Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

06 มีนาคม 2558 Acer.ปรีชา ระบุ บริษัทแม่ให้ Acer thailand ดูแลธุรกิจในอินโดจีน (ไทย, พม่า, ลาว, กัมพูชา) ทำให้ต้องปรับปรุงระบบงานบริการ โดยพัฒนาการเชื่อมต่อข้อมูลการจำหน่ายสินค้า, อะไหล่รุ่นต่าง ๆ และการส่งสินค้า

ประเด็นหลัก



ด้านนายปรีชา ศุภปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายการบริการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายบริษัทแม่ที่ให้ไทยดูแลธุรกิจในอินโดจีน (ไทย, พม่า, ลาว, กัมพูชา) ทำให้ต้องปรับปรุงระบบงานบริการ โดยพัฒนาการเชื่อมต่อข้อมูลการจำหน่ายสินค้า, อะไหล่รุ่นต่าง ๆ และการส่งสินค้าให้ระหว่างไทยกับมาสเตอร์ดีลเลอร์ในแต่ละประเทศ เพื่อให้ส่งและซ่อมได้ใน 1 วันทำการ

ปัจจุบันในไทยมีศูนย์บริการ 470 แห่ง เพียงพอการบริการ แต่จะลงทุนฝึกอบรมเพิ่มความเชี่ยวชาญในการซ่อมรองรับคอมพิวเตอร์กว่า 2 ล้านเครื่องที่ขายไปในช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้ โดยการันตีซ่อมที่ "เอเซอร์เซอร์วิส เซ็นเตอร์" ทั้ง 11 แห่ง รับเครื่องได้ภายใน 1 วันทำการ ส่วนโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟนหากอยู่ในประกันแล้วต้องซ่อมเกิน 3 ชั่วโมงจะมีเครื่องให้ยืมใช้ก่อน

_____________________________________________________















"เลอโนโว" ทุ่ม300ล. ยึดแชร์พีซี "เอเซอร์" ปรับระบบรุกอาเซียน


"เลอโนโว" แรงจัดบริษัทแม่ไฟเขียวทุ่ม 300 ล้านบาท เปิดเกมดุยึดมาร์เก็ตแชร์ตลาดพีซี ลั่นคว้าเบอร์ 1 ภายใน 2 ปี ปูพรมสินค้าใหม่เจาะตลาดทุกเซ็กเมนต์ เริ่มต้นต่ำกว่าหมื่นบาท พร้อมเพิ่ม "อีคอมเมิร์ซ" อัพเกรดบริการหลังการขาย ลุยเปิดให้ครบ 77 จังหวัด มั่นใจกำลังซื้อเริ่มฟื้น ฟาก "เอเซอร์" ปรับระบบงานบริการเชื่อมโยงข้อมูลในตลาดอาเซียนยึดมาตรฐานเดียวกัน การันตีซ่อมเสร็จใน 1 วันทำการ

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโวประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายผลักดันส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็นที่ 1 ที่มากกว่า 20% ของตลาดคอมพิวเตอร์พีซีภายใน 1-2 ปี ทำให้ต้องเพิ่มยอดขายให้มากถึง 60% จากไตรมาส 3 ปี 2557 ที่มีส่วนแบ่งตลาด 12-13% จากตลาดรวม 2.4 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นโน้ตบุ๊กและเดสก์ทอปในสัดส่วนเท่ากัน เป็นรองเบอร์ 1 ไม่ถึง 10% ซึ่งถือว่าน้อยลงมากจากที่เคยทิ้งห่างเกิน 2 หลัก อาจเพราะปรับตัวไม่ทันจากสถานการณ์ตลาดรวมพีซีหดต่อเนื่อง ขณะที่เลอโนโวปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์มาตลอด และทยอยจัดโปรโมชั่นใหม่ต่อเนื่อง

"ตั้งเป้าไว้ว่าตั้งแต่ เม.ย.เป็นต้นไปต้องเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ให้ได้ 1-2% ทุกไตรมาส เพื่อทำให้ส่วนแบ่งตลาดไปถึงตามเป้า"

กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.เน้นผลิตภัณฑ์มัลติโหมด ทำงานได้หลายรูปแบบทั้งแท็บเลต, โน้ตบุ๊ก และเดสก์ทอปได้ในเครื่องเดียวกันทุกรุ่นรองรับหน้าจอทัชสกรีน ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะระดับเริ่มต้นจะมีเครื่องราคาต่ำกว่า 10,000 บาทออกมา ส่วนระดับกลาง และไฮเอนด์ไปได้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะที่ราคาสูงกว่า 7 หมื่นบาทเติบโตตลอด

2.เปิดช่องทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มยอดขาย โดยบริษัทแม่ได้ตั้ง หน่วยธุรกิจ Shen-Qi พัฒนาอีคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบคาดว่าในไทยจะเปิดได้ช่วงกลางปี เป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียน ถัดจากสิงคโปร์

"ช่องทางอีคอมเมิร์ซจะไม่ทับซ้อนกับช่องทางค้าปลีก จากเดิมที่ร่วมกับลาซาด้าเปิดช็อปอินช็อปอยู่แล้ว"

ส่วนสุดท้ายเป็นการเพิ่มจุดบริการให้ครบ 77 จังหวัด จากที่มีอยู่ 20 แห่ง เพิ่มพนักงานขาย และคู่ค้าในจังหวัดห่างไกล ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้บริษัทไม่สามารถตีตลาดในต่างจังหวัดได้ และปีนี้บริษัทได้รับการสนับสนุนงบประมาณการตลาดจากบริษัทแม่เพิ่มขึ้นถึง 50% หรือ 300 ล้านบาท

"ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง เลอโนโวเป็นเบอร์ 2 แต่ยิ่งไกลออกไปส่วนแบ่งยิ่งน้อย ต้องอุดช่องว่างนี้"

ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล Yoga รุ่นที่ 2 แบ่งเป็นโน้ตบุ๊ก Yoga 3 Pro ซีพียูคอร์เอ็ม จอ 13 นิ้ว พับหน้าจอได้ ราคา 59,900 บาท และแท็บเลต Yoga Tablet 2 จอ 8 นิ้วแอนดรอยด์ 4.4 ราคา 9,900 บาท กับ 10 นิ้ว แอนดรอยด์ 4.4 ราคา 11,900 บาท และวินโดวส์ 8.1 ราคา 14,900 บาท ทำงานบนซีพียูอินเทลอะตอม และรองรับ 4G LTE (รุ่น 8 นิ้วใช้โทรศัพท์ได้) รวมถึง Yoga Tablet 2 Pro ราคา 22,490 บาท จอ 13 นิ้ว ติดตั้ง Pico (โปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็กในเครื่อง)

นายจีรวุฒิกล่าวต่อว่า ตลาดรวมคอมพิวเตอร์ปีนี้อยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 5-10% เป็นโน้ตบุ๊ก และเดสก์ทอปเท่ากัน เนื่องจากกำลังซื้อทั้งผู้บริโภคทั่วไป และองค์กรเริ่มกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และภาครัฐอัดฉีดเงินเข้าระบบ ส่วนกระแสแท็บเลตเริ่มชะลอตัว และสมาร์ทโฟนมีราคาลดลงทำให้ไม่มาเบียดกำลังซื้อคอมพิวเตอร์ คาดว่าผลประกอบการปีนี้จะเติบโตทั้งในแง่ผลกำไร และส่วนแบ่งตลาด โดยรายได้จากไทยเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน

ด้านนายปรีชา ศุภปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายการบริการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายบริษัทแม่ที่ให้ไทยดูแลธุรกิจในอินโดจีน (ไทย, พม่า, ลาว, กัมพูชา) ทำให้ต้องปรับปรุงระบบงานบริการ โดยพัฒนาการเชื่อมต่อข้อมูลการจำหน่ายสินค้า, อะไหล่รุ่นต่าง ๆ และการส่งสินค้าให้ระหว่างไทยกับมาสเตอร์ดีลเลอร์ในแต่ละประเทศ เพื่อให้ส่งและซ่อมได้ใน 1 วันทำการ

ปัจจุบันในไทยมีศูนย์บริการ 470 แห่ง เพียงพอการบริการ แต่จะลงทุนฝึกอบรมเพิ่มความเชี่ยวชาญในการซ่อมรองรับคอมพิวเตอร์กว่า 2 ล้านเครื่องที่ขายไปในช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้ โดยการันตีซ่อมที่ "เอเซอร์เซอร์วิส เซ็นเตอร์" ทั้ง 11 แห่ง รับเครื่องได้ภายใน 1 วันทำการ ส่วนโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟนหากอยู่ในประกันแล้วต้องซ่อมเกิน 3 ชั่วโมงจะมีเครื่องให้ยืมใช้ก่อน


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1425526504

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.