14 กรกฎาคม 2558 โดยทางธนาคาร Deutsche ได้คาดการณ์ว่า บริการทางการเงินบน Messenger และ WhatsApp (ที่สามารถทำเงินได้ประมาณ 49 ล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้) ในปี ค.ศ.2020 จะทำเงินได้ 4.224-4.827 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
ประเด็นหลัก
ที่ผ่านมา แอป Messenger ของเฟซบุ๊กได้ถูกจับตามองในฐานะแอปที่มีศักยภาพ และหัวใจหลักของแอปดังกล่าวก็คือบริการชำระเงินนั่นเอง
โดยทางธนาคาร Deutsche ได้คาดการณ์ว่า บริการทางการเงินบน Messenger และ WhatsApp (ที่สามารถทำเงินได้ประมาณ 49 ล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้) ในปี ค.ศ.2020 จะทำเงินได้ 4.224-4.827 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
____________________________________
โอนเงินผ่าน Messenger ใช้ได้ทั่วสหรัฐอเมริกาแล้ว
ไม่นานเกินรอ หลังมีคำแนะนำจากนักลงทุนในวอลล์สตรีตถึงแอปน้องใหม่มาแรงอย่าง Messenger ของเฟซบุ๊ก (Facebook) แอปที่มียอดการดาวน์โหลดทะลุ 1 พันล้านครั้งบนกูเกิลเพลย์ (Google Play) มาวันนี้ ทางเฟซบุ๊กก็ได้ประกาศอัปฟีเจอร์การชำระเงินบนแอปดังกล่าวให้ได้ใช้งานกันทั่วสหรัฐอเมริกาแล้วอย่างเป็นทางการ
โดยผู้ที่ออกมาเปิดเผยถึงความสามารถดังกล่าว คือ มร.เดวิด มาร์คัส (David Marcus) รองประธานฝ่าย Messaging Product ของเฟซบุ๊กที่โพสต์ผ่านบล็อกว่า ฟีเจอร์การชำระเงินผ่าน Messenger นั้นจะ “ง่ายและปลอดภัย”
การทำงานของระบบ คือ ผู้ใช้บริการต้องกรอกข้อมูลของบัตรเดบิตลงในระบบของ Messenger (เข้าไปใน Setting) ก่อน จึงจะสามารถรับ-ส่งเงินได้ การจ่ายเงินก็เพียงแค่เปิดหน้าสนทนากับคนที่คุณอยากจ่ายเงินให้เขาขึ้นมา และเลือกสัญลักษณ์ของสกุลเงินที่ต้องการ (ในตัวอย่างยกสัญลักษณ์ $) จากนั้นก็คลิกปุ่ม Pay เป็นอันเสร็จสิ้น
ส่วนผู้รับเงินก็ทำเช่นเดียวกัน คือ เปิดหน้าสนทนาขึ้นมา และคลิก Accept รับการจ่ายเงินนั้นๆ ซึ่งการเดินทางของเงินผ่านบริการดังกล่าวนี้อาจใช้เวลาสามวันทำการ
มากไปกว่านั้น คือ ทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า บริการชำระเงินแบบ Peer-to-Peer นี้จะไม่มีค่าธรรมเนียมด้วย ขณะที่บริการของแอปในลักษณะเดียวกันอย่าง Venmo นั้นมีการคิดค่าธรรมเนียมที่ 3 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าเงิน และเลือกหักจากบัตรเครดิตแทนที่จะเป็นบัตรเดบิตแบบเฟซบุ๊ก
ที่ผ่านมา แอป Messenger ของเฟซบุ๊กได้ถูกจับตามองในฐานะแอปที่มีศักยภาพ และหัวใจหลักของแอปดังกล่าวก็คือบริการชำระเงินนั่นเอง
โดยทางธนาคาร Deutsche ได้คาดการณ์ว่า บริการทางการเงินบน Messenger และ WhatsApp (ที่สามารถทำเงินได้ประมาณ 49 ล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้) ในปี ค.ศ.2020 จะทำเงินได้ 4.224-4.827 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074161&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+2-7-58&utm_campaign=20150701_m126419673_Manager+Morning+Brief+2-7-58&utm_term=_E0_B9_82_E0_B8_AD_E0_B8_99_E0_B9_80_E0_B8_87_E0_B8_B4_E0_B8_99_E0_B8_9C_E0_B9_88_E0_B8_B2_E0_B8_99+Messenger+_E0_B9_83_E0_B8_8A_E0_B9_89_E0_B9_84_E0_B8_94_E0_B9_89_E0_B8_97_E0_B8_B1_E0_B9_88_E0_B8_A7_E0_B8_AA_E0_B8_AB_E0_B8_A3_E0_B8_B1_E0_B8_90_E0_B8_AD_
ที่ผ่านมา แอป Messenger ของเฟซบุ๊กได้ถูกจับตามองในฐานะแอปที่มีศักยภาพ และหัวใจหลักของแอปดังกล่าวก็คือบริการชำระเงินนั่นเอง
โดยทางธนาคาร Deutsche ได้คาดการณ์ว่า บริการทางการเงินบน Messenger และ WhatsApp (ที่สามารถทำเงินได้ประมาณ 49 ล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้) ในปี ค.ศ.2020 จะทำเงินได้ 4.224-4.827 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
____________________________________
โอนเงินผ่าน Messenger ใช้ได้ทั่วสหรัฐอเมริกาแล้ว
ไม่นานเกินรอ หลังมีคำแนะนำจากนักลงทุนในวอลล์สตรีตถึงแอปน้องใหม่มาแรงอย่าง Messenger ของเฟซบุ๊ก (Facebook) แอปที่มียอดการดาวน์โหลดทะลุ 1 พันล้านครั้งบนกูเกิลเพลย์ (Google Play) มาวันนี้ ทางเฟซบุ๊กก็ได้ประกาศอัปฟีเจอร์การชำระเงินบนแอปดังกล่าวให้ได้ใช้งานกันทั่วสหรัฐอเมริกาแล้วอย่างเป็นทางการ
โดยผู้ที่ออกมาเปิดเผยถึงความสามารถดังกล่าว คือ มร.เดวิด มาร์คัส (David Marcus) รองประธานฝ่าย Messaging Product ของเฟซบุ๊กที่โพสต์ผ่านบล็อกว่า ฟีเจอร์การชำระเงินผ่าน Messenger นั้นจะ “ง่ายและปลอดภัย”
การทำงานของระบบ คือ ผู้ใช้บริการต้องกรอกข้อมูลของบัตรเดบิตลงในระบบของ Messenger (เข้าไปใน Setting) ก่อน จึงจะสามารถรับ-ส่งเงินได้ การจ่ายเงินก็เพียงแค่เปิดหน้าสนทนากับคนที่คุณอยากจ่ายเงินให้เขาขึ้นมา และเลือกสัญลักษณ์ของสกุลเงินที่ต้องการ (ในตัวอย่างยกสัญลักษณ์ $) จากนั้นก็คลิกปุ่ม Pay เป็นอันเสร็จสิ้น
ส่วนผู้รับเงินก็ทำเช่นเดียวกัน คือ เปิดหน้าสนทนาขึ้นมา และคลิก Accept รับการจ่ายเงินนั้นๆ ซึ่งการเดินทางของเงินผ่านบริการดังกล่าวนี้อาจใช้เวลาสามวันทำการ
มากไปกว่านั้น คือ ทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า บริการชำระเงินแบบ Peer-to-Peer นี้จะไม่มีค่าธรรมเนียมด้วย ขณะที่บริการของแอปในลักษณะเดียวกันอย่าง Venmo นั้นมีการคิดค่าธรรมเนียมที่ 3 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าเงิน และเลือกหักจากบัตรเครดิตแทนที่จะเป็นบัตรเดบิตแบบเฟซบุ๊ก
ที่ผ่านมา แอป Messenger ของเฟซบุ๊กได้ถูกจับตามองในฐานะแอปที่มีศักยภาพ และหัวใจหลักของแอปดังกล่าวก็คือบริการชำระเงินนั่นเอง
โดยทางธนาคาร Deutsche ได้คาดการณ์ว่า บริการทางการเงินบน Messenger และ WhatsApp (ที่สามารถทำเงินได้ประมาณ 49 ล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้) ในปี ค.ศ.2020 จะทำเงินได้ 4.224-4.827 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074161&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+2-7-58&utm_campaign=20150701_m126419673_Manager+Morning+Brief+2-7-58&utm_term=_E0_B9_82_E0_B8_AD_E0_B8_99_E0_B9_80_E0_B8_87_E0_B8_B4_E0_B8_99_E0_B8_9C_E0_B9_88_E0_B8_B2_E0_B8_99+Messenger+_E0_B9_83_E0_B8_8A_E0_B9_89_E0_B9_84_E0_B8_94_E0_B9_89_E0_B8_97_E0_B8_B1_E0_B9_88_E0_B8_A7_E0_B8_AA_E0_B8_AB_E0_B8_A3_E0_B8_B1_E0_B8_90_E0_B8_AD_
ไม่มีความคิดเห็น: