17 กรกฎาคม 2558 comseven เราจึงปรับลดเป้าโตในเชิงรายได้จากที่ตั้งไว้ 15% เหลือ 10% เป็น 1.5 หมื่นล้าน จากพีซี, สินค้าแอปเปิล และมือถือ 30% เท่า ๆ กัน ที่เหลือมาจากอุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ
ประเด็นหลัก
"การขยายตลาดลูกค้าองค์กรยังคงทำต่อ มีการให้สิทธิประโยชน์ผ่านระบบสมาชิก แจ้งโปรโมชั่นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าซื้อซ้ำ แต่จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก เราจึงปรับลดเป้าโตในเชิงรายได้จากที่ตั้งไว้ 15% เหลือ 10% เป็น 1.5 หมื่นล้าน จากพีซี, สินค้าแอปเปิล และมือถือ 30% เท่า ๆ กัน ที่เหลือมาจากอุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ"
นายสุระกล่าวต่อว่า การเติบโตของตลาดปีนี้อยู่ที่กระแสอีสปอร์ต, การซื้อจากกลุ่มองค์กร และสินค้าแอปเปิลที่จะเปิดตัวใหม่ในปลายปี ขณะที่เงินลงทุนโดยรวมยังอยู่ที่ 500 ล้านบาท แบ่งเป็น 350 ล้านบาทเพื่อปรับปรุง และขยายหน้าร้าน 40 แห่ง ที่เหลือเป็นการจัดกิจกรรมการตลาดทุกเดือน รวมถึงใช้ทำตลาดออนไลน์
____________________________________
"คอมเซเว่น"มุ่งไฮเอนด์ปั๊มรายได้ 17ก.ค.ปูพรม"แอปเปิลวอตช์" พรึ่บ
"คอมเซเว่น" โหมทำตลาดสินค้า "แอปเปิล" ครึ่งปีหลังเต็มสตรีม ควักกระเป๋ารีโนเวตไอสตูดิโอ 6 สาขา รอ "Apple Watch" ลงตลาด 17 ก.ค.นี้ พร้อมเพิ่มโฟกัสสินค้าไฮเอนด์รับกำลังซื้อซึมยาว เร่งขยายฐานลูกค้าองค์กร-ปรับแผน "Mango Mobile" หลังขยายสาขาไม่เข้าเป้า ทั้งพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซเพิ่มช่องทางขายสินค้ารองรับผู้บริโภคยุคใหม่
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.คอมเซเว่น เจ้าของร้านจำหน่ายสินค้าไอที "บานาน่าไอที", และไอสตูดิโอ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า คาดว่าภาพรวมตลาดไอทีในช่วงครึ่งปีหลัง 2558 โดยเฉพาะในกลุ่มคอมพิวเตอร์ (พีซี) คงยังอยู่ในภาวะทรงตัวผ่านอัตราเติบโตที่แทบไม่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังไม่กลับสู่สภาวะปกติทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงอย่างชัดเจน ประกอบกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น ระบบประมวลผลที่ประหยัดพลังงาน และระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ไม่จูงใจให้เกิดการเปลี่ยนเครื่องใหม่
"ผู้บริโภคไม่อยากใช้เงิน ถ้าไม่จำเป็นแม้รัฐจะอัดฉีดเงินเข้าระบบไปบ้าง แต่ทุกคนเลือกเก็บเงินไว้ดีกว่า ซึ่งคงต่อเนื่องถึงครึ่งปีหลัง แม้ผู้ผลิตบางรายจะมองว่าพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่ผมมองว่าตลาดรวมแทบไม่มีปัจจัยบวกแบบแรง ๆ กระตุ้นให้ตลาดกลับมาคึกคัก ผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อยต่างต้องวางแผนธุรกิจให้รัดกุมยิ่งขึ้น"
และบริษัทใช้ช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของตลาดหันมาจัดระเบียบภายในองค์กรทั้งการเลือกสินค้าทำตลาดและการหาวิธีจำหน่ายแบบใหม่เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคเช่นMangoMobile ร้านขนาดเล็กจำหน่าย และให้บริการเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือขยายไปได้ 40 แห่งจากเป้าเดิม 100 แห่ง และทดลองเปิดร้าน Pineapple เน้นสมาร์ทดีไวซ์ของแอปเปิล และอุปกรณ์เสริม มี 2 แห่ง แต่จะไม่ขยายเพิ่ม เพราะร้านเล็กที่จำหน่ายสินค้าแอปเปิลดูไม่น่าเชื่อถือ แม้จะได้รับการรับรองมาตรฐานจากแอปเปิล
นายสุระ คณิตทวีกุล
"การขยายตลาดลูกค้าองค์กรยังคงทำต่อ มีการให้สิทธิประโยชน์ผ่านระบบสมาชิก แจ้งโปรโมชั่นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าซื้อซ้ำ แต่จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก เราจึงปรับลดเป้าโตในเชิงรายได้จากที่ตั้งไว้ 15% เหลือ 10% เป็น 1.5 หมื่นล้าน จากพีซี, สินค้าแอปเปิล และมือถือ 30% เท่า ๆ กัน ที่เหลือมาจากอุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ"
นายสุระกล่าวต่อว่า การเติบโตของตลาดปีนี้อยู่ที่กระแสอีสปอร์ต, การซื้อจากกลุ่มองค์กร และสินค้าแอปเปิลที่จะเปิดตัวใหม่ในปลายปี ขณะที่เงินลงทุนโดยรวมยังอยู่ที่ 500 ล้านบาท แบ่งเป็น 350 ล้านบาทเพื่อปรับปรุง และขยายหน้าร้าน 40 แห่ง ที่เหลือเป็นการจัดกิจกรรมการตลาดทุกเดือน รวมถึงใช้ทำตลาดออนไลน์
"เรายังไม่หยุดลงทุน การขยายสาขาให้ครอบคลุมยังจำเป็น เดิม Mango Mobile ต้องไปอยู่ในชุนชน 100 แห่ง รวมถึง Pineapple แต่พิสูจน์แล้วว่าไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ ทำให้ร้านหลัก คือ บานาน่าไอที และไอสตูดิโอ ต้องขยายจุดออกไป และเตรียมพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซ รองรับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งไม่เกี่ยว Mango Mobile เดิมที่จะใช้ขายสินค้าออนไลน์"
ปัจจุบัน เครือข่ายร้านค้าของบริษัท มี 264 แห่ง แบ่งเป็นบานาน่าไอที 134 แห่ง บางสาขาได้สิทธิ์จำหน่ายสินค้าแอปเปิล และมีจุดให้บริการทรูมูฟเอช, บานาน่า โมบาย 36 แห่ง และไอสตูดิโอ,ไอบีท และยูสโตร์ 94 แห่ง และมีร้านรับบริการหลังการขายสินค้าแอปเปิล iCare อีก 17 แห่ง โดยการจำหน่ายสินค้าในร้านจะเน้นไฮเอนด์มากขึ้น เช่น เกมมิ่งโน้ตบุ๊ก หรือแก็ดเจตต่าง ๆ เพราะมีส่วนต่างกำไรมากกว่า และไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว
และเตรียมปรับปรุงหน้าร้านไอสตูดิโอ 6 สาขา เพื่อวางขาย Apple Watch ที่จะเปิดตัวในวันที่ 17 ก.ค. คาดว่าจะมีผลตอบรับที่ดี เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ผู้บริโภครอคอย คาดว่าจะทำให้ยอดขายสินค้าแอปเปิลแข็งแกร่งขึ้น โดยในประเทศไทย มีไอสตูดิโอ 11 แห่ง ได้สิทธิ์จำหน่าย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นร้านของบริษัท 6 แห่ง
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1436419419
"การขยายตลาดลูกค้าองค์กรยังคงทำต่อ มีการให้สิทธิประโยชน์ผ่านระบบสมาชิก แจ้งโปรโมชั่นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าซื้อซ้ำ แต่จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก เราจึงปรับลดเป้าโตในเชิงรายได้จากที่ตั้งไว้ 15% เหลือ 10% เป็น 1.5 หมื่นล้าน จากพีซี, สินค้าแอปเปิล และมือถือ 30% เท่า ๆ กัน ที่เหลือมาจากอุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ"
นายสุระกล่าวต่อว่า การเติบโตของตลาดปีนี้อยู่ที่กระแสอีสปอร์ต, การซื้อจากกลุ่มองค์กร และสินค้าแอปเปิลที่จะเปิดตัวใหม่ในปลายปี ขณะที่เงินลงทุนโดยรวมยังอยู่ที่ 500 ล้านบาท แบ่งเป็น 350 ล้านบาทเพื่อปรับปรุง และขยายหน้าร้าน 40 แห่ง ที่เหลือเป็นการจัดกิจกรรมการตลาดทุกเดือน รวมถึงใช้ทำตลาดออนไลน์
____________________________________
"คอมเซเว่น"มุ่งไฮเอนด์ปั๊มรายได้ 17ก.ค.ปูพรม"แอปเปิลวอตช์" พรึ่บ
"คอมเซเว่น" โหมทำตลาดสินค้า "แอปเปิล" ครึ่งปีหลังเต็มสตรีม ควักกระเป๋ารีโนเวตไอสตูดิโอ 6 สาขา รอ "Apple Watch" ลงตลาด 17 ก.ค.นี้ พร้อมเพิ่มโฟกัสสินค้าไฮเอนด์รับกำลังซื้อซึมยาว เร่งขยายฐานลูกค้าองค์กร-ปรับแผน "Mango Mobile" หลังขยายสาขาไม่เข้าเป้า ทั้งพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซเพิ่มช่องทางขายสินค้ารองรับผู้บริโภคยุคใหม่
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.คอมเซเว่น เจ้าของร้านจำหน่ายสินค้าไอที "บานาน่าไอที", และไอสตูดิโอ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า คาดว่าภาพรวมตลาดไอทีในช่วงครึ่งปีหลัง 2558 โดยเฉพาะในกลุ่มคอมพิวเตอร์ (พีซี) คงยังอยู่ในภาวะทรงตัวผ่านอัตราเติบโตที่แทบไม่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังไม่กลับสู่สภาวะปกติทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงอย่างชัดเจน ประกอบกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น ระบบประมวลผลที่ประหยัดพลังงาน และระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ไม่จูงใจให้เกิดการเปลี่ยนเครื่องใหม่
"ผู้บริโภคไม่อยากใช้เงิน ถ้าไม่จำเป็นแม้รัฐจะอัดฉีดเงินเข้าระบบไปบ้าง แต่ทุกคนเลือกเก็บเงินไว้ดีกว่า ซึ่งคงต่อเนื่องถึงครึ่งปีหลัง แม้ผู้ผลิตบางรายจะมองว่าพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่ผมมองว่าตลาดรวมแทบไม่มีปัจจัยบวกแบบแรง ๆ กระตุ้นให้ตลาดกลับมาคึกคัก ผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อยต่างต้องวางแผนธุรกิจให้รัดกุมยิ่งขึ้น"
และบริษัทใช้ช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของตลาดหันมาจัดระเบียบภายในองค์กรทั้งการเลือกสินค้าทำตลาดและการหาวิธีจำหน่ายแบบใหม่เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคเช่นMangoMobile ร้านขนาดเล็กจำหน่าย และให้บริการเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือขยายไปได้ 40 แห่งจากเป้าเดิม 100 แห่ง และทดลองเปิดร้าน Pineapple เน้นสมาร์ทดีไวซ์ของแอปเปิล และอุปกรณ์เสริม มี 2 แห่ง แต่จะไม่ขยายเพิ่ม เพราะร้านเล็กที่จำหน่ายสินค้าแอปเปิลดูไม่น่าเชื่อถือ แม้จะได้รับการรับรองมาตรฐานจากแอปเปิล
นายสุระ คณิตทวีกุล
"การขยายตลาดลูกค้าองค์กรยังคงทำต่อ มีการให้สิทธิประโยชน์ผ่านระบบสมาชิก แจ้งโปรโมชั่นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าซื้อซ้ำ แต่จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก เราจึงปรับลดเป้าโตในเชิงรายได้จากที่ตั้งไว้ 15% เหลือ 10% เป็น 1.5 หมื่นล้าน จากพีซี, สินค้าแอปเปิล และมือถือ 30% เท่า ๆ กัน ที่เหลือมาจากอุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ"
นายสุระกล่าวต่อว่า การเติบโตของตลาดปีนี้อยู่ที่กระแสอีสปอร์ต, การซื้อจากกลุ่มองค์กร และสินค้าแอปเปิลที่จะเปิดตัวใหม่ในปลายปี ขณะที่เงินลงทุนโดยรวมยังอยู่ที่ 500 ล้านบาท แบ่งเป็น 350 ล้านบาทเพื่อปรับปรุง และขยายหน้าร้าน 40 แห่ง ที่เหลือเป็นการจัดกิจกรรมการตลาดทุกเดือน รวมถึงใช้ทำตลาดออนไลน์
"เรายังไม่หยุดลงทุน การขยายสาขาให้ครอบคลุมยังจำเป็น เดิม Mango Mobile ต้องไปอยู่ในชุนชน 100 แห่ง รวมถึง Pineapple แต่พิสูจน์แล้วว่าไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ ทำให้ร้านหลัก คือ บานาน่าไอที และไอสตูดิโอ ต้องขยายจุดออกไป และเตรียมพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซ รองรับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งไม่เกี่ยว Mango Mobile เดิมที่จะใช้ขายสินค้าออนไลน์"
ปัจจุบัน เครือข่ายร้านค้าของบริษัท มี 264 แห่ง แบ่งเป็นบานาน่าไอที 134 แห่ง บางสาขาได้สิทธิ์จำหน่ายสินค้าแอปเปิล และมีจุดให้บริการทรูมูฟเอช, บานาน่า โมบาย 36 แห่ง และไอสตูดิโอ,ไอบีท และยูสโตร์ 94 แห่ง และมีร้านรับบริการหลังการขายสินค้าแอปเปิล iCare อีก 17 แห่ง โดยการจำหน่ายสินค้าในร้านจะเน้นไฮเอนด์มากขึ้น เช่น เกมมิ่งโน้ตบุ๊ก หรือแก็ดเจตต่าง ๆ เพราะมีส่วนต่างกำไรมากกว่า และไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว
และเตรียมปรับปรุงหน้าร้านไอสตูดิโอ 6 สาขา เพื่อวางขาย Apple Watch ที่จะเปิดตัวในวันที่ 17 ก.ค. คาดว่าจะมีผลตอบรับที่ดี เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ผู้บริโภครอคอย คาดว่าจะทำให้ยอดขายสินค้าแอปเปิลแข็งแกร่งขึ้น โดยในประเทศไทย มีไอสตูดิโอ 11 แห่ง ได้สิทธิ์จำหน่าย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นร้านของบริษัท 6 แห่ง
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1436419419
ไม่มีความคิดเห็น: