09 กุมภาพันธ์ 2558 Swatch.Nick Hayek ระบุ จะรองรับการทำงานกับแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) และแอนดรอยด์ (Android)
ประเด็นหลัก
นิก ฮาเยก (Nick Hayek) ประธานบริหาร Swatch ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ถึงคุณสมบัติของสมาร์ทวอตช์แบรนด์ Swatch ที่กำลังจะเปิดตัวว่า นาฬิกาของ Swatch จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพา ขณะเดียวกัน ก็จะรองรับการทำงานกับแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) และแอนดรอยด์ (Android) โดยทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของสมาร์ทวอตช์แบรนด์ Swatch มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
คำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร Swatch นี้เกิดขึ้นหลังจากความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ครั้งนั้น Swatch ออกมาเปิดเผยว่า เตรียมเปิดตัวนาฬิกาไฮเทคต่ออินเทอร์เน็ตได้เพื่อจำหน่ายในปี 2015 โดยระบุว่า มีหลายบริษัทไอทีเสนอตัวเป็นพันธมิตรแต่ Swatch จะพัฒนาด้วยตัวเองเป็นหลัก ทำให้ Swatch ถูกมองว่า พร้อมรบกับยักษ์ใหญ่ไอทีที่พร้อมใจพัฒนานาฬิกาไฮเทคอย่างแอปเปิล (Apple), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), ซัมซุง (Samsung) และอื่นๆซึ่งอาจทำให้ Swatch เสียรายได้ และส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาโลกไปหลายเปอร์เซ็นต์
ที่ผ่านมา Swatch ลงมือจำหน่ายนาฬิกาที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายสมาร์ทวอตช์แล้วในระดับหนึ่ง เช่น การพัฒนาแบตเตอรี่นาฬิกาบางเบา และบิดงอได้ที่มีอายุใช้งานนานพิเศษ รวมถึงการใช้เซ็นเซอร์พิเศษสำหรับนักดำน้ำทั้งเครื่องมือวัดความสูง เข็มทิศ และอื่นๆ ในนาฬิกาหรูแบรนด์ Tissot
_____________________________________________________
ไม่เกิน พ.ค. ปีนี้ “Swatch” พร้อมคลอด smartwatch
ขณะที่โลกกำลังนับถอยหลังสู่การเปิดตลาดนาฬิกาอัจฉริยะ หรือสมาร์ทวอตช์ ของแอปเปิลในเดือนเมษายนปีนี้ เจ้าพ่อนาฬิกาแฟชันอย่าง “สวอตช์ (Swatch)” ก็ออกตัวบ้างว่าได้เตรียมพร้อมวางจำหน่ายสมาร์ทวอตช์ของตัวเองในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้เช่นกัน แถมเป็นนาฬิกาไฮเทคที่สามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้แบบ “ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม”
นิก ฮาเยก (Nick Hayek) ประธานบริหาร Swatch ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ถึงคุณสมบัติของสมาร์ทวอตช์แบรนด์ Swatch ที่กำลังจะเปิดตัวว่า นาฬิกาของ Swatch จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพา ขณะเดียวกัน ก็จะรองรับการทำงานกับแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) และแอนดรอยด์ (Android) โดยทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของสมาร์ทวอตช์แบรนด์ Swatch มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
คำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร Swatch นี้เกิดขึ้นหลังจากความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ครั้งนั้น Swatch ออกมาเปิดเผยว่า เตรียมเปิดตัวนาฬิกาไฮเทคต่ออินเทอร์เน็ตได้เพื่อจำหน่ายในปี 2015 โดยระบุว่า มีหลายบริษัทไอทีเสนอตัวเป็นพันธมิตรแต่ Swatch จะพัฒนาด้วยตัวเองเป็นหลัก ทำให้ Swatch ถูกมองว่า พร้อมรบกับยักษ์ใหญ่ไอทีที่พร้อมใจพัฒนานาฬิกาไฮเทคอย่างแอปเปิล (Apple), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), ซัมซุง (Samsung) และอื่นๆซึ่งอาจทำให้ Swatch เสียรายได้ และส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาโลกไปหลายเปอร์เซ็นต์
ที่ผ่านมา Swatch ลงมือจำหน่ายนาฬิกาที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายสมาร์ทวอตช์แล้วในระดับหนึ่ง เช่น การพัฒนาแบตเตอรี่นาฬิกาบางเบา และบิดงอได้ที่มีอายุใช้งานนานพิเศษ รวมถึงการใช้เซ็นเซอร์พิเศษสำหรับนักดำน้ำทั้งเครื่องมือวัดความสูง เข็มทิศ และอื่นๆ ในนาฬิกาหรูแบรนด์ Tissot
ไม่เกิน พ.ค. ปีนี้ “Swatch” พร้อมคลอด smartwatch
สำหรับสมาร์ทวอตช์รุ่นถัดไปที่กำลังจะแจ้งเกิด ผู้บริหาร Swatch ยืนยันต่อสื่อมวลชนอเมริกันแล้วว่า จะเน้นพัฒนาให้นาฬิกามีจุดเด่นด้านการสื่อสาร ขณะเดียวกัน ก็จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ชำระเงินผ่านระบบโมบายเพย์เมนต์ได้ที่ร้านค้าปลีก อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชันที่ถูกระบุว่าสามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทวอตช์ของ Swatch ได้มีเพียงแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการ Windows และ Android เท่านั้น โดยระบบไอโอเอส (iOS) ไม่มีการกล่าวถึงแต่อย่างใด
จุดที่น่าสนใจคือ ร้านค้าปลีกที่ผู้บริหาร Swatch ระบุว่า จะทำให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินด้วยอุปกรณ์พกพาผ่านนาฬิกา Swatch ได้แก่ Migros และ Coop ทั้งคู่เป็นร้านค้าปลีกสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่คุณสมบัตินี้อาจใช้งานได้ที่สวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นในเบื้องต้น
แม้จะไม่มีการระบุกรอบเวลาวางจำหน่ายที่แน่ชัด แต่คำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร Swatch สะท้อนว่า เจ้าพ่อนาฬิกาโลกมีการเตรียมพร้อมรับมือการเปิดตลาดของแอปเปิลวอตช์ (Apple Watch) ซึ่งมีกำหนดขายจริงเดือนเมษายนนี้ โดยนอกจากแอปเปิล Swatch ยังมีคู่แข่งรายอื่นอย่างแบรนด์ “แพบเบิล (Pebble)” ที่เพิ่งประกาศฉลองชัยยอดจำหน่ายนาฬิกาไฮเทคทะลุ 1 ล้านเครื่อง ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์มองว่า ความท้าทายที่ผู้ผลิตสมาร์ทวอตช์ทุกคนต้องเผชิญคือ การสร้างสินค้าที่โดนใจผู้บริโภค ทั้งอายุแบตเตอรี่ที่ต้องใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน ขนาดนาฬิกาที่ต้องไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ความสะดวกสบายจากการสวมใส่ รวมถึงการรองรับสมาร์ทโฟนที่หลากหลาย ซึ่งใครที่ก้าวพลาดในประเด็นเหล่านี้จะมีโอกาสสูงมากที่สมาร์ทวอตช์ของผู้ผลิตรายนั้นจะล้มเหลว และไม่สามารถแจ้งเกิดในตลาดได้
เหนืออื่นใด คำให้สัมภาษณ์ทุกครั้งของผู้บริหาร Swatch ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจาก Swatch เป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะเดียวกัน ตลาดสินค้าไอทีสวมใส่ได้นั้นมีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็วจนคาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 9.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คำประกาศจาก Swatch จึงสะท้อนว่า เจ้าพ่อวงการนาฬิกาโลกมองเห็นโอกาสเติบโตในตลาดนี้ มากกว่าจะมองว่าเป็นภัยคุกคามที่จะทำให้เม็ดเงินในตลาดนาฬิกาแฟชั่นหดตัว
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000014739
นิก ฮาเยก (Nick Hayek) ประธานบริหาร Swatch ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ถึงคุณสมบัติของสมาร์ทวอตช์แบรนด์ Swatch ที่กำลังจะเปิดตัวว่า นาฬิกาของ Swatch จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพา ขณะเดียวกัน ก็จะรองรับการทำงานกับแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) และแอนดรอยด์ (Android) โดยทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของสมาร์ทวอตช์แบรนด์ Swatch มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
คำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร Swatch นี้เกิดขึ้นหลังจากความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ครั้งนั้น Swatch ออกมาเปิดเผยว่า เตรียมเปิดตัวนาฬิกาไฮเทคต่ออินเทอร์เน็ตได้เพื่อจำหน่ายในปี 2015 โดยระบุว่า มีหลายบริษัทไอทีเสนอตัวเป็นพันธมิตรแต่ Swatch จะพัฒนาด้วยตัวเองเป็นหลัก ทำให้ Swatch ถูกมองว่า พร้อมรบกับยักษ์ใหญ่ไอทีที่พร้อมใจพัฒนานาฬิกาไฮเทคอย่างแอปเปิล (Apple), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), ซัมซุง (Samsung) และอื่นๆซึ่งอาจทำให้ Swatch เสียรายได้ และส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาโลกไปหลายเปอร์เซ็นต์
ที่ผ่านมา Swatch ลงมือจำหน่ายนาฬิกาที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายสมาร์ทวอตช์แล้วในระดับหนึ่ง เช่น การพัฒนาแบตเตอรี่นาฬิกาบางเบา และบิดงอได้ที่มีอายุใช้งานนานพิเศษ รวมถึงการใช้เซ็นเซอร์พิเศษสำหรับนักดำน้ำทั้งเครื่องมือวัดความสูง เข็มทิศ และอื่นๆ ในนาฬิกาหรูแบรนด์ Tissot
_____________________________________________________
ไม่เกิน พ.ค. ปีนี้ “Swatch” พร้อมคลอด smartwatch
ขณะที่โลกกำลังนับถอยหลังสู่การเปิดตลาดนาฬิกาอัจฉริยะ หรือสมาร์ทวอตช์ ของแอปเปิลในเดือนเมษายนปีนี้ เจ้าพ่อนาฬิกาแฟชันอย่าง “สวอตช์ (Swatch)” ก็ออกตัวบ้างว่าได้เตรียมพร้อมวางจำหน่ายสมาร์ทวอตช์ของตัวเองในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้เช่นกัน แถมเป็นนาฬิกาไฮเทคที่สามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้แบบ “ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม”
นิก ฮาเยก (Nick Hayek) ประธานบริหาร Swatch ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ถึงคุณสมบัติของสมาร์ทวอตช์แบรนด์ Swatch ที่กำลังจะเปิดตัวว่า นาฬิกาของ Swatch จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพา ขณะเดียวกัน ก็จะรองรับการทำงานกับแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) และแอนดรอยด์ (Android) โดยทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของสมาร์ทวอตช์แบรนด์ Swatch มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
คำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร Swatch นี้เกิดขึ้นหลังจากความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ครั้งนั้น Swatch ออกมาเปิดเผยว่า เตรียมเปิดตัวนาฬิกาไฮเทคต่ออินเทอร์เน็ตได้เพื่อจำหน่ายในปี 2015 โดยระบุว่า มีหลายบริษัทไอทีเสนอตัวเป็นพันธมิตรแต่ Swatch จะพัฒนาด้วยตัวเองเป็นหลัก ทำให้ Swatch ถูกมองว่า พร้อมรบกับยักษ์ใหญ่ไอทีที่พร้อมใจพัฒนานาฬิกาไฮเทคอย่างแอปเปิล (Apple), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), ซัมซุง (Samsung) และอื่นๆซึ่งอาจทำให้ Swatch เสียรายได้ และส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาโลกไปหลายเปอร์เซ็นต์
ที่ผ่านมา Swatch ลงมือจำหน่ายนาฬิกาที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายสมาร์ทวอตช์แล้วในระดับหนึ่ง เช่น การพัฒนาแบตเตอรี่นาฬิกาบางเบา และบิดงอได้ที่มีอายุใช้งานนานพิเศษ รวมถึงการใช้เซ็นเซอร์พิเศษสำหรับนักดำน้ำทั้งเครื่องมือวัดความสูง เข็มทิศ และอื่นๆ ในนาฬิกาหรูแบรนด์ Tissot
ไม่เกิน พ.ค. ปีนี้ “Swatch” พร้อมคลอด smartwatch
สำหรับสมาร์ทวอตช์รุ่นถัดไปที่กำลังจะแจ้งเกิด ผู้บริหาร Swatch ยืนยันต่อสื่อมวลชนอเมริกันแล้วว่า จะเน้นพัฒนาให้นาฬิกามีจุดเด่นด้านการสื่อสาร ขณะเดียวกัน ก็จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ชำระเงินผ่านระบบโมบายเพย์เมนต์ได้ที่ร้านค้าปลีก อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชันที่ถูกระบุว่าสามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทวอตช์ของ Swatch ได้มีเพียงแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการ Windows และ Android เท่านั้น โดยระบบไอโอเอส (iOS) ไม่มีการกล่าวถึงแต่อย่างใด
จุดที่น่าสนใจคือ ร้านค้าปลีกที่ผู้บริหาร Swatch ระบุว่า จะทำให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินด้วยอุปกรณ์พกพาผ่านนาฬิกา Swatch ได้แก่ Migros และ Coop ทั้งคู่เป็นร้านค้าปลีกสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่คุณสมบัตินี้อาจใช้งานได้ที่สวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นในเบื้องต้น
แม้จะไม่มีการระบุกรอบเวลาวางจำหน่ายที่แน่ชัด แต่คำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร Swatch สะท้อนว่า เจ้าพ่อนาฬิกาโลกมีการเตรียมพร้อมรับมือการเปิดตลาดของแอปเปิลวอตช์ (Apple Watch) ซึ่งมีกำหนดขายจริงเดือนเมษายนนี้ โดยนอกจากแอปเปิล Swatch ยังมีคู่แข่งรายอื่นอย่างแบรนด์ “แพบเบิล (Pebble)” ที่เพิ่งประกาศฉลองชัยยอดจำหน่ายนาฬิกาไฮเทคทะลุ 1 ล้านเครื่อง ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์มองว่า ความท้าทายที่ผู้ผลิตสมาร์ทวอตช์ทุกคนต้องเผชิญคือ การสร้างสินค้าที่โดนใจผู้บริโภค ทั้งอายุแบตเตอรี่ที่ต้องใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน ขนาดนาฬิกาที่ต้องไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ความสะดวกสบายจากการสวมใส่ รวมถึงการรองรับสมาร์ทโฟนที่หลากหลาย ซึ่งใครที่ก้าวพลาดในประเด็นเหล่านี้จะมีโอกาสสูงมากที่สมาร์ทวอตช์ของผู้ผลิตรายนั้นจะล้มเหลว และไม่สามารถแจ้งเกิดในตลาดได้
เหนืออื่นใด คำให้สัมภาษณ์ทุกครั้งของผู้บริหาร Swatch ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจาก Swatch เป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะเดียวกัน ตลาดสินค้าไอทีสวมใส่ได้นั้นมีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็วจนคาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 9.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คำประกาศจาก Swatch จึงสะท้อนว่า เจ้าพ่อวงการนาฬิกาโลกมองเห็นโอกาสเติบโตในตลาดนี้ มากกว่าจะมองว่าเป็นภัยคุกคามที่จะทำให้เม็ดเงินในตลาดนาฬิกาแฟชั่นหดตัว
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000014739
ไม่มีความคิดเห็น: