18 พฤษภาคม 2558 เลาขาธิการ กสทช.ฐากร ชี้ ทุกดัชนีของประเทศไทยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน อยู่ในอันดับ 67 จาก 143 ประเทศ
ประเด็นหลัก
ในภาพรวมทุกดัชนีของประเทศไทยอยู่ในอันดับ 67 จาก 143 ประเทศ ได้ขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเป็นรองแค่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ทั้งนี้ ตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ การจัดสรรทรัพยากรโทรคมนาคมทั้งคลื่นความถี่และเลขหมาย การส่งเสริมให้มีบริการอย่างทั่วถึงและครอบคลุม การกำกับดูแลทางด้านอัตราค่าบริการ และกำกับดูแลด้านการแข่งขันเพื่อมิให้กระทบสิทธิและการใช้บริการนั้น ได้แก่ จำนวนผู้ใช้งานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร 100 คน ดีขึ้นจากอันดับที่ 132 เมื่อปี 2557 มาเป็นอันดับที่ 42 ในปี 2558 หรือขยับสูงขึ้นถึง 90 อันดับ และสอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร 100 คน ที่เดิมอยู่ที่อันดับ 38 ในปี 2557 มาอยู่ในอันดับ 35 ในปีนี้ นอกจากนี้ ในรายงานประเมินความพร้อมด้านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีความครอบคลุมจำนวนประชากรทั่วประเทศ และประเมินว่าราคาค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน ดีขึ้นจากอันดับที่ 30 ในปี 2557 มาอยู่ที่อันดับ 16 ในปี 2558 หรือความสามารถในการซื้อของประชาชนมีสูงขึ้น ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่กสทช. มีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz และประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่สากล หรือที่รู้จักทั่วไปในระบบ 3G/4G เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา“
_____________________________________________________
ไทยมีความพร้อมด้านไอซีทีเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน | เดลินิวส์
„ไทยมีความพร้อมด้านไอซีทีเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน เป็นรองแค่สิงคโปร์และมาเลเซีย วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:00 น. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า World Economic Forum (WEF) และ INSEAD ได้รายงานผลการจัดอันดับความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประเทศต่างๆ ทั่วโลก (The Global Information Technology Report 2015) ในภาพรวมทุกดัชนี ของ ในช่วงปลายเดือน เมษายน 2558 ที่ผ่านมา พบว่า ภาพรวมของประเทศไทยดีขึ้นในเกือบทุกด้าน โดยอันดับความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประเทศต่างๆ ทั่วโลก (The Global Information Technology Report 2015) ในภาพรวมทุกดัชนีของประเทศไทยอยู่ในอันดับ 67 จาก 143 ประเทศ ได้ขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเป็นรองแค่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ทั้งนี้ ตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ การจัดสรรทรัพยากรโทรคมนาคมทั้งคลื่นความถี่และเลขหมาย การส่งเสริมให้มีบริการอย่างทั่วถึงและครอบคลุม การกำกับดูแลทางด้านอัตราค่าบริการ และกำกับดูแลด้านการแข่งขันเพื่อมิให้กระทบสิทธิและการใช้บริการนั้น ได้แก่ จำนวนผู้ใช้งานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร 100 คน ดีขึ้นจากอันดับที่ 132 เมื่อปี 2557 มาเป็นอันดับที่ 42 ในปี 2558 หรือขยับสูงขึ้นถึง 90 อันดับ และสอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร 100 คน ที่เดิมอยู่ที่อันดับ 38 ในปี 2557 มาอยู่ในอันดับ 35 ในปีนี้ นอกจากนี้ ในรายงานประเมินความพร้อมด้านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีความครอบคลุมจำนวนประชากรทั่วประเทศ และประเมินว่าราคาค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน ดีขึ้นจากอันดับที่ 30 ในปี 2557 มาอยู่ที่อันดับ 16 ในปี 2558 หรือความสามารถในการซื้อของประชาชนมีสูงขึ้น ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่กสทช. มีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz และประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่สากล หรือที่รู้จักทั่วไปในระบบ 3G/4G เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/it/321402
http://www.dailynews.co.th/it/321402
ในภาพรวมทุกดัชนีของประเทศไทยอยู่ในอันดับ 67 จาก 143 ประเทศ ได้ขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเป็นรองแค่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ทั้งนี้ ตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ การจัดสรรทรัพยากรโทรคมนาคมทั้งคลื่นความถี่และเลขหมาย การส่งเสริมให้มีบริการอย่างทั่วถึงและครอบคลุม การกำกับดูแลทางด้านอัตราค่าบริการ และกำกับดูแลด้านการแข่งขันเพื่อมิให้กระทบสิทธิและการใช้บริการนั้น ได้แก่ จำนวนผู้ใช้งานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร 100 คน ดีขึ้นจากอันดับที่ 132 เมื่อปี 2557 มาเป็นอันดับที่ 42 ในปี 2558 หรือขยับสูงขึ้นถึง 90 อันดับ และสอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร 100 คน ที่เดิมอยู่ที่อันดับ 38 ในปี 2557 มาอยู่ในอันดับ 35 ในปีนี้ นอกจากนี้ ในรายงานประเมินความพร้อมด้านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีความครอบคลุมจำนวนประชากรทั่วประเทศ และประเมินว่าราคาค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน ดีขึ้นจากอันดับที่ 30 ในปี 2557 มาอยู่ที่อันดับ 16 ในปี 2558 หรือความสามารถในการซื้อของประชาชนมีสูงขึ้น ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่กสทช. มีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz และประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่สากล หรือที่รู้จักทั่วไปในระบบ 3G/4G เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา“
_____________________________________________________
ไทยมีความพร้อมด้านไอซีทีเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน | เดลินิวส์
„ไทยมีความพร้อมด้านไอซีทีเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน เป็นรองแค่สิงคโปร์และมาเลเซีย วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:00 น. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า World Economic Forum (WEF) และ INSEAD ได้รายงานผลการจัดอันดับความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประเทศต่างๆ ทั่วโลก (The Global Information Technology Report 2015) ในภาพรวมทุกดัชนี ของ ในช่วงปลายเดือน เมษายน 2558 ที่ผ่านมา พบว่า ภาพรวมของประเทศไทยดีขึ้นในเกือบทุกด้าน โดยอันดับความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประเทศต่างๆ ทั่วโลก (The Global Information Technology Report 2015) ในภาพรวมทุกดัชนีของประเทศไทยอยู่ในอันดับ 67 จาก 143 ประเทศ ได้ขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเป็นรองแค่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ทั้งนี้ ตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ การจัดสรรทรัพยากรโทรคมนาคมทั้งคลื่นความถี่และเลขหมาย การส่งเสริมให้มีบริการอย่างทั่วถึงและครอบคลุม การกำกับดูแลทางด้านอัตราค่าบริการ และกำกับดูแลด้านการแข่งขันเพื่อมิให้กระทบสิทธิและการใช้บริการนั้น ได้แก่ จำนวนผู้ใช้งานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร 100 คน ดีขึ้นจากอันดับที่ 132 เมื่อปี 2557 มาเป็นอันดับที่ 42 ในปี 2558 หรือขยับสูงขึ้นถึง 90 อันดับ และสอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร 100 คน ที่เดิมอยู่ที่อันดับ 38 ในปี 2557 มาอยู่ในอันดับ 35 ในปีนี้ นอกจากนี้ ในรายงานประเมินความพร้อมด้านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีความครอบคลุมจำนวนประชากรทั่วประเทศ และประเมินว่าราคาค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน ดีขึ้นจากอันดับที่ 30 ในปี 2557 มาอยู่ที่อันดับ 16 ในปี 2558 หรือความสามารถในการซื้อของประชาชนมีสูงขึ้น ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่กสทช. มีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz และประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่สากล หรือที่รู้จักทั่วไปในระบบ 3G/4G เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/it/321402
http://www.dailynews.co.th/it/321402
ไม่มีความคิดเห็น: