11 กุมภาพันธ์ 2558 Acer ระบุ รายได้ในไทยไม่เติบโต ยอดขายคอมพิวเตอร์ลดลง 7% ส่วนแบ่งการตลาดยังเป็นอันดับ 1 ที่ 28% ขณะที่สมาร์ทโฟนและแท็บเลตโตถึง 133% เพราะเพิ่งเริ่มทำตลาดและร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ มียอดขายกว่า 700,000 เครื่อง
ประเด็นหลัก
ขณะที่รายได้ของ "เอเซอร์" ในไทยปีก่อนไม่เติบโต ยอดขายคอมพิวเตอร์ลดลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2556 แม้ส่วนแบ่งการตลาดยังเป็นอันดับ 1 ที่ 28% ขณะที่สมาร์ทโฟนและแท็บเลตโตถึง 133% เพราะเพิ่งเริ่มทำตลาดและร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ผูกแพ็กเกจราคาพิเศษจนมียอดขายกว่า 700,000 เครื่อง มีส่วนแบ่งตลาด 5% ในตลาดสมาร์ทโฟน
_____________________________________________________
เอเซอร์เร่งเกมบุกรับกำลังซื้อ ดันไทยสยายปีกคุมอินโดจีน
"เอเซอร์" มั่นใจกำลังซื้อเริ่มฟื้น-ภาครัฐเดินหน้าลงทุนปลุกตลาดไอทีไทยเติบโต 10% ตั้งเป้าดันรายได้รวมโตตาม โฟกัส "โน้ตบุ๊ก" ราคาไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งเข็นสมาร์ทโฟน 10 รุ่นใหม่ลงตลาด เร่งเกมบุกกลุ่มองค์กรมองไกล 3 ปี ปั๊มรายได้แตะ 50% ของรายได้รวม
นายอลัน เจียง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีในไทยปีนี้จะกลับมาเติบโตเกือบ 10% อีกครั้ง หลังจากปีที่แล้วกำลังซื้อหาย จนทำให้ผู้ประกอบการบางรายต้องถอนตัวออกจากตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า "คอมพิวเตอร์" หดตัวกว่า 17% แต่มองว่าน่าจะเป็นปีที่ตกต่ำที่สุดแล้ว
"ปีนี้กำลังซื้อเริ่มกลับมา และยังมีการมาของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ในครึ่งปีหลัง"
ขณะที่รายได้ของ "เอเซอร์" ในไทยปีก่อนไม่เติบโต ยอดขายคอมพิวเตอร์ลดลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2556 แม้ส่วนแบ่งการตลาดยังเป็นอันดับ 1 ที่ 28% ขณะที่สมาร์ทโฟนและแท็บเลตโตถึง 133% เพราะเพิ่งเริ่มทำตลาดและร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ผูกแพ็กเกจราคาพิเศษจนมียอดขายกว่า 700,000 เครื่อง มีส่วนแบ่งตลาด 5% ในตลาดสมาร์ทโฟน
ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักจากปีก่อน มีรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กร 25% จากการลงทุนของภาครัฐที่จะเพิ่มขึ้นจากลูกค้าทั่วไป 55% (เน้นโน้ตบุ๊กราคา 10,000-15,000 บาท) และอีก 20% มาจากสมาร์ทโฟน โดยจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับล่างถึงกลาง 10 รุ่น ซึ่งนอกจากเน้นการทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์แล้ว ยังจะเพิ่มการเจาะตลาดค้าปลีกกับกลุ่มผู้ค้ารายย่อยเพิ่มเติม
"ถึงสมาร์ทดีไวซ์จะโตเร็วแค่ไหน แต่เอเซอร์ยังโฟกัสคอร์บิสซิเนสที่คอมพิวเตอร์ สินค้าอื่นคือส่วนเสริมรายได้ รวมถึงการพัฒนาระบบคลาวด์ หรือ BYOD ให้ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภครวมถึงเน้นลูกค้าองค์กรให้มากขึ้นด้วย ขณะนี้มีการใช้งานทั่วโลก 1 ล้านไอดี"
พร้อมจะผลักดันให้รายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรมีสัดส่วนที่ 50% ของรายได้รวมภายใน 3 ปี เพื่อรักษาการเติบโตในระยะยาว โดยเพิ่มความหลากหลายของสินค้ากลุ่มองค์กร เช่น นำ "โครมบุ๊ก" โน้ตบุ๊กราคาประหยัดของกูเกิลมาทำตลาดในไทยเป็นรายแรก รวมถึงเซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ, กล้องวงจรปิด เน้นขายเป็นโซลูชั่นมากขึ้น
"นอกจากจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสมาร์ทโฟนเป็น 7% แล้ว ยังจะเป็นเบอร์ 1 ในตลาดคอมพิวเตอร์เช่นเดิม โดยเฉพาะกับโน้ตบุ๊กและวินโดวส์แท็บเลต ซึ่งสิ้นปี 2257 มีส่วนแบ่งถึง 38% ส่วนเดสก์ทอปยังเป็นอันดับ 3"
โดยไทยยังเป็นศูนย์กลางในการทำตลาดประเทศพม่า, ลาว และกัมพูชา ด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานของไทย เช่น ระบบไอที, รูปแบบการทำตลาด, ระบบการเงิน และการบริหารจัดการคู่ค้า เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายการบริหาร รวมถึงใช้แคมเปญการตลาดเหมือนกันทั้งหมด แต่จะโลคอลไลซ์ให้เข้ากับภาษาท้องถิ่น แต่ละประเทศจะมีสาขาและทีมตลาดเพื่อรองรับประชากรกว่า 300 ล้านคนซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่มาก"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423467683
ขณะที่รายได้ของ "เอเซอร์" ในไทยปีก่อนไม่เติบโต ยอดขายคอมพิวเตอร์ลดลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2556 แม้ส่วนแบ่งการตลาดยังเป็นอันดับ 1 ที่ 28% ขณะที่สมาร์ทโฟนและแท็บเลตโตถึง 133% เพราะเพิ่งเริ่มทำตลาดและร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ผูกแพ็กเกจราคาพิเศษจนมียอดขายกว่า 700,000 เครื่อง มีส่วนแบ่งตลาด 5% ในตลาดสมาร์ทโฟน
_____________________________________________________
เอเซอร์เร่งเกมบุกรับกำลังซื้อ ดันไทยสยายปีกคุมอินโดจีน
"เอเซอร์" มั่นใจกำลังซื้อเริ่มฟื้น-ภาครัฐเดินหน้าลงทุนปลุกตลาดไอทีไทยเติบโต 10% ตั้งเป้าดันรายได้รวมโตตาม โฟกัส "โน้ตบุ๊ก" ราคาไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งเข็นสมาร์ทโฟน 10 รุ่นใหม่ลงตลาด เร่งเกมบุกกลุ่มองค์กรมองไกล 3 ปี ปั๊มรายได้แตะ 50% ของรายได้รวม
นายอลัน เจียง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีในไทยปีนี้จะกลับมาเติบโตเกือบ 10% อีกครั้ง หลังจากปีที่แล้วกำลังซื้อหาย จนทำให้ผู้ประกอบการบางรายต้องถอนตัวออกจากตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า "คอมพิวเตอร์" หดตัวกว่า 17% แต่มองว่าน่าจะเป็นปีที่ตกต่ำที่สุดแล้ว
"ปีนี้กำลังซื้อเริ่มกลับมา และยังมีการมาของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ในครึ่งปีหลัง"
ขณะที่รายได้ของ "เอเซอร์" ในไทยปีก่อนไม่เติบโต ยอดขายคอมพิวเตอร์ลดลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2556 แม้ส่วนแบ่งการตลาดยังเป็นอันดับ 1 ที่ 28% ขณะที่สมาร์ทโฟนและแท็บเลตโตถึง 133% เพราะเพิ่งเริ่มทำตลาดและร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ผูกแพ็กเกจราคาพิเศษจนมียอดขายกว่า 700,000 เครื่อง มีส่วนแบ่งตลาด 5% ในตลาดสมาร์ทโฟน
ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักจากปีก่อน มีรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กร 25% จากการลงทุนของภาครัฐที่จะเพิ่มขึ้นจากลูกค้าทั่วไป 55% (เน้นโน้ตบุ๊กราคา 10,000-15,000 บาท) และอีก 20% มาจากสมาร์ทโฟน โดยจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับล่างถึงกลาง 10 รุ่น ซึ่งนอกจากเน้นการทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์แล้ว ยังจะเพิ่มการเจาะตลาดค้าปลีกกับกลุ่มผู้ค้ารายย่อยเพิ่มเติม
"ถึงสมาร์ทดีไวซ์จะโตเร็วแค่ไหน แต่เอเซอร์ยังโฟกัสคอร์บิสซิเนสที่คอมพิวเตอร์ สินค้าอื่นคือส่วนเสริมรายได้ รวมถึงการพัฒนาระบบคลาวด์ หรือ BYOD ให้ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภครวมถึงเน้นลูกค้าองค์กรให้มากขึ้นด้วย ขณะนี้มีการใช้งานทั่วโลก 1 ล้านไอดี"
พร้อมจะผลักดันให้รายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรมีสัดส่วนที่ 50% ของรายได้รวมภายใน 3 ปี เพื่อรักษาการเติบโตในระยะยาว โดยเพิ่มความหลากหลายของสินค้ากลุ่มองค์กร เช่น นำ "โครมบุ๊ก" โน้ตบุ๊กราคาประหยัดของกูเกิลมาทำตลาดในไทยเป็นรายแรก รวมถึงเซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ, กล้องวงจรปิด เน้นขายเป็นโซลูชั่นมากขึ้น
"นอกจากจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสมาร์ทโฟนเป็น 7% แล้ว ยังจะเป็นเบอร์ 1 ในตลาดคอมพิวเตอร์เช่นเดิม โดยเฉพาะกับโน้ตบุ๊กและวินโดวส์แท็บเลต ซึ่งสิ้นปี 2257 มีส่วนแบ่งถึง 38% ส่วนเดสก์ทอปยังเป็นอันดับ 3"
โดยไทยยังเป็นศูนย์กลางในการทำตลาดประเทศพม่า, ลาว และกัมพูชา ด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานของไทย เช่น ระบบไอที, รูปแบบการทำตลาด, ระบบการเงิน และการบริหารจัดการคู่ค้า เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายการบริหาร รวมถึงใช้แคมเปญการตลาดเหมือนกันทั้งหมด แต่จะโลคอลไลซ์ให้เข้ากับภาษาท้องถิ่น แต่ละประเทศจะมีสาขาและทีมตลาดเพื่อรองรับประชากรกว่า 300 ล้านคนซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่มาก"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423467683
ไม่มีความคิดเห็น: