Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 มีนาคม 2558 (บทความ) หมุนตามทุน : เริ่มเห็นเงา...ตัวเป้ง...ยื้อ4G... // พฤติกรรมการดำเนินงานของรัฐที่แสดงออกมา หลายฝ่าย เริ่มจะไม่มั่นใจประชาชนคนไทยจะได้เห็นการประมูล 4 จี เกิดขึ้นในปีนี้

ประเด็นหลัก


 อยู่เช่นนี้...แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. จะออกมายืนยัน ประเทศไทยจะมีการประมูลมือถือ 4G ในปี 2558 นี้ อย่างแน่นอน แต่เมื่อดูพฤติกรรมการดำเนินงานของรัฐที่แสดงออกมา หลายฝ่าย เริ่มจะไม่มั่นใจประชาชนคนไทยจะได้เห็นการประมูล 4 จี เกิดขึ้นในปีนี้หรือไม่...ยิ่งเมื่อ


_____________________________________________________













หมุนตามทุน : เริ่มเห็นเงา...ตัวเป้ง...ยื้อ4จี...



nn ตอนนี้สังคมเริ่มเกิดคำถาม...นโยบาย “เศรษฐกิจดิจิตอล” ที่รัฐบาล คสช.ป่าวประกาศจะให้เป็น “วาระแห่งชาติ” ที่จะให้ประชาชนในทุกภาคส่วนโดยเฉพาะ “เอสเอ็มอี” ได้เข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ และอินเตอร์เนต บรอดแบนด์ราคาถูก...มันยังไงกันแน่...หลายเรื่องมันสวนทางกับนโยบายของรัฐ...หลายคนก็บ่นเพราะนโยบายดังกล่าวจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากโครงสร้างพื้นฐานด้านสื่อสารโทรคมนาคมไทยยังคง “ล้าหลัง” อยู่เช่นนี้...แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. จะออกมายืนยัน ประเทศไทยจะมีการประมูลมือถือ 4G ในปี 2558 นี้ อย่างแน่นอน แต่เมื่อดูพฤติกรรมการดำเนินงานของรัฐที่แสดงออกมา หลายฝ่าย เริ่มจะไม่มั่นใจประชาชนคนไทยจะได้เห็นการประมูล 4 จี เกิดขึ้นในปีนี้หรือไม่...ยิ่งเมื่อ “หม่อมอุ๋ย” แบไต๋ก่อนหน้า ต้องรอให้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ที่นัยว่าจะเป็นผู้ที่จะพิจารณาวางนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลของประเทศ และกำหนดให้กสทช. ต้องส่งแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ 4 จี ที่ว่ามาให้คณะกรรมการพิจารณาก่อนยิ่งเพิ่ม น้ำหนักให้เส้นทางประมูล 4 จีของประเทศไทยส่อจะทอดยาวออกไปไม่มีกำหนด...ล่าสุด กลุ่มทุนที่อยู่หลังฉากความพยายามยื้อการประมูล 4 จี เริ่ม...ออกอาการให้เห็น...ถึงขั้นร้องแรกแหกกระเชอว่า หากรัฐบาลปล่อยให้กสทช.เปิดประมูล 4 จีบนคลื่น 1800 หรือ 900 MHz ไปในวันนี้ คงไม่พ้น เงื้อมมือของ 3 ค่ายสื่อสารเจ้าของสัมปทานเดิมคือ AIS DTAC และ True ขณะที่หน่วยงานของรัฐ คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และกสท โทรคมนาคม หรือ CAT ที่เป็นเจ้าของสัมปทานที่แท้จริงคงได้แต่นั่งทำตาปริบๆ เพราะไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ คงได้แต่กอดเสาและอุปกรณ์เครือข่ายโทรคมนาคมที่ได้รับโอนมา…พร้อมเรียกร้องให้รัฐโอนคลื่นความถี่ 4 จี ดังกล่าวให้สองหน่วยงานรัฐวิสาหกิจโดยตรง เพื่อที่ทั้งสอง หน่วยงานจะได้ดูแลลูกค้าเก่าทั้ง 2 จี และ 3 จีต่อไปและหากรัฐต้องการประมูลคลื่น 4 จี จริงก็ควรไปเอาคลื่น 2600 MHz ที่ อสมท ถือครองอยู่ที่นัยว่ามีอยู่กว่า 120 เมก (MG) มาประมูลแทน จะเหมาะสมสอดคล้องกับนานาประเทศมากกว่า...หากพิจารณาอย่างผิวเผินทุกฝ่ายคงจะเออออห่อหมกไปกับข้อเรียกร้องข้างต้นแน่ แต่หากย้อนไปพิจารณาบทเรียนในอดีตที่สองหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ “ทีโอที-แคท” ที่เคยได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ที่สามารถจะนำไปให้บริการมือถือ 3 จีได้ก่อนใครโดยไม่ต้องจ่ายค่าต๋งใดๆ ให้แก่รัฐแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้งสองหน่วยงานกลับไม่ได้นำเอาคลื่นความถี่เหล่านี้ไปใช้อย่างคุ้มค่าแต่อย่างใด...ทั้งในส่วนของคลื่นความถี่ 1900 MHz ที่สองหน่วยงานรัฐวิสาหกิจร่วมลงขันจัดตั้งบริษัท ACT Mobile เพื่อร่วมกันให้บริการมือถือ 1900 MHz ซึ่งก็เจ๊งไม่เป็นท่าลูกค้ามีถึง 1,000 ราย หรือไม่วันนี้ ขณะที่คลื่นความถี่ 2100 MHz ที่ทีโอทีได้รับจัดสรรมาให้บริการ 3G ด้วยตนเองก็จอดไม่เป็นท่า การลงทุนขยายโครงข่ายเป็นไปด้วยความล่าช้ามีพื้นที่ให้บริการที่จำกัด แม้จะเปิดให้บริการ 3G ก่อนใครแต่กลับมีผู้ใช้บริการเรือนหมื่นเท่านั้น...ฟากฝั่ง กสท นั้นนำคลื่นความถี่ 850 MHz ดอดไป “เซ็งลี้” ให้พันธมิตรฮุบเอาคลื่นไปให้บริการ 3 จีต่อ และแม้จะสามารถสร้างโครงข่าย 3G และเปิดให้บริการทั่วประเทศแซงหน้าทีโอที แต่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่กลับตกแก่บริษัทเอกชนที่สามารถให้บริการ 3G โดยไม่ต้องประมูล...ขณะที่สถานะของสองรัฐวิสาหกิจนั้น วันนี้ยังคงอยู่ในสภาพหืดจับต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการขนานใหญ่ตามคำสั่งของ “ซูเปอร์บอร์ด” รัฐวิสาหกิจ จะออกหมู่หรือจ่ายังต้องลุ้นอีกหลายเฮือก! และในสภาพ “หืดจับ” แบบนี้...หากจะต้องลงทุนเครือข่าย 4 จีนี้อีก 30,000-40,000 ล้าน ในอนาคต 1-2 ปีข้างหน้า...พร้อมหาเม็ดเงินทุนหรือไม่...จะบากหน้าไปขอกู้จากสถาบันการเงินที่ไหน...ใครเขาจะกล้าให้กู้ไหม...หรือคิดจะบากหน้าไปของบลงทุนจากกระทรวงการคลังอีก...เห็นจากผลงานในอดีตของพี่แกทั้ง 2 หน่วยนี้แล้ว...ก็ให้ขนหัวลุก...จะเอาภาษีไปละลายน้ำทิ้งหรือเปล่าล่ะเนี่ย...nn

http://www.naewna.com/business/148567

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.