11 กุมภาพันธ์ 2558 WD มั่นใจ ผู้บริโภคในประเทศไทยก็ไม่แพ้ชาติอื่น ๆ ในเรื่องการบริโภคข้อมูลจำนวนมาก!! เปิดตัวโปรดักต์รุ่นใหม่ในตระกูล MyCloud เข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้ผ่านการเชื่อมต่อโดยไวไฟ มีขนาดเริ่มต้นที่ 2 TB ราคา 4,500 บาทขึ้นไป
ประเด็นหลัก
ล่าสุดเปิดตัวโปรดักต์รุ่นใหม่ในตระกูลMyCloudเมื่อปลายปีก่อนโดยเป็นเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้ผ่านการเชื่อมต่อโดยไวไฟ มีขนาดเริ่มต้นที่ 2 TB ที่สามารถจุรูปภาพได้ 4 แสนรูป หรือไฟล์ภาพเคลื่อนไหวได้นาน 150 ชม. ราคาตั้งแต่ 4,500 บาทขึ้นไป เจาะตลาดคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลตลอดเวลา
ส่วนราคาของตระกูล Passport เริ่มต้นที่ 1,600 บาท ในรุ่นความจุ 500 GB และ 2,100 บาท ในรุ่นความจุ 1 TB
นางมาร์กาเร็ตกล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์หลักของบริษัทอยู่ และยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยฮาร์ดดิสก์ที่ผลิตในไทยจะส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก แม้ในหลายปีก่อนจะประสบภัยธรรมชาติจนทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายได้ แต่ได้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้แล้ว
_____________________________________________________
ตลาดฮาร์ดดิสก์โตรับดิจิทัลบูม WD ย้ำไทยฐานการผลิตของโลก
"WD" มั่นใจฮาร์ดดิสก์ไทยเติบโต ผู้บริโภคแห่เก็บคอนเทนต์ดิจิทัล เตรียมแผนทำตลาดผ่านอีเวนต์ตึกคอม-เทรดโชว์ต่อเนื่อง ชูโปรดักต์คลาวด์ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่ เผยไทยยังเป็นฐานหลักในการผลิตฮาร์ดดิสก์ให้ตลาดโลก
นางมาร์กาเร็ต โก๊ะ ผู้อำนวยการขายประจำภูมิภาคเอเชียใต้ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) พีทีอี จำกัด (WD) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดฮาร์ดดิสก์ในไทยเติบโตขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากผู้บริโภคในยุคปัจจุบันนิยมการดาวน์โหลดข้อมูล การสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ของตนเองทั้งจากกล้องถ่ายรูปและสมาร์ทโฟน ซึ่งมีราคาต่ำลงจนทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ส่งผลให้ปริมาณข้อมูลของผู้บริโภคแต่ละคนที่ต้องเก็บไว้มีเพิ่ม หน่วยความจำที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทดีไวซ์ที่ให้มากับเครื่องจึงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องหาแหล่งเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
"ผู้บริโภคในประเทศไทยก็ไม่แพ้ชาติอื่น ๆ ในเรื่องการบริโภคข้อมูลจำนวนมาก ก็มีการดาวน์โหลดสื่อบันเทิง รวมถึงสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงล้วนทำให้หน่วยความจำภายในเครื่องเต็มเร็วขึ้น ที่สำคัญปีนี้ประเทศไทยจะเดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัลอีโคโนมีเต็มตัว ทำให้ภาครัฐและเอกชนมีปริมาณข้อมูลมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ฮาร์ดดิสก์จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะฝั่งเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ที่ดับบลิวดีเรียกว่า Passport น่าจะจำหน่ายได้มากกว่าเดิม"
สำหรับแผนในการทำตลาดในปีนี้ยังเน้นที่การร่วมงานอีเวนต์ที่จัดภายในตึกคอมต่างๆรวมถึงร่วมงานเทรดโชว์เกี่ยวกับไอทีอย่างต่อเนื่องเพราะถือเป็นอีกวิธีเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทส่วนเทรนด์ในปีนี้ผู้บริโภคยังคงใช้งานฮาร์ดดิสก์ทั้งอินเทอร์นอล และเอ็กซ์เทอร์นอลขนาดมากกว่า 1 TB ขึ้นไป เพื่อรองรับจำนวนข้อมูลที่เพิ่มขึ้น จากก่อนหน้านี้ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 GB เป็นหลัก
นอกจากนี้ บริษัทจะมีการที่ผู้บริโภคต้องทำงานภายนอกมากขึ้น ผ่านสมาร์ทดีไวซ์แบบต่าง ๆ ทำให้การใช้งานฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเชื่อมต่อไวไฟเพื่อเข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้จะมีมากขึ้นเช่นกัน
ล่าสุดเปิดตัวโปรดักต์รุ่นใหม่ในตระกูลMyCloudเมื่อปลายปีก่อนโดยเป็นเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้ผ่านการเชื่อมต่อโดยไวไฟ มีขนาดเริ่มต้นที่ 2 TB ที่สามารถจุรูปภาพได้ 4 แสนรูป หรือไฟล์ภาพเคลื่อนไหวได้นาน 150 ชม. ราคาตั้งแต่ 4,500 บาทขึ้นไป เจาะตลาดคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลตลอดเวลา
ส่วนราคาของตระกูล Passport เริ่มต้นที่ 1,600 บาท ในรุ่นความจุ 500 GB และ 2,100 บาท ในรุ่นความจุ 1 TB
นางมาร์กาเร็ตกล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์หลักของบริษัทอยู่ และยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยฮาร์ดดิสก์ที่ผลิตในไทยจะส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก แม้ในหลายปีก่อนจะประสบภัยธรรมชาติจนทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายได้ แต่ได้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้แล้ว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423469566
ล่าสุดเปิดตัวโปรดักต์รุ่นใหม่ในตระกูลMyCloudเมื่อปลายปีก่อนโดยเป็นเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้ผ่านการเชื่อมต่อโดยไวไฟ มีขนาดเริ่มต้นที่ 2 TB ที่สามารถจุรูปภาพได้ 4 แสนรูป หรือไฟล์ภาพเคลื่อนไหวได้นาน 150 ชม. ราคาตั้งแต่ 4,500 บาทขึ้นไป เจาะตลาดคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลตลอดเวลา
ส่วนราคาของตระกูล Passport เริ่มต้นที่ 1,600 บาท ในรุ่นความจุ 500 GB และ 2,100 บาท ในรุ่นความจุ 1 TB
นางมาร์กาเร็ตกล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์หลักของบริษัทอยู่ และยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยฮาร์ดดิสก์ที่ผลิตในไทยจะส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก แม้ในหลายปีก่อนจะประสบภัยธรรมชาติจนทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายได้ แต่ได้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้แล้ว
_____________________________________________________
ตลาดฮาร์ดดิสก์โตรับดิจิทัลบูม WD ย้ำไทยฐานการผลิตของโลก
"WD" มั่นใจฮาร์ดดิสก์ไทยเติบโต ผู้บริโภคแห่เก็บคอนเทนต์ดิจิทัล เตรียมแผนทำตลาดผ่านอีเวนต์ตึกคอม-เทรดโชว์ต่อเนื่อง ชูโปรดักต์คลาวด์ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่ เผยไทยยังเป็นฐานหลักในการผลิตฮาร์ดดิสก์ให้ตลาดโลก
นางมาร์กาเร็ต โก๊ะ ผู้อำนวยการขายประจำภูมิภาคเอเชียใต้ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) พีทีอี จำกัด (WD) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดฮาร์ดดิสก์ในไทยเติบโตขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากผู้บริโภคในยุคปัจจุบันนิยมการดาวน์โหลดข้อมูล การสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ของตนเองทั้งจากกล้องถ่ายรูปและสมาร์ทโฟน ซึ่งมีราคาต่ำลงจนทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ส่งผลให้ปริมาณข้อมูลของผู้บริโภคแต่ละคนที่ต้องเก็บไว้มีเพิ่ม หน่วยความจำที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทดีไวซ์ที่ให้มากับเครื่องจึงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องหาแหล่งเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
"ผู้บริโภคในประเทศไทยก็ไม่แพ้ชาติอื่น ๆ ในเรื่องการบริโภคข้อมูลจำนวนมาก ก็มีการดาวน์โหลดสื่อบันเทิง รวมถึงสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงล้วนทำให้หน่วยความจำภายในเครื่องเต็มเร็วขึ้น ที่สำคัญปีนี้ประเทศไทยจะเดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัลอีโคโนมีเต็มตัว ทำให้ภาครัฐและเอกชนมีปริมาณข้อมูลมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ฮาร์ดดิสก์จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะฝั่งเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ที่ดับบลิวดีเรียกว่า Passport น่าจะจำหน่ายได้มากกว่าเดิม"
สำหรับแผนในการทำตลาดในปีนี้ยังเน้นที่การร่วมงานอีเวนต์ที่จัดภายในตึกคอมต่างๆรวมถึงร่วมงานเทรดโชว์เกี่ยวกับไอทีอย่างต่อเนื่องเพราะถือเป็นอีกวิธีเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทส่วนเทรนด์ในปีนี้ผู้บริโภคยังคงใช้งานฮาร์ดดิสก์ทั้งอินเทอร์นอล และเอ็กซ์เทอร์นอลขนาดมากกว่า 1 TB ขึ้นไป เพื่อรองรับจำนวนข้อมูลที่เพิ่มขึ้น จากก่อนหน้านี้ใช้ฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 GB เป็นหลัก
นอกจากนี้ บริษัทจะมีการที่ผู้บริโภคต้องทำงานภายนอกมากขึ้น ผ่านสมาร์ทดีไวซ์แบบต่าง ๆ ทำให้การใช้งานฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเชื่อมต่อไวไฟเพื่อเข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้จะมีมากขึ้นเช่นกัน
ล่าสุดเปิดตัวโปรดักต์รุ่นใหม่ในตระกูลMyCloudเมื่อปลายปีก่อนโดยเป็นเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้ผ่านการเชื่อมต่อโดยไวไฟ มีขนาดเริ่มต้นที่ 2 TB ที่สามารถจุรูปภาพได้ 4 แสนรูป หรือไฟล์ภาพเคลื่อนไหวได้นาน 150 ชม. ราคาตั้งแต่ 4,500 บาทขึ้นไป เจาะตลาดคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลตลอดเวลา
ส่วนราคาของตระกูล Passport เริ่มต้นที่ 1,600 บาท ในรุ่นความจุ 500 GB และ 2,100 บาท ในรุ่นความจุ 1 TB
นางมาร์กาเร็ตกล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์หลักของบริษัทอยู่ และยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยฮาร์ดดิสก์ที่ผลิตในไทยจะส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก แม้ในหลายปีก่อนจะประสบภัยธรรมชาติจนทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายได้ แต่ได้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้แล้ว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423469566
ไม่มีความคิดเห็น: