Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 กุมภาพันธ์ 2558 Apple Watch นั้นถือเป็นสินค้าตระกูลใหม่ในรอบ 4 ปี จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, รองรับ GPS และระบบ Wi-Fi ตัวสายมีให้เลือก 6 รูปแบบทั้งจากวัสดุหนังแท้ โลหะ และพลาสติก

ประเด็นหลัก



     
       Apple Watch นั้นถือเป็นสินค้าตระกูลใหม่ในรอบ 4 ปี นับจากที่แอปเปิลเปิดตัวแท็บเล็ต iPad ในปี 2010 หนึ่งในจุดเด่นของ Apple Watch คือรูปแบบหน้าปัดนาฬิกาที่แอปเปิลเปิดให้ผู้ใช้เลือกได้มากกว่า 11 แบบ แถมยังมีหน้าจอแสดงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของโลก ดวงอาทิตย์ พระจันทร์ และดาวเคราะห์อื่น ในรูปแบบโมเดล 3 มิติเรียลไทม์
     
       ทั้งหมดนี้ผู้ใช้สามารถเลื่อน ขยาย หรือเปิดใช้เมนูต่างๆ ด้วยปุ่มพิเศษด้านข้างนาฬิกาซึ่งสื่ออเมริกันให้ชื่อว่าเป็น “dial click wheel” ยุคใหม่ของแอปเปิล ปุ่มดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นปุ่ม Home button รวมถึงเป็นปุ่มสำหรับใช้งานคุณสมบัติที่แอปเปิลเรียกว่า “ดิจิตอล ทัช (Digital Touch)” ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อมูล ไฟล์ หรือข้อความเสียงผ่านระบบ Walkie Talkie ถึงผู้ใช้รายอื่นได้อย่างสะดวกสบาย
     
       เช่นเดียวกับนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไป ภายใน Apple Watch จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, รองรับ GPS และระบบ Wi-Fi ตัวสายมีให้เลือก 6 รูปแบบทั้งจากวัสดุหนังแท้ โลหะ และพลาสติก แต่ความต่างคือการใช้ชิป S1 และวัสดุหลังเครื่องที่ผู้ใช้สามารถเลือกความหรูหราได้หลายระดับ ไล่ตั้งแต่สแตนเลสอัลลอย อลูมิเนียม รวมถึงทอง 18 กะรัต

_____________________________________________________















พร้อมขาย “Apple Watch ทองแท้” แอปเปิลจัดเต็มตู้เซฟกันขโมยเหมือนร้านเพชร



รายงานจากสื่ออเมริกันระบุว่า เจ้าพ่อไอทีอย่างแอปเปิล (Apple) กำลังเตรียมจัดเต็มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ร้านค้าปลีกของตัวเองสามารถวางจำหน่ายนาฬิกาอัจฉริยะที่กำลังจะเปิดตลาดอย่าง “แอปเปิลวอตช์ (Apple Watch)” ได้ปลอดภัยกว่าเดิม โดยเฉพาะพื้นที่คลังสินค้าสำหรับจัดเก็บนาฬิการุ่นทองแท้ 18 กะรัตที่จะใช้ตู้เซฟป้องกันขโมยระดับเดียวกับร้านค้าเพชรพลอย
     
       เว็บไซต์ไนน์ทูไฟฟ์แมค (9to5Mac) อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยนาม ระบุว่าแอปเปิลกำลังเตรียมการเพื่อจำหน่าย Apple Watch รุ่นไฮเอนด์อย่างเต็มที่ก่อนกำหนดการจำหน่ายจริงช่วงกลางปีนี้ โดยแอปเปิลจะใช้ตู้เซฟจำนวนหนึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันไม่ให้ 18-karat gold Apple Watch Edition ตกอยู่ในความเสี่ยงถูกโจรกรรมช่วงกลางคืน
     
       ข้อมูลจากรายงานนี้สะท้อนว่าระบบซีเคียวริตี้สำหรับนาฬิกา Apple Watch ซึ่งตัวเรือนใช้วัสดุเป็นทอง 18 กะรัตนี้จะไม่ครอบคลุมถึงพื้นที่หน้าร้านหรือ store floor โดยนอกจากนาฬิกา ตู้เซฟจะถูกนำมาจัดเก็บอุปกรณ์ชาร์จ “แอปเปิลวอตช์ แมกเซฟ (Apple Watch MagSafe)” ซึ่งออกแบบมาสำหรับนาฬิกาอัจฉริยะโดยเฉพาะด้วย จุดนี้คาดว่าตู้เซฟทั้งหมดจะช่วยให้แอปเปิลสามารถนำอุปกรณ์มาสาธิตการทำงานในทุกวันได้อย่างปลอดภัย
     
       รายงานยังระบุด้วยว่าในกรณีที่ลูกค้ามีการส่งคืน “นาฬิกาทองแท้” มาที่หน้าร้านแอปเปิลสโตร์ แอปเปิลจะเตรียม “เครื่องชั่งน้ำหนักพิเศษ” เพื่อให้มั่นใจว่าทอง 18 กะรัตบนนาฬิกาสุดหรูจะไม่ถูกลอกหรือสกัดออกไป ถือเป็นอีกระบบรักษาความปลอดภัยระดับเดียวกับร้านเพชรที่แอปเปิลเตรียมการไว้
     
       ทั้งหมดนี้ ลูกค้าจะยังสามารถทดลองสวมใส่นาฬิกาหลากรุ่นได้เต็มที่บนโต๊ะสาธิตสินค้า จุดนี้รายงานระบุว่าแอปเปิลจะอนุญาตให้ลูกค้าสามารถสวมใส่นาฬิกาแล้วเดินไปทั่วร้านได้
     
       เบื้องต้น พนักงาน 2 คนจากร้าน Apple Store แต่ละแห่งในสหรัฐฯ จะเริ่มฝึกอบรมเพื่อเตรียมจำหน่ายนาฬิกาไฮเทคของแอปเปิลช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยการฝึกอบรมจะเกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่แอปเปิลในแคลิฟอร์เนียหรือสำนักงานในเท็กซัส จุดนี้เป็นไปตามกำหนดการที่ซีอีโอแอปเปิล ทิม คุก (Tim Cook) เคยประกาศไว้ว่า Apple Watch จะเริ่มจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้
     
       ในขณะที่แอปเปิลยังไม่มีการประกาศราคา Apple Watch รุ่นทองแท้ นักวิเคราะห์เชื่อว่านาฬิกาสุดหรูจะถูกกำหนดราคาไว้ที่ราว 4,000-5,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 128,000-160,000 บาท) สูงลิ่วเมื่อเทียบกับ Apple Watch รุ่นทั่วไปราคา 349 เหรียญสหรัฐ (ราว 11,200 บาท)
     
       สำหรับนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของแอปเปิลนั้นถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 9 กันยายน 2012 ตัวนาฬิกามีให้เลือก 2 ขนาดได้แก่ 38 มม. และ 42 มม. ผู้ใช้จะสามารถรับและส่งข้อความจากนาฬิกานี้ได้อย่างสะดวกสบาย ขณะเดียวกันก็สามารถรับสายโทรศัพท์ รวมถึงติดตามข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกายได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถถ่ายโอนข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ได้จากข้อมือของตัวเอง และสามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าอย่าง iPhone 5 ได้
     
       Apple Watch นั้นถือเป็นสินค้าตระกูลใหม่ในรอบ 4 ปี นับจากที่แอปเปิลเปิดตัวแท็บเล็ต iPad ในปี 2010 หนึ่งในจุดเด่นของ Apple Watch คือรูปแบบหน้าปัดนาฬิกาที่แอปเปิลเปิดให้ผู้ใช้เลือกได้มากกว่า 11 แบบ แถมยังมีหน้าจอแสดงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของโลก ดวงอาทิตย์ พระจันทร์ และดาวเคราะห์อื่น ในรูปแบบโมเดล 3 มิติเรียลไทม์
     
       ทั้งหมดนี้ผู้ใช้สามารถเลื่อน ขยาย หรือเปิดใช้เมนูต่างๆ ด้วยปุ่มพิเศษด้านข้างนาฬิกาซึ่งสื่ออเมริกันให้ชื่อว่าเป็น “dial click wheel” ยุคใหม่ของแอปเปิล ปุ่มดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นปุ่ม Home button รวมถึงเป็นปุ่มสำหรับใช้งานคุณสมบัติที่แอปเปิลเรียกว่า “ดิจิตอล ทัช (Digital Touch)” ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อมูล ไฟล์ หรือข้อความเสียงผ่านระบบ Walkie Talkie ถึงผู้ใช้รายอื่นได้อย่างสะดวกสบาย
     
       เช่นเดียวกับนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไป ภายใน Apple Watch จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, รองรับ GPS และระบบ Wi-Fi ตัวสายมีให้เลือก 6 รูปแบบทั้งจากวัสดุหนังแท้ โลหะ และพลาสติก แต่ความต่างคือการใช้ชิป S1 และวัสดุหลังเครื่องที่ผู้ใช้สามารถเลือกความหรูหราได้หลายระดับ ไล่ตั้งแต่สแตนเลสอัลลอย อลูมิเนียม รวมถึงทอง 18 กะรัต

http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000013151

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.