลงป๊อป (เมนสตรีม) แนวเพลงร็อก (จีนี่ เรคคอร์ดส์) แนวเพลงอีซี่ ลิสเซินนิ่ง (เวิร์คแก๊งส์) แนวเพลงลูกทุ่ง (แกรมมี่โกลด์) แนวเพลงอินดี้ (สนามหลวง) และแนวเพลงสำหรับวัยรุ่น (ทีน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) รวมทั้งเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจาก Music Business สู่ Idol Business เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบคลุม 360 องศา จากปัจจุบันที่เพลงของแกรมมี่ยังครองตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 70%
สำหรับการขยายตัวของธุรกิจเพลง แกรมมี่ต่อยอดธุรกิจเพลงอย่างครบวงจร โดยเฉพาะการขยายช่องทางรายได้ใหม่ๆเข้ามาเสริม เช่น การให้บริการมิวสิก สตรีมมิ่ง ร่วมกับเอไอเอส ภายใต้บริการ KKBOX การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับยูทูบไทยแลนด์ โดยปัจจุบัน แกรมมี่ มีช่องอยู่ในยูทูบ ไทยแลนด์ ทั้งสิ้น 53 ช่อง และช่อง GMM GRAMMY OFFICIAL มียอดสมาชิกกว่า 5 ล้านสมาชิก และในแต่ละเดือนมีผู้รับชมคลิปจากช่องต่างๆของแกรมมี่ กว่า 100 ล้านวิวเลยทีเดียว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,066 วันที่ 2 - 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=283874:2015-06-30-04-21-52&catid=107:2009-02-08-11-34-25&Itemid=456#.VaiXs2BAeuw
"อาร์เอส" ทุ่มงบ 100 ล้านเปิดช่องทีวีดาวเทียม เพลินทีวี เจาะกลุ่มผู้ชมสูงวัย คาด 2 ปีคุ้มทุน ย้ำเดินหน้ากลยุทธ์ทีวีดาวเทียมและทีวีดิจิตอลควบคู่กลุ่มธุรกิจเพลง ด้าน "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" เร่งปรับโครงสร้างแบ่งค่ายเพลงพร้อมรับเปิดเออีซี มั่นใจต่อยอดรายได้ครบวงจร
พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุลพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมช่องใหม่ภายใต้ชื่อ "เพลินทีวี" เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชมกลุ่มหลักคือผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป เนื่องจากบริษัทเชื่อมั่นดาวเทียมยังเป็นอีกช่องทางที่มีแนวโน้มการเติบโตและสามารถทำเงินได้ ขณะเดียวกันบริษัทมั่นใจช่องเพลินทีวีจะประสบความสำเร็จตามที่คาดการณ์ และขึ้นเป็นช่องที่มีเรตติ้งอันดับ 1 ในกลุ่มทีวีสูงวัย พร้อมมีรายได้ในปีแรกกว่า 60 ล้านบาท และคุ้มทุนภายใน 2 ปี
_________________________________________
อาร์เอสเปิดตัวช่อง‘เพลินทีวี’
ฝันเรตติ้งขึ้นที่1กลุ่มทีวีสูงวัย/GMMแต่งตัวรับเออีซี
"อาร์เอส" ทุ่มงบ 100 ล้านเปิดช่องทีวีดาวเทียม เพลินทีวี เจาะกลุ่มผู้ชมสูงวัย คาด 2 ปีคุ้มทุน ย้ำเดินหน้ากลยุทธ์ทีวีดาวเทียมและทีวีดิจิตอลควบคู่กลุ่มธุรกิจเพลง ด้าน "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" เร่งปรับโครงสร้างแบ่งค่ายเพลงพร้อมรับเปิดเออีซี มั่นใจต่อยอดรายได้ครบวงจร
พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุลพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมช่องใหม่ภายใต้ชื่อ "เพลินทีวี" เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชมกลุ่มหลักคือผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป เนื่องจากบริษัทเชื่อมั่นดาวเทียมยังเป็นอีกช่องทางที่มีแนวโน้มการเติบโตและสามารถทำเงินได้ ขณะเดียวกันบริษัทมั่นใจช่องเพลินทีวีจะประสบความสำเร็จตามที่คาดการณ์ และขึ้นเป็นช่องที่มีเรตติ้งอันดับ 1 ในกลุ่มทีวีสูงวัย พร้อมมีรายได้ในปีแรกกว่า 60 ล้านบาท และคุ้มทุนภายใน 2 ปี
"ภายในปี 2560 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มสูงถึง 20% หรือ 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งหมดที่ปัจจุบันมีประมาณ 67 ล้านคน ทำให้บริษัทเล็งเห็นช่องว่างการทำตลาดกับคนกลุ่มนี้ จึงใช้งบลงทุนร่วม 100 ล้านบาท ทำทีวีดาวเทียมเพิ่มอีกช่องใหม่ ภายใต้ชื่อเพลินทีวีออกอากาศทางหมายเลข 10 ผ่านจานดาวเทียมทุกระบบ โดยชูคอนเซ็ปต์ ใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลิน กับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขเพื่อมุ่งจับกลุ่มเป้าหมายคนชนชั้นกลางสูงวัยเป็นหลัก"
บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ Unique Value Marketing คือ รวมคอนเทนต์ตอบโจทย์ทุกด้าน เช่น ความบันเทิงทางด้านเสียงเพลง เรื่องราวสุขภาพ อาหาร ธรรมชาติ การท่องเที่ยว งานอดิเรก ธรรมะข้อคิด หรือแม้แต่กิจกรรมต่างๆ อีกทั้งที่ผ่านมาบริษัทได้ชิมลางทดลองออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่ากลุ่มรายการเพลงยอดนิยมในความทรงจำ ทั้ง 3 รายการ คือ มนต์เพลงลูกทุ่ง, เพลงลูกกรุง เพลินเพลงวันวาน และ เพลงสากล Oldies Goldies มีกระแสตอบรับดีตามคาด โดยช่วงเช้าและช่วงกลางวันตลอดวัน ถือเป็นไพรม์ไทม์ของทางสถานีที่มีผู้ชมจำนวนมาก
แม้ปัจจุบันคนไทยจะรู้จักและรับชมทีวีดิจิตอลเพราะออกอากาศมาแล้วกว่า 1 ปี แต่เนื่องด้วยโครงข่ายออกอากาศภาคพื้นดินยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ส่วนใหญ่ยังรับชมทีวีดิจิตอลผ่านจานดาวเทียมที่เข้าถึงทุกครัวเรือนได้สูงถึง 70% ของคนทั้งประเทศ ทำให้ทีวีดาวเทียมยังคงเป็นแพลตฟอร์มใหญ่ที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นธุรกิจที่ยังทำเงินได้อีกระยะยาว ดังนั้น บริษัทจึงยังคงวางกลยุทธ์ให้ความสำคัญทั้งธุรกิจทีวีดาวเทียมคู่ขนานไปกับทีวีดิจิตอลต่อไป
ด้านนายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานจีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดเออีซี บริษัทจึงปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงด้วยการจัดแบ่งค่ายเพลงตามแนวเพลงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ประกอบด้วย แนวเพลงป๊อป (เมนสตรีม) แนวเพลงร็อก (จีนี่ เรคคอร์ดส์) แนวเพลงอีซี่ ลิสเซินนิ่ง (เวิร์คแก๊งส์) แนวเพลงลูกทุ่ง (แกรมมี่โกลด์) แนวเพลงอินดี้ (สนามหลวง) และแนวเพลงสำหรับวัยรุ่น (ทีน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) รวมทั้งเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจาก Music Business สู่ Idol Business เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบคลุม 360 องศา จากปัจจุบันที่เพลงของแกรมมี่ยังครองตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 70%
สำหรับการขยายตัวของธุรกิจเพลง แกรมมี่ต่อยอดธุรกิจเพลงอย่างครบวงจร โดยเฉพาะการขยายช่องทางรายได้ใหม่ๆเข้ามาเสริม เช่น การให้บริการมิวสิก สตรีมมิ่ง ร่วมกับเอไอเอส ภายใต้บริการ KKBOX การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับยูทูบไทยแลนด์ โดยปัจจุบัน แกรมมี่ มีช่องอยู่ในยูทูบ ไทยแลนด์ ทั้งสิ้น 53 ช่อง และช่อง GMM GRAMMY OFFICIAL มียอดสมาชิกกว่า 5 ล้านสมาชิก และในแต่ละเดือนมีผู้รับชมคลิปจากช่องต่างๆของแกรมมี่ กว่า 100 ล้านวิวเลยทีเดียว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,066 วันที่ 2 - 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=283874:2015-06-30-04-21-52&catid=107:2009-02-08-11-34-25&Itemid=456#.VaiXs2BAeuw
ไม่มีความคิดเห็น: