05 กุมภาพันธ์ 2558 IPM ลดค่าบริการในการนำรายการมาออกอากาศผ่านโครงข่ายทีวีดาวเทียม ที่แต่เดิมจะอยู่ที่ 700,000 บาท/เดือน เหลือเพียง 400,000 บาท/เดือน เพื่อกระตุ้นให้ผู้สนใจทำธุรกิจ
ประเด็นหลัก
นายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการ บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด และประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การจัดงาน "มหกรรมดาวเทียม 2015" ของชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ด้วยการรวบรวมผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียม และช่องรายการต่าง ๆ มาจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าทีวีดาวเทียมยังคงให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีโปรโมชั่นให้ผู้บริโภคนำกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลแบบไหนก็ได้มาแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมรุ่นสแตนดาร์ดได้ฟรี หรือเพิ่มเงิน 900 บาทขึ้นไป สำหรับกล่องความละเอียดสูง (HD) ปรากฏว่าแคมเปญนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีการนำกล่องทีวีดิจิทัลมาแลกกว่า 40,000 กล่อง
"ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคทั่วไปที่นำมาแลก แต่รวมถึงห้างร้านต่าง ๆ ช่วยกันรวบรวมกล่องของลูกค้าในต่างจังหวัดนำมาแลกด้วย แม้ว่าแคมเปญนี้เราจะขาดทุนแต่ก็ถือว่าคุ้ม เพราะเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าทีวีดาวเทียมยังอยู่ และมีฐานผู้ชมที่มั่นคง และมากที่สุดเมื่อเทียบกับการรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ สำหรับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลที่รับแลกมานั้นจะมีการนำไปจำหน่ายให้ผู้ให้บริการเคเบิลทีวี เพราะสามารถนำมาดัดแปลงป็นกล่องรับสัญญาณเคเบิลทีวีได้"
และเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาทำช่องทีวีดาวเทียมมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา บริษัทได้ลดค่าบริการในการนำรายการมาออกอากาศผ่านโครงข่ายทีวีดาวเทียม ที่แต่เดิมจะอยู่ที่ 700,000 บาท/เดือน เหลือเพียง 400,000 บาท/เดือน เพื่อกระตุ้นให้ผู้สนใจทำธุรกิจ หรือต้องการนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ มาทำตลาดผ่านระบบดาวเทียมกลับมาลงทุนอีกครั้ง หลังจากมีช่องรายการต่าง ๆ กว่า 20 ช่องเลิกกิจการไปในปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถต้านทานกระแสทีวีดิจิทัลได้
ในส่วนของการขายอุปกรณ์รับชมทีวีดาวเทียม บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 1,000,000 กล่อง เพิ่มจากปีที่แล้ว 10-20% เนื่องจากมีช่องรายการ HD มากถึง 30 ช่อง จึงเชื่อว่าจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้ ขณะที่ราคากล่องถูกที่สุดอยู่ที่ราคา 490 บาทเท่านั้น โดยมีแพ็กเกจจ่ายครั้งเดียว 500-1,250 บาท จะรับชมรายการต่าง ๆ ได้ทันที
_____________________________________________________
ทีวีดาวเทียมดัมพ์ "ราคา" ฟื้นตลาด หั่น "ค่าเช่าช่อง-เซตท็อปบ็อกซ์" เร่งขยายฐานคนดู
"ทีวีดาวเทียม" ดิ้นสู้ฟัด 360 องศา "ไอพีเอ็ม" นำร่องหั่น "ค่าเช่าช่องรายการ" จาก 700,000 บาท/เดือน เหลือ 400,000 บาท หวังปลุกกระแสดึง "ผู้ผลิตรายการ และเจ้าของสินค้า" หน้าใหม่-หน้าเก่าหวนคืนวงการ ดัมพ์ราคา "เซตท็อป บ็อกซ์" เหลือแค่ 490 บาท ฟากยักษ์ "พีเอสไอ" ร่วมด้วยช่วยกันปลุกตลาด ผนึก "ซีทีเอช" ดึงคอนเทนต์สร้างความแตกต่าง ทั้งเผยยอดแคมเปญ "กล่องแลกกล่อง" พุ่งกระฉูด งานแค่ 3 วัน แห่ขนกล่องทีวีดิจิทัลมาแลกกล่องทีวีดาวเทียมทะลุ 40,000 กล่อง
นายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการ บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด และประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การจัดงาน "มหกรรมดาวเทียม 2015" ของชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ด้วยการรวบรวมผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียม และช่องรายการต่าง ๆ มาจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าทีวีดาวเทียมยังคงให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีโปรโมชั่นให้ผู้บริโภคนำกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลแบบไหนก็ได้มาแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมรุ่นสแตนดาร์ดได้ฟรี หรือเพิ่มเงิน 900 บาทขึ้นไป สำหรับกล่องความละเอียดสูง (HD) ปรากฏว่าแคมเปญนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีการนำกล่องทีวีดิจิทัลมาแลกกว่า 40,000 กล่อง
"ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคทั่วไปที่นำมาแลก แต่รวมถึงห้างร้านต่าง ๆ ช่วยกันรวบรวมกล่องของลูกค้าในต่างจังหวัดนำมาแลกด้วย แม้ว่าแคมเปญนี้เราจะขาดทุนแต่ก็ถือว่าคุ้ม เพราะเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าทีวีดาวเทียมยังอยู่ และมีฐานผู้ชมที่มั่นคง และมากที่สุดเมื่อเทียบกับการรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ สำหรับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลที่รับแลกมานั้นจะมีการนำไปจำหน่ายให้ผู้ให้บริการเคเบิลทีวี เพราะสามารถนำมาดัดแปลงป็นกล่องรับสัญญาณเคเบิลทีวีได้"
และเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาทำช่องทีวีดาวเทียมมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา บริษัทได้ลดค่าบริการในการนำรายการมาออกอากาศผ่านโครงข่ายทีวีดาวเทียม ที่แต่เดิมจะอยู่ที่ 700,000 บาท/เดือน เหลือเพียง 400,000 บาท/เดือน เพื่อกระตุ้นให้ผู้สนใจทำธุรกิจ หรือต้องการนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ มาทำตลาดผ่านระบบดาวเทียมกลับมาลงทุนอีกครั้ง หลังจากมีช่องรายการต่าง ๆ กว่า 20 ช่องเลิกกิจการไปในปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถต้านทานกระแสทีวีดิจิทัลได้
ในส่วนของการขายอุปกรณ์รับชมทีวีดาวเทียม บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 1,000,000 กล่อง เพิ่มจากปีที่แล้ว 10-20% เนื่องจากมีช่องรายการ HD มากถึง 30 ช่อง จึงเชื่อว่าจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้ ขณะที่ราคากล่องถูกที่สุดอยู่ที่ราคา 490 บาทเท่านั้น โดยมีแพ็กเกจจ่ายครั้งเดียว 500-1,250 บาท จะรับชมรายการต่าง ๆ ได้ทันที
ด้านนายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ยอดแลกกล่อง "พีเอสไอ" ในงานมหกรรมดาวเทียมมีมากกว่า 2 หมื่นกล่อง คาดว่าทีวีดาวเทียมจะกลับมาบูมแน่นอน โดยทั้งตลาดจะมียอดขายกว่า 7 ล้านกล่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 30% เพราะผู้บริโภคปัจจุบันเริ่มรู้แล้วว่าทีวีดิจิทัลรับชมได้ไม่ถึง 30 ช่อง แตกต่างจากทีวีดาวเทียมที่มีช่องรายการมากกว่า 200 ช่อง
อย่างไรก็ตามกระแสการผลักดันการเปลี่ยนผ่านการรับชมทีวีจากแอนะล็อกไปยังดิจิทัลได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทีวีดาวเทียมด้วยเช่นกัน โดยยอดขายกล่องทั้งตลาดลดลง 20% แต่จะเริ่มดีขึ้น
"การกลับมารับชมทีวีดาวเทียมของผู้บริโภคหนนี้ พบว่าผู้ชมนิยมซื้อกล่อง HD ราคาเฉลี่ย 1.5 พันบาทมาใช้งานเพิ่ม จากเดิมนิยมกล่องราคาไม่ถึงพันบาท เมื่อมูลค่าต่อกล่องสูงขึ้น คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต, ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม และผู้ทำคอนเทนต์อยู่รอดมากขึ้น"
อีกปัจจัยที่จะทำให้ตลาดทีวีดาวเทียมฟื้นตัวอีกครั้ง คือการลดค่าบริการโครงข่ายทั้งผู้เช่ารายใหม่และรายเดิม เพื่อส่งเสริมให้มีช่องทีวีบนโครงข่ายดาวเทียมเพิ่มขึ้น รวมถึงเปิดให้ผู้ที่มีกล่องดาวเทียมรุ่น O2 รับชมช่องรายการ CTH ฟรี 7 วัน และรับสิทธิ์เติมเงินในแพ็กเกจพิเศษตั้งแต่ 270-750 บาท/เดือน และ 1,500-4,999 บาท/ปี
สำหรับเป้าหมายรายได้ของพีเอสไอปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท 70% มาจากการขายกล่องทีวีดาวเทียมที่เหลือมาจากการรับขึ้นช่องรายการและอื่น ๆ
"ปีนี้ที่เราตั้งเป้ายอดขายกล่องในไทย 3 ล้านกล่อง ในพม่า และลาว 2 ล้านกล่อง และภายใน 3-5 ปี พีเอสไอจะเข้าไปจำหน่ายชุดรับสัญญาณดาวเทียมในประเทศกลุ่มอาเซียน เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม ตอนนั้นรายได้คงไปถึง 4,000-5,000 ล้านบาท และเตรียมนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อขยายธุรกิจด้วย"
นายนิรันดร์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโฟแซท อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตจานดาวเทียมและนำเข้ากล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีนี้ผู้ประกอบการทุกรายยอมแบกต้นทุนกล่องทีวีดาวเทียมที่มีราคาสูงขึ้น เพื่อให้ราคาจำหน่ายในตลาดใกล้เคียงกับปีที่แล้วเพื่อดึงดูดผู้บริโภคไว้ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้รับรู้ว่ากล่องทีวีดาวเทียมดูทีวีดิจิทัลได้ เพื่อรักษายอดขาย
สำหรับกล่องทีวีดาวเทียมที่ "อินโฟแซท" จะทำตลาดในปีนี้ เน้นใช้กลยุทธ์ "ราคา" สู้กับกล่องทีวีดิจิทัลราคา 690 บาท โดยจะทำตลาดกล่องรุ่น Zimple Box 3 ราคา 650 บาท ที่ให้ภาพคมชัดระดับ SD และรับชมรายการได้กว่า 10 เท่าของกล่องทีวีดิจิทัล ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 700,000 กล่อง สูงกว่าปีที่แล้วที่ขายได้ 500,000-600,000 กล่อง
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423082906
นายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการ บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด และประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การจัดงาน "มหกรรมดาวเทียม 2015" ของชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ด้วยการรวบรวมผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียม และช่องรายการต่าง ๆ มาจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าทีวีดาวเทียมยังคงให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีโปรโมชั่นให้ผู้บริโภคนำกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลแบบไหนก็ได้มาแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมรุ่นสแตนดาร์ดได้ฟรี หรือเพิ่มเงิน 900 บาทขึ้นไป สำหรับกล่องความละเอียดสูง (HD) ปรากฏว่าแคมเปญนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีการนำกล่องทีวีดิจิทัลมาแลกกว่า 40,000 กล่อง
"ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคทั่วไปที่นำมาแลก แต่รวมถึงห้างร้านต่าง ๆ ช่วยกันรวบรวมกล่องของลูกค้าในต่างจังหวัดนำมาแลกด้วย แม้ว่าแคมเปญนี้เราจะขาดทุนแต่ก็ถือว่าคุ้ม เพราะเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าทีวีดาวเทียมยังอยู่ และมีฐานผู้ชมที่มั่นคง และมากที่สุดเมื่อเทียบกับการรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ สำหรับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลที่รับแลกมานั้นจะมีการนำไปจำหน่ายให้ผู้ให้บริการเคเบิลทีวี เพราะสามารถนำมาดัดแปลงป็นกล่องรับสัญญาณเคเบิลทีวีได้"
และเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาทำช่องทีวีดาวเทียมมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา บริษัทได้ลดค่าบริการในการนำรายการมาออกอากาศผ่านโครงข่ายทีวีดาวเทียม ที่แต่เดิมจะอยู่ที่ 700,000 บาท/เดือน เหลือเพียง 400,000 บาท/เดือน เพื่อกระตุ้นให้ผู้สนใจทำธุรกิจ หรือต้องการนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ มาทำตลาดผ่านระบบดาวเทียมกลับมาลงทุนอีกครั้ง หลังจากมีช่องรายการต่าง ๆ กว่า 20 ช่องเลิกกิจการไปในปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถต้านทานกระแสทีวีดิจิทัลได้
ในส่วนของการขายอุปกรณ์รับชมทีวีดาวเทียม บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 1,000,000 กล่อง เพิ่มจากปีที่แล้ว 10-20% เนื่องจากมีช่องรายการ HD มากถึง 30 ช่อง จึงเชื่อว่าจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้ ขณะที่ราคากล่องถูกที่สุดอยู่ที่ราคา 490 บาทเท่านั้น โดยมีแพ็กเกจจ่ายครั้งเดียว 500-1,250 บาท จะรับชมรายการต่าง ๆ ได้ทันที
_____________________________________________________
ทีวีดาวเทียมดัมพ์ "ราคา" ฟื้นตลาด หั่น "ค่าเช่าช่อง-เซตท็อปบ็อกซ์" เร่งขยายฐานคนดู
"ทีวีดาวเทียม" ดิ้นสู้ฟัด 360 องศา "ไอพีเอ็ม" นำร่องหั่น "ค่าเช่าช่องรายการ" จาก 700,000 บาท/เดือน เหลือ 400,000 บาท หวังปลุกกระแสดึง "ผู้ผลิตรายการ และเจ้าของสินค้า" หน้าใหม่-หน้าเก่าหวนคืนวงการ ดัมพ์ราคา "เซตท็อป บ็อกซ์" เหลือแค่ 490 บาท ฟากยักษ์ "พีเอสไอ" ร่วมด้วยช่วยกันปลุกตลาด ผนึก "ซีทีเอช" ดึงคอนเทนต์สร้างความแตกต่าง ทั้งเผยยอดแคมเปญ "กล่องแลกกล่อง" พุ่งกระฉูด งานแค่ 3 วัน แห่ขนกล่องทีวีดิจิทัลมาแลกกล่องทีวีดาวเทียมทะลุ 40,000 กล่อง
นายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการ บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด และประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การจัดงาน "มหกรรมดาวเทียม 2015" ของชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ด้วยการรวบรวมผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียม และช่องรายการต่าง ๆ มาจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าทีวีดาวเทียมยังคงให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีโปรโมชั่นให้ผู้บริโภคนำกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลแบบไหนก็ได้มาแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมรุ่นสแตนดาร์ดได้ฟรี หรือเพิ่มเงิน 900 บาทขึ้นไป สำหรับกล่องความละเอียดสูง (HD) ปรากฏว่าแคมเปญนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีการนำกล่องทีวีดิจิทัลมาแลกกว่า 40,000 กล่อง
"ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคทั่วไปที่นำมาแลก แต่รวมถึงห้างร้านต่าง ๆ ช่วยกันรวบรวมกล่องของลูกค้าในต่างจังหวัดนำมาแลกด้วย แม้ว่าแคมเปญนี้เราจะขาดทุนแต่ก็ถือว่าคุ้ม เพราะเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าทีวีดาวเทียมยังอยู่ และมีฐานผู้ชมที่มั่นคง และมากที่สุดเมื่อเทียบกับการรับชมโทรทัศน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ สำหรับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลที่รับแลกมานั้นจะมีการนำไปจำหน่ายให้ผู้ให้บริการเคเบิลทีวี เพราะสามารถนำมาดัดแปลงป็นกล่องรับสัญญาณเคเบิลทีวีได้"
และเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาทำช่องทีวีดาวเทียมมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา บริษัทได้ลดค่าบริการในการนำรายการมาออกอากาศผ่านโครงข่ายทีวีดาวเทียม ที่แต่เดิมจะอยู่ที่ 700,000 บาท/เดือน เหลือเพียง 400,000 บาท/เดือน เพื่อกระตุ้นให้ผู้สนใจทำธุรกิจ หรือต้องการนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ มาทำตลาดผ่านระบบดาวเทียมกลับมาลงทุนอีกครั้ง หลังจากมีช่องรายการต่าง ๆ กว่า 20 ช่องเลิกกิจการไปในปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถต้านทานกระแสทีวีดิจิทัลได้
ในส่วนของการขายอุปกรณ์รับชมทีวีดาวเทียม บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 1,000,000 กล่อง เพิ่มจากปีที่แล้ว 10-20% เนื่องจากมีช่องรายการ HD มากถึง 30 ช่อง จึงเชื่อว่าจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้ ขณะที่ราคากล่องถูกที่สุดอยู่ที่ราคา 490 บาทเท่านั้น โดยมีแพ็กเกจจ่ายครั้งเดียว 500-1,250 บาท จะรับชมรายการต่าง ๆ ได้ทันที
ด้านนายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ยอดแลกกล่อง "พีเอสไอ" ในงานมหกรรมดาวเทียมมีมากกว่า 2 หมื่นกล่อง คาดว่าทีวีดาวเทียมจะกลับมาบูมแน่นอน โดยทั้งตลาดจะมียอดขายกว่า 7 ล้านกล่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 30% เพราะผู้บริโภคปัจจุบันเริ่มรู้แล้วว่าทีวีดิจิทัลรับชมได้ไม่ถึง 30 ช่อง แตกต่างจากทีวีดาวเทียมที่มีช่องรายการมากกว่า 200 ช่อง
อย่างไรก็ตามกระแสการผลักดันการเปลี่ยนผ่านการรับชมทีวีจากแอนะล็อกไปยังดิจิทัลได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทีวีดาวเทียมด้วยเช่นกัน โดยยอดขายกล่องทั้งตลาดลดลง 20% แต่จะเริ่มดีขึ้น
"การกลับมารับชมทีวีดาวเทียมของผู้บริโภคหนนี้ พบว่าผู้ชมนิยมซื้อกล่อง HD ราคาเฉลี่ย 1.5 พันบาทมาใช้งานเพิ่ม จากเดิมนิยมกล่องราคาไม่ถึงพันบาท เมื่อมูลค่าต่อกล่องสูงขึ้น คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต, ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม และผู้ทำคอนเทนต์อยู่รอดมากขึ้น"
อีกปัจจัยที่จะทำให้ตลาดทีวีดาวเทียมฟื้นตัวอีกครั้ง คือการลดค่าบริการโครงข่ายทั้งผู้เช่ารายใหม่และรายเดิม เพื่อส่งเสริมให้มีช่องทีวีบนโครงข่ายดาวเทียมเพิ่มขึ้น รวมถึงเปิดให้ผู้ที่มีกล่องดาวเทียมรุ่น O2 รับชมช่องรายการ CTH ฟรี 7 วัน และรับสิทธิ์เติมเงินในแพ็กเกจพิเศษตั้งแต่ 270-750 บาท/เดือน และ 1,500-4,999 บาท/ปี
สำหรับเป้าหมายรายได้ของพีเอสไอปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท 70% มาจากการขายกล่องทีวีดาวเทียมที่เหลือมาจากการรับขึ้นช่องรายการและอื่น ๆ
"ปีนี้ที่เราตั้งเป้ายอดขายกล่องในไทย 3 ล้านกล่อง ในพม่า และลาว 2 ล้านกล่อง และภายใน 3-5 ปี พีเอสไอจะเข้าไปจำหน่ายชุดรับสัญญาณดาวเทียมในประเทศกลุ่มอาเซียน เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม ตอนนั้นรายได้คงไปถึง 4,000-5,000 ล้านบาท และเตรียมนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อขยายธุรกิจด้วย"
นายนิรันดร์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโฟแซท อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตจานดาวเทียมและนำเข้ากล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีนี้ผู้ประกอบการทุกรายยอมแบกต้นทุนกล่องทีวีดาวเทียมที่มีราคาสูงขึ้น เพื่อให้ราคาจำหน่ายในตลาดใกล้เคียงกับปีที่แล้วเพื่อดึงดูดผู้บริโภคไว้ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้รับรู้ว่ากล่องทีวีดาวเทียมดูทีวีดิจิทัลได้ เพื่อรักษายอดขาย
สำหรับกล่องทีวีดาวเทียมที่ "อินโฟแซท" จะทำตลาดในปีนี้ เน้นใช้กลยุทธ์ "ราคา" สู้กับกล่องทีวีดิจิทัลราคา 690 บาท โดยจะทำตลาดกล่องรุ่น Zimple Box 3 ราคา 650 บาท ที่ให้ภาพคมชัดระดับ SD และรับชมรายการได้กว่า 10 เท่าของกล่องทีวีดิจิทัล ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 700,000 กล่อง สูงกว่าปีที่แล้วที่ขายได้ 500,000-600,000 กล่อง
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423082906
ไม่มีความคิดเห็น: