18 พฤษภาคม 2558 (บทความ) มหัศจรรย์ Xiaomi ในอินเดีย // Mi 3 เทียบกับยี่ห้อที่รู้จักอื่น ๆ ในระดับสเป็กเครื่องที่ใกล้เคียงกัน ราคาถูกกว่าเกือบ 1 ใน 3 ขณะที่การออกแบบหรือรูปลักษณ์ภายนอกของเซี่ยวมี่ทำออกมาได้น่าประทับใจ
ประเด็นหลัก
คำตอบที่ชัดเจนประการหนึ่งอยู่ที่ราคา Mi 3 เทียบกับยี่ห้อที่รู้จักอื่น ๆ ในระดับสเป็กเครื่องที่ใกล้เคียงกัน ราคาถูกกว่าเกือบ 1 ใน 3 ขณะที่การออกแบบหรือรูปลักษณ์ภายนอกของเซี่ยวมี่ทำออกมาได้น่าประทับใจ แม้แต่ในเมืองไทยก็เป็นที่ยอมรับกันในเรื่องนี้
___________________________________
มหัศจรรย์ Xiaomi ในอินเดีย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คอลัมน์ IT.Talentz โดย siripong@kidtalentz.com
"เซี่ยวมี่" บริษัทจากสาธารณรัฐประชาชนจีนใช้เวลาเพียง 5 ปี ผงาดขึ้นมาสู่ระดับโลกในตลาดสมาร์ทโฟน แม้จะมีข้อครหากันอยู่ในเรื่องการลอกเลียนผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล แต่ความสำเร็จของเซี่ยวมี่เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ในเมืองไทยเราก็รู้จักกันดีจนน่าประหลาดใจแม้จะเป็นผู้มาทีหลัง ในอินเดียซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่มโหฬารเพราะมีประชากรมาก และมีช่องว่างให้เข้าไปเล่นได้เยอะ เซี่ยวมี่เข้าไปเปิดตลาดด้วย Mi 3 เพียง 3 ไตรมาสขึ้นแท่นอันดับ 5 ของผู้ค้าสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย และอินเดียกลายเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของเซี่ยวมี่ในชั่วข้ามคืน
ทั้งๆ ที่ช่องทางการขายของเซี่ยวมี่แตกต่างไปจากรายอื่นของโลกคือ ขายผ่านร้านออนไลน์เท่านั้น และทั้ง ๆ ที่ประชากรอินเดียเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ความสำเร็จของเซี่ยวมี่ในอินเดียจึงค่อนข้างน่าสนใจ ทันทีที่เริ่มเปิดตลาด Mi 3 ก็ขายแทบไม่ทัน ขณะที่ Redmi 1S และ Redmi Note ที่เปิดตัวตามมาก็ก้าวตามรอยไปในแนวเดียวกัน
ยี่ห้อที่เกือบไม่มีใครรู้จักเข้าไปประสบความสำเร็จแบบชั่วข้ามคืนในอินเดียได้อย่างไรโดยที่แม้แต่งบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้จ่ายออกไปเหมือนเช่นผู้ผลิตรายใหญ่อื่นๆ แถมยังไม่มีวางขายตามช่องทางการค้าปลีกนอกจากการขายผ่านร้านออนไลน์
คำตอบที่ชัดเจนประการหนึ่งอยู่ที่ราคา Mi 3 เทียบกับยี่ห้อที่รู้จักอื่น ๆ ในระดับสเป็กเครื่องที่ใกล้เคียงกัน ราคาถูกกว่าเกือบ 1 ใน 3 ขณะที่การออกแบบหรือรูปลักษณ์ภายนอกของเซี่ยวมี่ทำออกมาได้น่าประทับใจ แม้แต่ในเมืองไทยก็เป็นที่ยอมรับกันในเรื่องนี้
การเลือกจับมือกับ Flipkart ซึ่งเปรียบเสมือน "อเมซอน" แห่งอินเดีย ยิ่งทำให้เซี่ยวมี่ได้รับการรับรองโดยไม่ต้องลงทุนทุ่มเทเงินทองไปกับการตลาดหรือโฆษณาเพราะ Flipkart ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอินเดียสูงอยู่แล้ว ต่างจากหัวเว่ยซึ่งเข้าไปในอินเดียที่ต้องใช้งบประมาณในการเอาดาราคนดังมาช่วยชูภาพลักษณ์สินค้า
นอกจากนั้น การเป็นพันธมิตรกับ Tata ธุรกิจยักษ์ใหญ่ข้ามชาติของอินเดียทำให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางโดยไม่ต้องโฆษณา
ที่จริงก่อนหน้าเซี่ยวมี่จะเข้าไปในอินเดียไม่กี่เดือน"โมโตโรล่า"ก็ประสบความสำเร็จกับการทดลองทำตลาดผ่านร้านค้าออนไลน์อย่างเดียว ที่ร่วมกับฟลิปการ์ดกับสมาร์ทโฟน 3 รุ่น คือ Moto X, Moto G, และ Moto E
ราคาเมื่อเทียบกับสเป็กคือความคุ้มค่าที่ทำให้คนอินเดียวิ่งเข้าใส่
"เซี่ยวมี่" เปิดขาย Mi 4 เดือนมกราคมที่ผ่านมา จากงานแถลงเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันมานี้ ทำให้เรารู้ว่าเซี่ยวมี่ให้ความสำคัญกับตลาดอินเดียแค่ไหน เพราะเป็นงานเปิดตัวนอกจีนครั้งแรกของบริษัท แต่ยอดขายไปได้ดีเฉพาะสัปดาห์แรก และก็ชะลอตัว ไม่มีปรากฏการณ์แบบ Mi 3 ส่วนหนึ่งเชื่อว่าราคาเป็นตัวชี้ขาด Mi 4 แพงกว่า Mi 3 เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์
การต่อยอดความสำเร็จเก่าด้วยราคาที่สูงขึ้นอาจตามมาด้วยกำไรที่สูงขึ้นแลกกับยอดขายไม่เท่าเก่าของเซี่ยวมี่จะไปถึงจุดตัดที่คุ้มค่าหรือไม่คงต้องรออีกระยะหลังจากงานเปิดตัวที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1430972055
คำตอบที่ชัดเจนประการหนึ่งอยู่ที่ราคา Mi 3 เทียบกับยี่ห้อที่รู้จักอื่น ๆ ในระดับสเป็กเครื่องที่ใกล้เคียงกัน ราคาถูกกว่าเกือบ 1 ใน 3 ขณะที่การออกแบบหรือรูปลักษณ์ภายนอกของเซี่ยวมี่ทำออกมาได้น่าประทับใจ แม้แต่ในเมืองไทยก็เป็นที่ยอมรับกันในเรื่องนี้
___________________________________
มหัศจรรย์ Xiaomi ในอินเดีย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คอลัมน์ IT.Talentz โดย siripong@kidtalentz.com
"เซี่ยวมี่" บริษัทจากสาธารณรัฐประชาชนจีนใช้เวลาเพียง 5 ปี ผงาดขึ้นมาสู่ระดับโลกในตลาดสมาร์ทโฟน แม้จะมีข้อครหากันอยู่ในเรื่องการลอกเลียนผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล แต่ความสำเร็จของเซี่ยวมี่เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ในเมืองไทยเราก็รู้จักกันดีจนน่าประหลาดใจแม้จะเป็นผู้มาทีหลัง ในอินเดียซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่มโหฬารเพราะมีประชากรมาก และมีช่องว่างให้เข้าไปเล่นได้เยอะ เซี่ยวมี่เข้าไปเปิดตลาดด้วย Mi 3 เพียง 3 ไตรมาสขึ้นแท่นอันดับ 5 ของผู้ค้าสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย และอินเดียกลายเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของเซี่ยวมี่ในชั่วข้ามคืน
ทั้งๆ ที่ช่องทางการขายของเซี่ยวมี่แตกต่างไปจากรายอื่นของโลกคือ ขายผ่านร้านออนไลน์เท่านั้น และทั้ง ๆ ที่ประชากรอินเดียเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ความสำเร็จของเซี่ยวมี่ในอินเดียจึงค่อนข้างน่าสนใจ ทันทีที่เริ่มเปิดตลาด Mi 3 ก็ขายแทบไม่ทัน ขณะที่ Redmi 1S และ Redmi Note ที่เปิดตัวตามมาก็ก้าวตามรอยไปในแนวเดียวกัน
ยี่ห้อที่เกือบไม่มีใครรู้จักเข้าไปประสบความสำเร็จแบบชั่วข้ามคืนในอินเดียได้อย่างไรโดยที่แม้แต่งบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้จ่ายออกไปเหมือนเช่นผู้ผลิตรายใหญ่อื่นๆ แถมยังไม่มีวางขายตามช่องทางการค้าปลีกนอกจากการขายผ่านร้านออนไลน์
คำตอบที่ชัดเจนประการหนึ่งอยู่ที่ราคา Mi 3 เทียบกับยี่ห้อที่รู้จักอื่น ๆ ในระดับสเป็กเครื่องที่ใกล้เคียงกัน ราคาถูกกว่าเกือบ 1 ใน 3 ขณะที่การออกแบบหรือรูปลักษณ์ภายนอกของเซี่ยวมี่ทำออกมาได้น่าประทับใจ แม้แต่ในเมืองไทยก็เป็นที่ยอมรับกันในเรื่องนี้
การเลือกจับมือกับ Flipkart ซึ่งเปรียบเสมือน "อเมซอน" แห่งอินเดีย ยิ่งทำให้เซี่ยวมี่ได้รับการรับรองโดยไม่ต้องลงทุนทุ่มเทเงินทองไปกับการตลาดหรือโฆษณาเพราะ Flipkart ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอินเดียสูงอยู่แล้ว ต่างจากหัวเว่ยซึ่งเข้าไปในอินเดียที่ต้องใช้งบประมาณในการเอาดาราคนดังมาช่วยชูภาพลักษณ์สินค้า
นอกจากนั้น การเป็นพันธมิตรกับ Tata ธุรกิจยักษ์ใหญ่ข้ามชาติของอินเดียทำให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางโดยไม่ต้องโฆษณา
ที่จริงก่อนหน้าเซี่ยวมี่จะเข้าไปในอินเดียไม่กี่เดือน"โมโตโรล่า"ก็ประสบความสำเร็จกับการทดลองทำตลาดผ่านร้านค้าออนไลน์อย่างเดียว ที่ร่วมกับฟลิปการ์ดกับสมาร์ทโฟน 3 รุ่น คือ Moto X, Moto G, และ Moto E
ราคาเมื่อเทียบกับสเป็กคือความคุ้มค่าที่ทำให้คนอินเดียวิ่งเข้าใส่
"เซี่ยวมี่" เปิดขาย Mi 4 เดือนมกราคมที่ผ่านมา จากงานแถลงเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันมานี้ ทำให้เรารู้ว่าเซี่ยวมี่ให้ความสำคัญกับตลาดอินเดียแค่ไหน เพราะเป็นงานเปิดตัวนอกจีนครั้งแรกของบริษัท แต่ยอดขายไปได้ดีเฉพาะสัปดาห์แรก และก็ชะลอตัว ไม่มีปรากฏการณ์แบบ Mi 3 ส่วนหนึ่งเชื่อว่าราคาเป็นตัวชี้ขาด Mi 4 แพงกว่า Mi 3 เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์
การต่อยอดความสำเร็จเก่าด้วยราคาที่สูงขึ้นอาจตามมาด้วยกำไรที่สูงขึ้นแลกกับยอดขายไม่เท่าเก่าของเซี่ยวมี่จะไปถึงจุดตัดที่คุ้มค่าหรือไม่คงต้องรออีกระยะหลังจากงานเปิดตัวที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1430972055
ไม่มีความคิดเห็น: