08 มีนาคม 2558 ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ชี้ สำนักข่าวอิศราหยุดนำเสนอเอกสารจากศาลที่เลื่อนลอย ไม่เป็นทางการหรือไม่ระบุที่มาของเอกสารเผยแพร่ต่อสาธารณชน
ประเด็นหลัก
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (กศ.ป.) ของสำนักข่าวอิศราตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ตามกฎหมายของ กศ.ป. เนื่องจากมีการนำข้อมูลลับที่ยังอยู่ในกระบวนการของทางราชการมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ อีกทั้งมีการเปิดรายชื่อและผลการลงคะแนนของคณะกรรมการ กศ.ป. จนได้รับความกดดันจากการวิพากษ์วิจารณ์โดยสาธารณะ ทำให้สูญเสียความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ ซึ่งขัดต่อหลักความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นหลักประกันความเป็นธรรมที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ด้วย นอกจากนี้สำนักข่าวอิศรายังทำการเผยแพร่วาระการประชุม กศ.ป.โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายกระทำการผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
“การเผยแพร่ข่าวที่ผ่านมา ทางสำรักข่าวอิศราจะอ้างเพียงว่ามาจากแหล่งข่าวที่ไม่สามารถระบุที่มาอย่างชัดเจนหรือเป็นทางการได้ จึงเป็นการนำข้อมูลข่าวสารที่ยังมีความเลื่อนลอย ไม่เป็นทางการ หรือไม่มีความน่าเชื่อถือมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ประกอบกับข่าวที่สำนักข่าวอิศราเผยแพร่มักมีการนำเสนอความเห็นประกอบการนำเสนอข่าวอยู่เสมอ” หนังสือ ระบุ
_____________________________________________________
'เลขาฯศาลปค.'โร่เตือน'อิศรา' เปิดเอกสารราชการลั่นผิดกม.
7 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้มีหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักข่าวอิศรา เพื่อขอความร่วมมือในการเสนอข่าวโดยยึดหลักกฎหมายและจริยธรรมสื่อสารมวลชน สืบเนื่องจากเสนอข่าวเกี่ยวกับกิจการภายในของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครองอย่างไม่เหมาะสมหลายเรื่อง อาทิ ข่าว ก.ศป.ลงมติ 9 ต่อ 2 ตั้งกรรมการสอบ “หัสวุฒิ” คดี จม.น้อย ชี้ชะตาพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 ก.พ.58 และข่าว “จม.เปิดผนึก” ถึง กศป.เรียกร้อง “หัสวุฒิ” เสียสละหยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.58 เป็นต้น
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (กศ.ป.) ของสำนักข่าวอิศราตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ตามกฎหมายของ กศ.ป. เนื่องจากมีการนำข้อมูลลับที่ยังอยู่ในกระบวนการของทางราชการมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ อีกทั้งมีการเปิดรายชื่อและผลการลงคะแนนของคณะกรรมการ กศ.ป. จนได้รับความกดดันจากการวิพากษ์วิจารณ์โดยสาธารณะ ทำให้สูญเสียความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ ซึ่งขัดต่อหลักความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นหลักประกันความเป็นธรรมที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ด้วย นอกจากนี้สำนักข่าวอิศรายังทำการเผยแพร่วาระการประชุม กศ.ป.โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายกระทำการผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
“การเผยแพร่ข่าวที่ผ่านมา ทางสำรักข่าวอิศราจะอ้างเพียงว่ามาจากแหล่งข่าวที่ไม่สามารถระบุที่มาอย่างชัดเจนหรือเป็นทางการได้ จึงเป็นการนำข้อมูลข่าวสารที่ยังมีความเลื่อนลอย ไม่เป็นทางการ หรือไม่มีความน่าเชื่อถือมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ประกอบกับข่าวที่สำนักข่าวอิศราเผยแพร่มักมีการนำเสนอความเห็นประกอบการนำเสนอข่าวอยู่เสมอ” หนังสือ ระบุ
ในช่วงท้ายของหนังสือระบุด้วยว่า พิจารณาเห็นแล้วว่า การกระทำของสำนักข่าวอิศราขัดต่อหลักจริยธรรมสื่อสารมวลชนหลายประการ อีกทั้งยังอาจเข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและแพ่ง จึงขอความร่วมมือสำนักข่าวอิศราพิจารณานำเสนอข่าวโดยยึกหลักกฎหมายและจริยธรรมของสื่อมวลชน
http://www.naewna.com/business/148070
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (กศ.ป.) ของสำนักข่าวอิศราตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ตามกฎหมายของ กศ.ป. เนื่องจากมีการนำข้อมูลลับที่ยังอยู่ในกระบวนการของทางราชการมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ อีกทั้งมีการเปิดรายชื่อและผลการลงคะแนนของคณะกรรมการ กศ.ป. จนได้รับความกดดันจากการวิพากษ์วิจารณ์โดยสาธารณะ ทำให้สูญเสียความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ ซึ่งขัดต่อหลักความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นหลักประกันความเป็นธรรมที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ด้วย นอกจากนี้สำนักข่าวอิศรายังทำการเผยแพร่วาระการประชุม กศ.ป.โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายกระทำการผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
“การเผยแพร่ข่าวที่ผ่านมา ทางสำรักข่าวอิศราจะอ้างเพียงว่ามาจากแหล่งข่าวที่ไม่สามารถระบุที่มาอย่างชัดเจนหรือเป็นทางการได้ จึงเป็นการนำข้อมูลข่าวสารที่ยังมีความเลื่อนลอย ไม่เป็นทางการ หรือไม่มีความน่าเชื่อถือมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ประกอบกับข่าวที่สำนักข่าวอิศราเผยแพร่มักมีการนำเสนอความเห็นประกอบการนำเสนอข่าวอยู่เสมอ” หนังสือ ระบุ
_____________________________________________________
'เลขาฯศาลปค.'โร่เตือน'อิศรา' เปิดเอกสารราชการลั่นผิดกม.
7 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้มีหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักข่าวอิศรา เพื่อขอความร่วมมือในการเสนอข่าวโดยยึดหลักกฎหมายและจริยธรรมสื่อสารมวลชน สืบเนื่องจากเสนอข่าวเกี่ยวกับกิจการภายในของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครองอย่างไม่เหมาะสมหลายเรื่อง อาทิ ข่าว ก.ศป.ลงมติ 9 ต่อ 2 ตั้งกรรมการสอบ “หัสวุฒิ” คดี จม.น้อย ชี้ชะตาพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 ก.พ.58 และข่าว “จม.เปิดผนึก” ถึง กศป.เรียกร้อง “หัสวุฒิ” เสียสละหยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.58 เป็นต้น
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (กศ.ป.) ของสำนักข่าวอิศราตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ตามกฎหมายของ กศ.ป. เนื่องจากมีการนำข้อมูลลับที่ยังอยู่ในกระบวนการของทางราชการมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ อีกทั้งมีการเปิดรายชื่อและผลการลงคะแนนของคณะกรรมการ กศ.ป. จนได้รับความกดดันจากการวิพากษ์วิจารณ์โดยสาธารณะ ทำให้สูญเสียความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ ซึ่งขัดต่อหลักความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นหลักประกันความเป็นธรรมที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ด้วย นอกจากนี้สำนักข่าวอิศรายังทำการเผยแพร่วาระการประชุม กศ.ป.โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายกระทำการผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
“การเผยแพร่ข่าวที่ผ่านมา ทางสำรักข่าวอิศราจะอ้างเพียงว่ามาจากแหล่งข่าวที่ไม่สามารถระบุที่มาอย่างชัดเจนหรือเป็นทางการได้ จึงเป็นการนำข้อมูลข่าวสารที่ยังมีความเลื่อนลอย ไม่เป็นทางการ หรือไม่มีความน่าเชื่อถือมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ประกอบกับข่าวที่สำนักข่าวอิศราเผยแพร่มักมีการนำเสนอความเห็นประกอบการนำเสนอข่าวอยู่เสมอ” หนังสือ ระบุ
ในช่วงท้ายของหนังสือระบุด้วยว่า พิจารณาเห็นแล้วว่า การกระทำของสำนักข่าวอิศราขัดต่อหลักจริยธรรมสื่อสารมวลชนหลายประการ อีกทั้งยังอาจเข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและแพ่ง จึงขอความร่วมมือสำนักข่าวอิศราพิจารณานำเสนอข่าวโดยยึกหลักกฎหมายและจริยธรรมของสื่อมวลชน
http://www.naewna.com/business/148070
ไม่มีความคิดเห็น: