04 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (Tel Aviv University) อิสราเอล พัฒนาเทคโนโลยีไฮเปอร์สเปกทรัลอิมเมจจิ้ง (Hyperspectral Imaging) ใช้แสงสเปกตร้าในการสแกนวัตถุ
ประเด็นหลัก
ไปไกลอีกขั้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (Tel Aviv University) อิสราเอล พัฒนาเทคโนโลยีไฮเปอร์สเปกทรัลอิมเมจจิ้ง (Hyperspectral Imaging) ใช้แสงสเปกตร้าในการสแกนวัตถุ และสามารถระบุได้ว่า วัตถุชิ้นนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
ในอดีตความสามารถนี้ทำได้แต่ต้องใช้กล้องตัวใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์ Devid Mendlovic แห่งมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ สามารถพัฒนาอุปกรณ์จนมีขนาดเล็กลง ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นกล้องดิจิตอลในสมาร์ทโฟนทั่วไปได้เลยทีเดียว
สำหรับการทำงานนั้น เมื่อใช้กล้องดังกล่าวถ่ายภาพมาได้ ระบบจะนำภาพมาเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของ Hyperspectral Signature ที่เปรียบได้กับลายนิ้วมือยืนยันเอกลักษณ์ของวัตถุนั้นๆ ก่อนจะระบุออกมาว่าภาพที่ถ่ายได้นั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
“อุปกรณ์ถ่ายภาพจะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ ซึ่งเรามีฐานข้อมูลที่ช่วยในการแยกแยะส่วนประกอบของวัตถุนั้นๆ จากภาพที่กล้องถ่ายออกมา” ศาสตราจารย์ Devid กล่าว
_____________________________________________________
อิสราเอลเจ๋ง ส่งเทคโนโลยี “Hyperspectral Imaging” ลงสมาร์ทโฟน
ไปไกลอีกขั้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (Tel Aviv University) อิสราเอล พัฒนาเทคโนโลยีไฮเปอร์สเปกทรัลอิมเมจจิ้ง (Hyperspectral Imaging) ใช้แสงสเปกตร้าในการสแกนวัตถุ และสามารถระบุได้ว่า วัตถุชิ้นนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
ในอดีตความสามารถนี้ทำได้แต่ต้องใช้กล้องตัวใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์ Devid Mendlovic แห่งมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ สามารถพัฒนาอุปกรณ์จนมีขนาดเล็กลง ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นกล้องดิจิตอลในสมาร์ทโฟนทั่วไปได้เลยทีเดียว
สำหรับการทำงานนั้น เมื่อใช้กล้องดังกล่าวถ่ายภาพมาได้ ระบบจะนำภาพมาเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของ Hyperspectral Signature ที่เปรียบได้กับลายนิ้วมือยืนยันเอกลักษณ์ของวัตถุนั้นๆ ก่อนจะระบุออกมาว่าภาพที่ถ่ายได้นั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
“อุปกรณ์ถ่ายภาพจะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ ซึ่งเรามีฐานข้อมูลที่ช่วยในการแยกแยะส่วนประกอบของวัตถุนั้นๆ จากภาพที่กล้องถ่ายออกมา” ศาสตราจารย์ Devid กล่าว
สำหรับอุปกรณ์ดังกล่าวยังอยู่ในขั้นโปรโตไทป์ โดยเป็นการพัฒนาภายใต้ชื่อ Unispectral และคาดว่าจะสำเร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งการนำไปใช้งานนั้น คาดว่าจะมีหลายอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว รวมถึงสามารถพัฒนาแอปขึ้นมาใช้งานร่วมกันได้อีกหลากหลาย ยกตัวอย่าง เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มไบโอเทคโนโลยี และกลุ่มเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย
http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000038571
ไปไกลอีกขั้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (Tel Aviv University) อิสราเอล พัฒนาเทคโนโลยีไฮเปอร์สเปกทรัลอิมเมจจิ้ง (Hyperspectral Imaging) ใช้แสงสเปกตร้าในการสแกนวัตถุ และสามารถระบุได้ว่า วัตถุชิ้นนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
ในอดีตความสามารถนี้ทำได้แต่ต้องใช้กล้องตัวใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์ Devid Mendlovic แห่งมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ สามารถพัฒนาอุปกรณ์จนมีขนาดเล็กลง ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นกล้องดิจิตอลในสมาร์ทโฟนทั่วไปได้เลยทีเดียว
สำหรับการทำงานนั้น เมื่อใช้กล้องดังกล่าวถ่ายภาพมาได้ ระบบจะนำภาพมาเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของ Hyperspectral Signature ที่เปรียบได้กับลายนิ้วมือยืนยันเอกลักษณ์ของวัตถุนั้นๆ ก่อนจะระบุออกมาว่าภาพที่ถ่ายได้นั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
“อุปกรณ์ถ่ายภาพจะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ ซึ่งเรามีฐานข้อมูลที่ช่วยในการแยกแยะส่วนประกอบของวัตถุนั้นๆ จากภาพที่กล้องถ่ายออกมา” ศาสตราจารย์ Devid กล่าว
_____________________________________________________
อิสราเอลเจ๋ง ส่งเทคโนโลยี “Hyperspectral Imaging” ลงสมาร์ทโฟน
ไปไกลอีกขั้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (Tel Aviv University) อิสราเอล พัฒนาเทคโนโลยีไฮเปอร์สเปกทรัลอิมเมจจิ้ง (Hyperspectral Imaging) ใช้แสงสเปกตร้าในการสแกนวัตถุ และสามารถระบุได้ว่า วัตถุชิ้นนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
ในอดีตความสามารถนี้ทำได้แต่ต้องใช้กล้องตัวใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์ Devid Mendlovic แห่งมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ สามารถพัฒนาอุปกรณ์จนมีขนาดเล็กลง ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นกล้องดิจิตอลในสมาร์ทโฟนทั่วไปได้เลยทีเดียว
สำหรับการทำงานนั้น เมื่อใช้กล้องดังกล่าวถ่ายภาพมาได้ ระบบจะนำภาพมาเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของ Hyperspectral Signature ที่เปรียบได้กับลายนิ้วมือยืนยันเอกลักษณ์ของวัตถุนั้นๆ ก่อนจะระบุออกมาว่าภาพที่ถ่ายได้นั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
“อุปกรณ์ถ่ายภาพจะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ ซึ่งเรามีฐานข้อมูลที่ช่วยในการแยกแยะส่วนประกอบของวัตถุนั้นๆ จากภาพที่กล้องถ่ายออกมา” ศาสตราจารย์ Devid กล่าว
สำหรับอุปกรณ์ดังกล่าวยังอยู่ในขั้นโปรโตไทป์ โดยเป็นการพัฒนาภายใต้ชื่อ Unispectral และคาดว่าจะสำเร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งการนำไปใช้งานนั้น คาดว่าจะมีหลายอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว รวมถึงสามารถพัฒนาแอปขึ้นมาใช้งานร่วมกันได้อีกหลากหลาย ยกตัวอย่าง เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มไบโอเทคโนโลยี และกลุ่มเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย
http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000038571
ไม่มีความคิดเห็น: